เหยื่อแก๊งตุ๋นลอตเตอรี่รางวัลมที่ 1 เข้าแจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย รายแรกโดนไป 3 แสน อีกรายแค่แสนเดียว ตำรวจสั่งอายัดตัวเพิ่มคดี
วันนี้ (4 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองปราบปราม นางกาญจนา เลิศทิพวณิช อายุ 63 ปี อยู่เลขที่ 26/353 หมู่ 3 ถนนเพชรเกษม ซอย 114 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.พร้อมด้วย นางเกตุ เกียวสัมพันธ์ อายุ 50 ปี อาชีพทำสวนมะพร้าว อยู่บ้านเลขที่ 204 ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี ผู้เสียหายซึ่งถูกแก๊งหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายเสนาะ หรือเม้ง พุ่มกระจันทร์ อายุ 43 ปี และนายโกวิท หรือแขก พุ่มกระจันทร์ สองพี่น้อง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น หรืออาศัยความอ่อนแอแห่งจิตใจของผู้ถูกหลอกลวง ซึ่งถูกตำรวจ บก.ป.จับกุมตัวไว้ได้แล้วเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นางกาญจนากล่าวว่า ช่วงเช้าวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่กำลังยืนรอรถประจำทางอยู่ที่ป้าย ย่านบางปะแก้ว เขตจอมทอง กทม. นายเสนาะได้ทำทีเข้ามาตีสนิทและอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพหลโยธิน กำลังมาปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบตู้เอทีเอ็มของธนาคารดังกล่าวในพื้นที่ ก่อนจะถามตนว่าจะเดินทางไปที่ไหนตนก็บอกว่ากำลังจะกลับบ้านที่ย่านถนนพระราม 2 นายเสนาะจึงเสนอตัวจะขับรถไปส่งโดยบอกว่าเป็นทางผ่านที่จะไปตรวจตู้เอทีเอ็มแถวนั้นพอดี ตนเห็นว่าคงไม่น่าจะมีอะไรเพราะตนก็อายุมากแล้วจึงยอมขึ้นรถไปด้วย
นางกาญจนากล่าวต่อว่า ในระหว่างที่นั่งอยู่บนรถนายเสนาะได้แวะจอดรถซึ่งเป็นจังหวะที่มีคนขายไม้หนีบผ้า รูปร่างผอม มีบาดแผลที่ขา จากนั้นนายเสนาะ ได้เหมาซื้อไม้หนีบทั้งหมด แต่ในช่วงที่กำลังจ่ายเงินทอนอยู่นั้นคนร้ายได้หยิบเอาลอตเตอรรี่ออกมา ก่อนที่นายเสนาะ จะถามว่าฉบับนี้ตรวจรางวัลหรือยังซึ่งคนร้ายบอกว่ายังไม่ได้ตรวจ พอนายเสนาะนำใบตรวจผลออกมาดูก็พูดขึ้นว่าถูกรางวัลที่ 1 คนขายไม้หนีบผ้า ทำท่าทางทีดีใจจนออกนอกหน้าก่อนจะบอกว่าคงไปขึ้นเงินเองไม่ได้เพราะเป็นคนมอญ จากนั้นนายเสนาะ จึงหันมาบอกกับตนว่าไม่น่าจะปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป โดยเสนอให้ตนรับเอาสลากกินแบ่งฯ ไปขึ้นเงินเองแล้วจ่ายเงินให้คนขายไม้หนีบผ้า 7 แสนบาท
“ตอนแรกยายก็ไม่ได้สนใจหรืออยากได้ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เพราะคิดว่าเป็นโชคดีของคนขายไม้หนีบผ้า แต่นายเสนาะ ก็พูดจาหว่านล้อมต่างๆ นานา ประกอบกับคนขายไม้หนีบผ้าก็ทำท่าทางดูน่าสงสารอ้างว่าอยากได้เงินไปปลูกบ้านที่ต่างจังหวัด ป้ายังบอกว่าให้บอกตำรวจให้ช่วยเหลือก็ได้ แต่เขาก็พูดว่าหากพาไปเดี๋ยวคนขายไม้หนีบอาจถูกจับหรือถูกฆ่าตายก็ได้” นางกาญจนากล่าว
นางกาญจนากล่าวอีกว่า เมื่อเห็นว่าทั้งสองต้องการให้ช่วยเหลือจริง ๆ และเอ่ยปากสาบานว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้รู้กันแค่ 3 คน ไม่ไปบอกใคร ตนจึงยอมไปเอาเงินที่บ้านพักในหมู่บ้านสินทวีวิลล่า ให้เขาไป นอกจากนี้ก็ยังหยิบเอาแหวนให้ไปด้วยเพราะคิดว่าจะเอาไปจำนำเพื่อให้เงินเขาไป แต่คนร้ายก็ยังบอกขอเงินเพิ่มอีก 2 แสนบาท ตนจึงพาไปบ้านอีกหลังหนึ่งที่ย่านพุทธมณฑลสาย 4 เพื่อไปเอาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารไปเบิกเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพชรเกษม 114 ออกมาอีก 1 แสนบาท ให้กับคนร้ายไปด้วยรวมแล้วตนสูญเงินและทรัพย์สินประมาณ 3 แสนบาท
“ช่วงที่เกิดเหตุยายไม่ทันได้โทร.ไปสอบถามกับลูกหลานเพราะไม่มีโทรศัพท์มือถือ พอคนร้ายได้เงินไปแล้วก็พา ไปส่งบ้านแต่ยังไม่ทันถึงก็บอกให้ยายลงรถก่อน จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป หลังเกิดเหตุและเชื่อว่าถูกหลอกลวงแล้วจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.หนองค้างพลู พร้อมกับติดตามความคืบหน้าคดีมาตลอดโดยขอให้ตำรวจช่วยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคาร แต่ก็มาทราบข่าวว่าตำรวจกองปราบปรามจับกุมคนร้ายได้แล้วจึงมาแจ้งความเพิ่มเติม”
ขณะที่ นางเกตุกล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2547 นายโกวิทกับนายฉัตรเกียรติ พุ่มกระจันทร์ ผู้ต้องหาอีกรายที่ยังหลบหนี ได้ทำทีเข้ามาหาตนที่บ้านเนื่องจากเห็นว่าตนมีสวนมะพร้าว พร้อมกับสอบถามว่ามีที่ดินสนใจจะขายหรือไม่ ตนจึงบอกว่ามีที่จะขาย 5 ไร่ หลังจากเจรจาตกลงซื้อขายกันในราคา 3 แสนบาท นายโกวิทอ้างว่าเงินไม่พอ ซึ่งเป็นช่วงที่คนร้ายอีกรายทำทีเข้ามาขายยาหอม พร้อมกับหยิบเอาลอตเตอรี่ ออกมาแล้วพบว่าเป็นฉบับที่ถูกรางวัลที่ 1 จึงเสนอขายกับตนเพราะอ้างว่าไม่สามารถไปขึ้นเงินเองได้เป็นเป็นชาวต่างชาติ จากนั้นจึงยอมจ่ายเงินให้เขาไป 1 แสนบาท แต่ภายหลังจึงทราบว่าเป็นสลากกินแบ่งฯ ที่ไม่ได้ถูกรางวัลและได้แจ้งความไว้ในท้องที่เกิดเหตุ ซึ่งคนร้าย 3 รายนี้ถูกศาลจังหวัดราชบุรี ออกหมายจับไว้แล้วในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม และฉ้อโกงทรัพย์
ด้าน พ.ต.อ.อัคราเดช สั่งการให้ ร.ต.อ.จักรภพ ศรีหนา พงส.(สบ 1) กก.2 บก.ป.รับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้ ก่อนจะเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการ และขออายัดตัวผู้ต้องหาจาก สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งรับตัวผู้ต้องหา 2 รายที่ถูกจับกุมไปแล้วมาดำเนินคดีต่อไป