xs
xsm
sm
md
lg

อัยการยันยื่นฟ้อง “ราเกซ” ก่อน 11 พ.ย.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ราเกซ สักเสนา วันที่ถูกคุมตัวไปฝากขัง
“คณะทำงานอัยการ” คดีราเกซ ยันให้ตำรวจสอบเพิ่ม 2 ประเด็น แปลเอกสารภาษาอังกฤษประกอบสำนวน-แจ้งสิทธิผู้ต้องหา ไม่มีการตีกลับสำนวน เชื่อยื่นฟ้องได้ก่อนครบฝากขังครั้งที่สอง 11 พ.ย.นี้

วันนี้ (5 พ.ย.) นายสมพร แย้มนิล อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 3หนึ่งในคณะทำงานอัยการคดีนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ผู้ต้องหาคดีทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 อนุมัติสินเชื่อปล่อยกู้ให้บริษัท ซิตี้ เทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 1,657 ล้านบาทโดยทุจริต กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่าคณะทำงานอัยการตีกลับสำนวนการสอบปากคำนายราเกซ ของพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ว่า ในการประชุมคณะทำงานอัยการ วานนี้ (4 พ.ย.)ที่ประชุมพบข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวน 2 ประเด็น เกี่ยวกับการแปลเอกสารภาษาอังกฤษที่แนบมากับคำสั่งศาลแคนาดาในคดีส่งตัวนายราเกซเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งประกอบมาในสำนวน และเรื่องการแจ้งสิทธิต่อสู้คดีให้ผู้ต้องหาทราบ ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 อัยการจึงได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนไปสอบเพิ่มเติมในทั้งสองประเด็น ทั้งยังกำชับให้ดำเนินการโดยเร็ว

“ข่าวที่ออกมาน่าจะเป็นการเข้าใจผิด อัยการให้ตำรวจไปสอบสวนเพิ่มเติม ไม่ใช่ตีกลับสำนวน และยังเร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งเชื่อว่าทางพนักงานสอบสวนก็กำลังเร่งดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ หากพนักงานสอบสวนส่งสำนวนสอบเพิ่มเติมเข้ามาครบถ้วนแล้ว เชื่อว่าอัยการจะยื่นฟ้องนายราเกซได้ก่อนครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 2 ในวันที่ 11 พ.ย.นี้”

นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษ เปิดเผยถึงความเป็นอยู่ในเรือนจำของนายราเกซ สักเสนา ว่ามีสุขภาพร่างกายดีขึ้น หน้าตาสดใส โดยได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ และเพื่อนผู้ต้องขัง โดยแพทย์ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่เข้ามาตรวจร่างกายนายราเกซ รายงานว่า นายราเกซ มีอาการปกติ ส่วนอาการอัมพาตไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้ามี ภรรยาชาวไทยของนายราเกซ ได้มาติดต่อเข้าเยี่ยม โดยใช้เวลาเยี่ยมตามระเบียบที่เรือนจำกำหนด คือเยี่ยมได้วันละ 10 ครั้ง ภายในเวลา 20 นาที

ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวว่า ขณะนี้นายราเกซ ยังไม่ขอรับความคุ้มครองใดๆ และยังไม่ให้การใดๆ ต่อเจ้าหน้าที่ แม้ว่านายราเกซ จะอยู่ในฐานะผู้ต้องหาในคดีอาญา จึงไม่อยู่ในข่ายพยานที่มีสิทธิ์ร้องขอการคุ้มครองพยานตามกฎหมาย แต่นายราเกซ ถือเป็นผู้ต้องหาที่มีข้อมูลสำคัญ หากนายราเกซ เกรงว่าครอบครัวและญาติมิตรอาจตกอยู่ในอันตราย มีเหตุผลเพียงพอที่สามารถร้องขอให้ดีเอสไอส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลความปลอดภัยให้กับญาติได้
กำลังโหลดความคิดเห็น