หนุ่มควบเบนซ์จากแยกดินแดงบึ่งมุ่งหน้าไปแยกมักกะสัน ต้องชะลอความเร็วกะทันหัน เหตุมีรถจอดขวางทาง บีบแตรไล่ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจด่าหยาบคาย โต้คารมกันรุนแรง พอคล้อยหลังหนุ่มเบนซ์ฉุนขาดชักปืนยิงโดนเพื่อนหญิงรถคันที่ทำให้รมบ่จอยบาดเจ็บ ตำรวจตามจับยังภาคเสธ อ้างมีปากเสียงกับอริจริง แต่ไม่ได้ลั่นไกยิง เพราะเมีย-ลูกอยู่ในรถด้วย อีกรายจับหนุ่มฉกทอง รับปล่อยขายท่าน้ำเมืองนนท์
วันนี้ (29 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนขันติ ผกก.สน.ดินแดง พ.ต.ท.สมิง รอดรัตษะ รอง ผกก.ป.สน.ดินแดง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายอาภรณ์ ศรนรินทร์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1422/112 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 3070/2552 ลงวันที่ 29 ต.ค.2552 ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ต.ค.เวลาประมาณ 21.50 น. นายวิริยะ ยวนังกูร อายุ 31 ปี ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ษค 6824 กทม.พร้อมด้วย น.ส.ณิภาพร สมคะเนย์ อายุ 27 ปี นั่งคู่ด้านข้างคนขับ ออกมาจากปากซอยราชปรารภ 20 เพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.ขณะนั้น นายอาภรณ์ ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน สศ 3394 กทม.มาจากแยกสามเหลี่ยมดินแดง มุ่งหน้าแยกมักกะสัน แต่รถยนต์ของ นายวิริยะ ได้ขวางทาง นายอาภรณ์ อยู่ จากนั้น นายอาภรณ์ ได้บีบแตรไล่ ทำให้ นายวิริยะ ไม่พอใจ ลดกระจกลงมาแล้วถามว่า “มึงบีบแตรทำไมวะ” นายอาภรณ์ จึงได้ลดกระจกลงเช่นกันแล้วตอบโต้กลับไปว่า “แล้วมันทำไมวะไอ้เหี้ย” หลังจากนั้น นายวิริยะ จึงได้ขับรถสวนผ่านไป นายอาภรณ์ จึงได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดยิงใส่กระจกด้านหลังรถของ นายวิริยะ จำนวน 2 นัด ส่งผลให้ น.ส.ณิภาพร ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ ถูกนำตัวส่ง รพ.พญาไท 1 ส่วนนายอาภรณ์ หลังเกิดเหตุได้ขับรถหลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ โดยอ้างว่า เมื่อวันและเวลาที่เกิดเหตุ ได้มีปากเสียงกับ นายวิริยะ จริง แต่ไม่ได้เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงใส่รถของ นายวิริยะ แต่อย่างใด เพราะขณะนั้นในรถมีทั้งเมียและลูก หากยิงปืนจริงลูกก็ต้องตกใจตื่นร้องไห้โวยวายอย่างแน่นอน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำการตรวจเขม่าดินปืน เพื่อนำไปประกอบสำนวน ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.พล.ต.ต.วิชัย ได้นำตัว นายพิชัย ทิมดี อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ภายในร้านทองห้างทองเอกทวี เลขที่ 1022/3 ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.วันที่ 23 ต.ค.2552 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันเวลาที่เกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน วคพ 471 กทม. มาจอดที่หน้าร้านแล้วทำทีเข้าไปขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น ระหว่างที่เจ้าของร้านทองกำลังเผลอ ผู้ต้องหาก็ได้หยิบสร้อยคอทองคำเส้นดังกล่าวออกจากร้านแล้วขับรถ จยย.หลบหนีไป ซึ่งโชคดีที่ทางร้านเป็นคนระมัดระวังตัว เมื่อมีคนเข้ามาเลือกซื้อทองที่ร้านก็จะให้พนักงานไปจดทะเบียนรถของลูกค้าไว้ พร้อมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในร้านด้วย
“จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนลงพื้นที่จนกระทั่งพบผู้ต้องหาที่บ้านพักหลังหนึ่งย่านบางกรวย จ.นนทบุรี จึงได้เข้าทำการจับกุมตัวเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (28 ต.ค.) เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยได้นำสร้อยคอทองคำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งบริเวณท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี จนมาถูกจับดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ก่อนนำตัว ส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว
วันนี้ (29 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนขันติ ผกก.สน.ดินแดง พ.ต.ท.สมิง รอดรัตษะ รอง ผกก.ป.สน.ดินแดง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายอาภรณ์ ศรนรินทร์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1422/112 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 3070/2552 ลงวันที่ 29 ต.ค.2552 ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ต.ค.เวลาประมาณ 21.50 น. นายวิริยะ ยวนังกูร อายุ 31 ปี ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ษค 6824 กทม.พร้อมด้วย น.ส.ณิภาพร สมคะเนย์ อายุ 27 ปี นั่งคู่ด้านข้างคนขับ ออกมาจากปากซอยราชปรารภ 20 เพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.ขณะนั้น นายอาภรณ์ ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน สศ 3394 กทม.มาจากแยกสามเหลี่ยมดินแดง มุ่งหน้าแยกมักกะสัน แต่รถยนต์ของ นายวิริยะ ได้ขวางทาง นายอาภรณ์ อยู่ จากนั้น นายอาภรณ์ ได้บีบแตรไล่ ทำให้ นายวิริยะ ไม่พอใจ ลดกระจกลงมาแล้วถามว่า “มึงบีบแตรทำไมวะ” นายอาภรณ์ จึงได้ลดกระจกลงเช่นกันแล้วตอบโต้กลับไปว่า “แล้วมันทำไมวะไอ้เหี้ย” หลังจากนั้น นายวิริยะ จึงได้ขับรถสวนผ่านไป นายอาภรณ์ จึงได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดยิงใส่กระจกด้านหลังรถของ นายวิริยะ จำนวน 2 นัด ส่งผลให้ น.ส.ณิภาพร ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ ถูกนำตัวส่ง รพ.พญาไท 1 ส่วนนายอาภรณ์ หลังเกิดเหตุได้ขับรถหลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ โดยอ้างว่า เมื่อวันและเวลาที่เกิดเหตุ ได้มีปากเสียงกับ นายวิริยะ จริง แต่ไม่ได้เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงใส่รถของ นายวิริยะ แต่อย่างใด เพราะขณะนั้นในรถมีทั้งเมียและลูก หากยิงปืนจริงลูกก็ต้องตกใจตื่นร้องไห้โวยวายอย่างแน่นอน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำการตรวจเขม่าดินปืน เพื่อนำไปประกอบสำนวน ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.พล.ต.ต.วิชัย ได้นำตัว นายพิชัย ทิมดี อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ภายในร้านทองห้างทองเอกทวี เลขที่ 1022/3 ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.วันที่ 23 ต.ค.2552 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันเวลาที่เกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน วคพ 471 กทม. มาจอดที่หน้าร้านแล้วทำทีเข้าไปขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น ระหว่างที่เจ้าของร้านทองกำลังเผลอ ผู้ต้องหาก็ได้หยิบสร้อยคอทองคำเส้นดังกล่าวออกจากร้านแล้วขับรถ จยย.หลบหนีไป ซึ่งโชคดีที่ทางร้านเป็นคนระมัดระวังตัว เมื่อมีคนเข้ามาเลือกซื้อทองที่ร้านก็จะให้พนักงานไปจดทะเบียนรถของลูกค้าไว้ พร้อมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในร้านด้วย
“จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนลงพื้นที่จนกระทั่งพบผู้ต้องหาที่บ้านพักหลังหนึ่งย่านบางกรวย จ.นนทบุรี จึงได้เข้าทำการจับกุมตัวเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (28 ต.ค.) เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยได้นำสร้อยคอทองคำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งบริเวณท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี จนมาถูกจับดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ก่อนนำตัว ส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว