พลทหารสันดานบาป รัว HK ฆ่าคนขับรถแท็กซี่ ก่อนชิงรถหลบหนีแต่ไม่รอด ถูกตำรวจตามรวบทันควัน สารภาพหน้าตาเฉยก่อเหตุ เพราะต้องการรถเพื่อตระเวนปล้นปั๊มแก๊ส หาเงินกลับไปแต่งงานที่บ้านเกิด
วานนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 22.30 น.ร.ต.อ.ประยูร ทองนุ่น ร้อยเวร (สบ 1) สน.หัวหมาก รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ภายในซอยรามคำแหง 60 แยก 9 หรือซอยสุเหร่าหัวหมากน้อย แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส.สน.หัวหมาก แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นซอยเปลี่ยวและเป็นทางตัน บริเวณพงหญ้าท้ายซอยเจ้าหน้าที่พบศพชายอายุประมาณ 35-40 ปี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล็กสีดำ ที่แขนขวาถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ และมีบาดแผลถูกยิงที่อก 2 นัด จากการตรวจสอบในร่างกายไม่พบเอกสารหลักฐานใดๆ พบเพียงเงินสด 400 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปยังหมายเลขสุดท้ายที่ผู้ตายติดต่อ ซึ่งภรรยาของผู้ตายเป็นคนรับสาย จึงทราบว่าผู้ตายเป็นคนขับรถแท็กซี่ ทราบชื่อต่อมาคือ นายชนะ ใสสะอาด อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 ม.4 ต.สระบัว อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด
จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถแท็กซี่สีฟ้า ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนขับเข้ามาในซอยที่เกิดเหตุ แต่เมื่อพบเป็นซอยตัน จึงกลับรถ หลังจากนั้นผู้ตายกับชายอีกคนก็ลงจากรถมาพูดคุยกันก่อนจะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จากนั้นผู้ตายพยายามวิ่งหลบหนี แต่ถูกชายคนดังกล่าวใช้อาวุธปืนยิงใส่ ก่อนขับรถแท็กซี่หลบหนีไป
ต่อมาเวลาวันนี้ (19 ต.ค.) เวลาประมาณ 01.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่สายตรวจของ สน.สายไหม พบแท็กซี่ต้องสงสัยจอดอยู่บริเวณหน้าโชคดีปั๊มแก๊ส ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงและเขตสายไหม กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.
ที่เกิดเหตุพบรถแท็กซี่ โตโยต้า สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ทว 4218 กทม.ของบริษัท ไทยเอซ ลิซซิ่ง จำกัด ภายในรถ พบ พลทหาร กิตติเชษฐ์ แดงเนียม พลทหารสังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ปตอ.) ลักษณะท่าทางคล้ายกับเมายา สวมเสื้อชุดทหารอากาศสีกรมท่าแบบเต็มยศ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถ พบอาวุธปืนชนิดเอชเค 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีนบรรจุกระสุนเต็มจำนวน 2 แม็ก วางอยู่เบาะด้านข้างคนขับ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.หัวหมาก
จากการสอบสวน พลทหาร กิตติเชษฐ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นทหารอากาศอยู่สังกัด ปตอ.และเป็นคนลงมือยิงผู้ตายจนเสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่ทำลงไปเนื่องจากต้องการชิงรถแท็กซี่ของผู้ตาย เพื่อนำไปก่อเหตุปล้นปั๊มน้ำมันหาเงินไปแต่งงานกับแฟนสาว จึงใช้วิธีดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุตนกำลังออกเวรพอดี เมื่อเห็นแท็กซี่คันดังกล่าวขับผ่านมา จึงได้โบกให้ไปส่งที่ซอยรามคำแหงซอย 60 เนื่องจากเคยพักอาศัยอยู่ในย่านดังกล่าว
“จากนั้นได้บอกทางให้คนขับรถแท็กซี่ขับเข้าไปในซอยเปลี่ยว ก่อนจะชักอาวุธปืนที่ขโมยมาจากทางราชการจี้ข่มขู่ ผู้ตายพยายามจะต่อสู้และวิ่งหนี ผมจึงยิงใส่ไปหลายนัด เพื่อฆ่าปิดปาก จากนั้นก็ขับรถแท็กซี่หลบหนีไป แต่ระหว่างทางขณะที่ขับมาถึงย่านโชคชัยได้ขับรถเฉี่ยวชนกับคู่กรณีรายหนึ่งจึงรีบขับรถหลบหนี กระทั่งขับมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าโชคดีปั๊มแก๊ส ผมตัดสินใจที่จะเข้าปล้นปั๊มดังกล่าว แต่จู่ๆ เครื่องรถก็ดับ ผมยังไม่รู้ว่าจะไปไหนจึงนั่งอยู่ในรถ จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้” พลทหาร กิตติเชษฐ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง อย่างไรก็ตาม จะต้องทำการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง และทำเรื่องส่งไปยังต้นสังกัด เพื่อตรวจสอบประวัติและรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืนที่ผู้ต้องหาขโมยมาก่อเหตุ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.หัวหมาก ดำเนินคดีต่อไป