“เพรียวพันธ์” ยื่นฟ้อง “มาร์ค” ต่อศาลปกครอง เหตุถูกกระทำย่ำยี่ตั้ง “ปทีป” รักษาการ ผบ.ตร.ข้ามหัวอาวุโสอันดับ 1 ทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรม พ่นน้ำลายอ้างไม่มี ผบ.ตร.ตัวจริงทำให้งานตำรวจเสียระบบ
วันนี้ (8 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นรักษาราชการแทน ผบ.ตร.ว่า เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ยื่นฟ้องกับศาลปกครอง เนื่องจากเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องของแต่งตั้ง รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ทั้งที่ ตนเป็นรอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 แต่ไม่ได้รับการพิจารณา
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ยังไม่มี ผบ.ตร.ตัวจริงทั้งที่ขึ้นปีงบประมาณใหม่แล้ว ทำให้ขณะนี้ระบบการทำงานของตำรวจเสียหายหมดแล้ว พิกลพิการไปหมด ไม่ว่าจะเป็นระดับผู้บังคับการขึ้นไปที่มีการเกษียณอายุราชการ ไม่มีการแต่งตั้ง ทำให้ต้องมีการรักษาราชการแทนตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ม.72 (2) ซึ่งเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ปทีป ก็ได้ลงนามคำสั่งไป เมื่อเป็นเช่นนี้ตำรวจในระดับปฎิบัติไม่มีขวัญกำลังใจในการทำงาน ซึ่ง พล.ต.อ.ปทีปได้กำชับการทำงานของตำรวจไม่ให้เกียร์ว่าง ตนเองในฐานะเป็นผู้มีหน้าที่ ก็ต้องปฎิบัติกันไป และพยายามที่จะกำชับให้ทุกหน่วยทำงาน เพราะผลร้ายจะตกกับประชาชน หากตำรวจไม่ทำงานคดีอาชญากรรมต่างๆ ก็จะพุ่งสูงขึ้น ซึ่งก็ต้องแบ่งแยกกันให้ถูก เรื่องงานก็ต้องว่ากันไป
“ผมยื่นฟ้องศาลปกครองในเรื่องที่ผมไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่ผมเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุดแต่กลับไม่ได้รับการพิจารณา และการไม่ปฎิบัติตามกฎหมายตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณธรรมความถูกต้อง” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องของการเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนต่อไป ตนไม่ขอให้ความเห็น เป็นเรื่องของขั้นตอนต่อไป ยังไม่เกิดขึ้น แต่สาเหตุที่ตนยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนเป็นตำรวจอาชีพ ที่ผ่านมาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แม้สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีอำนาจตนก็ไม่เคยมีอำนาจด้วย ทำเนียบรัฐบาลก็ไม่เคยไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก.ตร.มีมติว่า การแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผบ.ตร.ถึง ผบก. จะแต่งตั้งได้ต้องมี ผบ.ตร.เสียก่อน แต่ขณะนี้นายสุเทพพยายามล็อบบี้ ก.ตร.ให้มีการแต่งตั้งดังกล่าว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบว่าจะมีการดำเนินการกันอย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดำเนินการโดยยึดหลักอาวุโส ความถูกต้อง และคุณธรรม ซึ่งตนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการตำรวจทุกนาย
“ในสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ปทีป เป็น รรท.ผบ.ตร. ซึ่งขณะนั้น พล.ต.อ.ปทีป มีอาวุโสสูงสุด เพราะตนเพิ่งโอนย้ายกลับมายัง ตร. และอยู่ระหว่างยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อขอให้มีการนับอาวุโสต่อเนื่อง ภายหลังจากที่ตนถูก คปค.สั่งย้ายไปเป็นนักบริหารระดับ 10 ซึ่งตอนนั้น ตนก็น้อมรับคำสั่ง เพราะยังมีอาวุโสน้อยกว่า แต่ขณะนี้เมื่อศาลมีคำสั่งถึงที่สุดคืนสิทธิ์อาวุโสให้กับตนแล้ว ความถูกต้องจะต้องมี ยืนยันว่าตนจะเป็นหลักของข้าราชการตำรวจในเรื่องของการแต่งตั้งที่ต้องยึดหลักอาวุโส คุณธรรมและความถูกต้อง ซึ่งแต่ก่อนมาก็ยึดหลักมาโดยตลอด” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีก็ยืนยันว่าได้ทำตามกฎหมาย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า การทำตามกฎหมายนั้นก็ต้องนึกถึงคุณธรรมและกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการตำรวจ