ชุดจู่โจม สน.ราษฎร์บูรณะ รวบสองผัวเมียซุกยาไอซ์หลบซ่อนไว้ในห้องพัก ประมาณ 650 กรัม มูลค่า 2.1 ล้าน ย่านเคหะสุขสวัสดิ์ 38 หลังสืบเฝ้าดูพฤติกรรมร่วม 2 เดือน สารภาพอ้างเป็นของน้องสาวมาฝากไว้ ตร.ไม่ปักใจเชื่อหลังพบข้อมูลสองผัวเมียพัวพันเงินกู้นอกระบบ และเครือข่ายยาเสพติด เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาที่หลบหนี คาดทำเป็นขบวนการใหญ่
วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.ดุสิต สมศักดิ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจม สน.ราษฎร์บูรณะ แถลงข่าวจับกุมนายภิญโญ หรือ “โย” ปิ่นทอง อายุ 54 ปี และ น.ส.รัชนี หรือ “นี” โตอุด อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา พร้อมของกลางยาไอซ์ชนิดเกล็ด จำนวน 15 ถุง น้ำหนักประมาณ 650.45 กรัม มูลค่ารวม 2,100,000 บาท โดยจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 517/139 ชั้น 2 ตึกแอล การเคหะสุขสวัสดิ์ 38 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ
พ.ต.อ.จีรศักดิ์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจม สน.ราษฎร์บูรณะ สืบทราบว่า จะมีขบวนการค้ายาเสพติดนำของกลางมาซุกซ่อนที่การเคหะสุขสวัสดิ์ 38 ตึกแอล จึงได้ทำการสืบสวนหาข่าวมาตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งเวลา 19.00 น.วานนี้ (26 ต.ค.) ชุดจู่โจมได้นำกำลังไปดักซุ่มที่บริเวณด้านหน้าตึกแอล พบนายภิญโญเดินผ่านมาด้วยท่าทีมีพิรุธ จึงขอตรวจค้นพบยาไอซ์ 1 ถุง น้ำหนัก 4.16 กรัม อยู่ในกระเป๋ากางเกง จึงคุมตัวตัวไว้
พ.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายภิญโญ ไปตรวจค้นบนห้องพักเลขที่ 517/139 ชั้นที่ 2 ของอาคารดังกล่าว เมื่อไปถึงห้องดังกล่าวก็พบ น.ส.รัชนี ภรรยาของ นายภิญโญ อยู่ในห้อง จึงเข้าทำการตรวจค้นก็พบยาไอซ์ ที่ซุกซ่อนอยู่ในห้องอีกจำนวน 14 ถุง น้ำหนักรวม 646.29 กรัม จึงควบคุมตัวทั้งสองคนพร้อมของกลางทั้งหมดมาสอบปากคำที่ สน.ราษฎร์บูรณะ
จากการสอบสวน นางรัชนี ให้การว่า ตนทำงานเป็นแม่บ้านในร้านทองแห่งหนึ่งย่านเยาวราช ส่วนสามีเป็น รปภ.และขับรถ จยย.รับจ้าง สำหรับยาไอซ์ทั้งหมดนั้น เป็นของ น.ส.พรศิริ หรือ “เปิ้ล” ภูจำปา อายุ 29 ปี น้องสาวของตนที่เอามาฝากไว้ได้ 3 วันแล้ว โดยน้องสาวบอกแค่ว่าจะมารับของคืนในวันเสาร์ที่ 31 ต.ค.นี้ และจะนำเงินค่ารับฝาก จำนวน 100,000 บาท มาให้ด้วย
“ตอนที่น้องเอามาฝากก็รู้ว่าเป็นยาไอซ์ แต่คิดว่าโทษไม่น่าจะรุนแรงเท่ายาบ้า จึงตัดสินใจยอมรับฝาก พอถูกตำรวจจับ ก็พยายามโทรศัพท์ไปหาน้องสาวแล้ว แต่ยังติดต่อไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าอยู่ไหน รู้เพียงว่าทำงานเป็นโคโยตี้ อยู่ที่ร้านแห่งหนึ่งใน กทม.เท่านั้น” นางรัชนี ให้การ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหามากนัก เนื่องจากมีข้อมูลว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปพัวพันกับธุรกิจเงินกู้นอกระบบ และเครือข่ายนักค้ายาเสพติดแก๊งนี้น่าจะมีลักษณะทำกันเป็นขบวนการใหญ่ นอกจากนี้ สามีของ น.ส.พรศิริ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ก็เคยถูกตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ จับกุมในข้อหาฆ่าผู้อื่นมาแล้วด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาไอซ์ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย กับ นายภิญโญ และ น.ส.รัชนี พร้อมทั้งจะรวบรวมพยานหลักฐานไปขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับทำการติดตามจับกุมตัว น.ส.พรศิริ ต่อไป