สตม.ตามจับกุม โจรออสซี่ ทุกกระจกร้านเพชรในประเทศบ้านเกิด ฉกแหวนเพชร 9.1 กะรัต มูลค่าราว 30 ล้านบาท แล้วลอบหนีมากบดานที่พัทยา
วันนี้ (26 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธนากร อัฐศิริ พล.ต.ต.ชัยยศ บัวทรัพย์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี ผบก.สส.สตม.พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.สส.สตม.ร่วมกันแถลงการจับกุม นายจอร์จ จอร์จิโอ อายุ 30 ปี สัญชาติออสเตรเลีย ผู้ต้องหาตามหมายจับผู้ร้ายข้ามแดนของศาลอาญาเลขที่ 849/2552 ลงวันที่ 19 ส.ค.52 พร้อมของกลางวัตถุคล้ายเพชรสีขาว 1 เม็ด วัตถุคล้ายพลอยสีเขียว 7 เม็ด สีชมพู 4 เม็ด สีน้ำเงิน 1 เม็ด เครื่องชั่งน้ำหนักเพชรพลอย 1 เครื่อง เครื่องวัดขนาดเพชรพลอย 1 อัน แว่นขยาย 2 อัน สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 7 เล่ม ภายในมีเงินประมาณ 900,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ถุงพลาสติกขนาดเล็กสำหรับใส่เพชรพลอย 50 ถุง
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 16.40 น.ของวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ใช้ค้อนทุบกระจกหน้าร้าน Hardy Brothers Jewellers ตั้งอยู่เลขที่ 338 Collins street Melbourne, Victoria ประเทศออสเตรเลีย แล้วลักเอาแหวนเพชรขนาด 9.1 กะรัต มูลค่า 1 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งภายหลังตำรวจรัฐ Victoria ประเทศออสเตรเลีย ได้ออกหมายจับตามความผิดของประเมวลกฎหมายอาญามาตรา 74,76 และ 88 ของรัฐ Victoria ประเทศออสเตรเลีย จนภายหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย จึงประสานมายังทางการไทยให้ช่วยติดตามจับกุมตัว
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม.ได้ทำการตรวจสอบ พบว่า ผู้ต้องหาได้เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงทำการสืบสวนจนพบว่า เจ้าตัวได้ไปพักอยู่กับแฟนสาวชาวไทยที่ห้องพักเลขที่ 305 อาคารพีเอสอพาร์ทเม้นท์ หมู่ที่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงส่งกำลังเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.สส.สตม.เฝ้าติดตาม จนกระทั่งสามารจับกุมตัวเอาไว้ได้เมื่อเวลา 23.30 น.วานนี้ (25 ต.ค.) ที่หน้าล็อบบี้ของอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน นายจอร์จ ให้การรับสารภาพว่า หลังก่อเหตุที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว ก็หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ส่วนเพชรที่ขโมยมานั้นได้ขายไปแล้ว แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมบอกว่า ขายไปที่ไหนและขายไปให้ใคร ส่วนเพชรพลอยของปลอมที่พบนั้น เป็นของที่ตนซื้อมาจากร้านที่พัทยา และ กทม.เพื่อสะสมไว้ขายต่อให้เพื่อน หรือเอาไว้สำหรับขึ้นเรือนทำแหวนเพชร เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นคนชอบงานเพชรพลอยอยู่แล้ว โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ควบคุมตัวส่งกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศออสเตรเลียต่อไป
วันนี้ (26 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธนากร อัฐศิริ พล.ต.ต.ชัยยศ บัวทรัพย์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี ผบก.สส.สตม.พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.สส.สตม.ร่วมกันแถลงการจับกุม นายจอร์จ จอร์จิโอ อายุ 30 ปี สัญชาติออสเตรเลีย ผู้ต้องหาตามหมายจับผู้ร้ายข้ามแดนของศาลอาญาเลขที่ 849/2552 ลงวันที่ 19 ส.ค.52 พร้อมของกลางวัตถุคล้ายเพชรสีขาว 1 เม็ด วัตถุคล้ายพลอยสีเขียว 7 เม็ด สีชมพู 4 เม็ด สีน้ำเงิน 1 เม็ด เครื่องชั่งน้ำหนักเพชรพลอย 1 เครื่อง เครื่องวัดขนาดเพชรพลอย 1 อัน แว่นขยาย 2 อัน สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 7 เล่ม ภายในมีเงินประมาณ 900,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ถุงพลาสติกขนาดเล็กสำหรับใส่เพชรพลอย 50 ถุง
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 16.40 น.ของวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ใช้ค้อนทุบกระจกหน้าร้าน Hardy Brothers Jewellers ตั้งอยู่เลขที่ 338 Collins street Melbourne, Victoria ประเทศออสเตรเลีย แล้วลักเอาแหวนเพชรขนาด 9.1 กะรัต มูลค่า 1 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งภายหลังตำรวจรัฐ Victoria ประเทศออสเตรเลีย ได้ออกหมายจับตามความผิดของประเมวลกฎหมายอาญามาตรา 74,76 และ 88 ของรัฐ Victoria ประเทศออสเตรเลีย จนภายหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย จึงประสานมายังทางการไทยให้ช่วยติดตามจับกุมตัว
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม.ได้ทำการตรวจสอบ พบว่า ผู้ต้องหาได้เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงทำการสืบสวนจนพบว่า เจ้าตัวได้ไปพักอยู่กับแฟนสาวชาวไทยที่ห้องพักเลขที่ 305 อาคารพีเอสอพาร์ทเม้นท์ หมู่ที่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงส่งกำลังเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.สส.สตม.เฝ้าติดตาม จนกระทั่งสามารจับกุมตัวเอาไว้ได้เมื่อเวลา 23.30 น.วานนี้ (25 ต.ค.) ที่หน้าล็อบบี้ของอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน นายจอร์จ ให้การรับสารภาพว่า หลังก่อเหตุที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว ก็หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ส่วนเพชรที่ขโมยมานั้นได้ขายไปแล้ว แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมบอกว่า ขายไปที่ไหนและขายไปให้ใคร ส่วนเพชรพลอยของปลอมที่พบนั้น เป็นของที่ตนซื้อมาจากร้านที่พัทยา และ กทม.เพื่อสะสมไว้ขายต่อให้เพื่อน หรือเอาไว้สำหรับขึ้นเรือนทำแหวนเพชร เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นคนชอบงานเพชรพลอยอยู่แล้ว โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ควบคุมตัวส่งกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศออสเตรเลียต่อไป