สามีตามง้อภรรยาไม่สำเร็จ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันภรรยาบาดเจ็บสาหัส ก่อนตัดสินใจปาดคอตนเองปางตาย เพื่อนบ้านระบุ เป็นสามีภรรยากันมา 15 ปี มีลูก 2 คน แต่ระยะหลังทั้งคู่มักมีปากเสียงและทำร้ายร่างกาย ต้องแยกกันอยู่มานานประมาณ 2 เดือน ก่อนกลับมาก่อเหตุสลด
วันนี้ (20 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.พ.ต.ท.สมพล พันธ์ภิบาล พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุสามีใช้มีดทำร้ายภรรยาและพยายามทำร้ายตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในห้องเช่าไม่มีเลขที่ ชุมชนเจ้าพระยาซอย 2 ถนนพระราม 3 ซอย 43 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าไม่มีเลขที่ เจ้าหน้าที่พบประชาชนภายในชุมชนกำลังมุงดูกันอยู่เป็นจำนวนมาก โดยภายในห้องดังกล่าวมีรอยเลือดหยดเป็นทาง และพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย คือ นางสุกัญญา ยางนอก อายุ 28 ปี แม่บ้านอาคารสาทรซิตี้ มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่ศีรษะ ใบหน้า ท้ายทอย และมือข้างขวาจนเป็นแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ แพทย์ต้องรีบนำเข้าห้องผ่าตัดช่วยชีวิตเป็นการด่วน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ คือ นายอานนท์ นามวงศ์ อายุ 35 ปี พนักงานส่งของบริษัทแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 และเป็นสามีของผู้บาดเจ็บ ได้ปิดประตูขังตนเองไว้ภายในห้องนอน เจ้าหน้าที่ตำรวจและเพื่อนบ้านที่สนิทสนม ต้องเข้าช่วยกันเจรจาให้วางอาวุธและมอบตัว แต่กลับทำให้ นายอานนท์ ยิ่งมีอาการเครียดหนักขึ้น จนในที่สุดตัดสินใจใช้มีดเล่มเดียวกันปาดคอตัวเองจนเป็นแผลฉกรรจ์ลึกถึงหลอดลม จนล้มลงไปนอนร้องครวญครางจมกองเลือด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ชีพ และชาวบ้านต้องช่วยกันพังประตูเข้าไปแล้วเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเดียวกันอย่างเร่งด่วน
จากการสอบสวน นายนิกร เดชพัน อายุ 50 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่า ตนรู้จักทั้งสองสามีภรรยามานานแล้ว โดยทั้งคู่อยู่กินกันมาประมาณ 15 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน คนแรกชื่อ ด.ญ.นก (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ส่วนคนเล็กคือ ด.ช.กาย (นามสมมติ) อายุ 7 ปี แต่มาระยะหลังทั้งคู่มักมีปากเสียงและทำร้ายร่างกายกันเป็นประจำ จนต้องแยกกันอยู่มานานประมาณ 2 เดือนแล้ว โดยทั้งคู่ส่งลูกสาวคนโตได้ไปอยู่บ้านญาติที่ต่างจังหวัด ส่วนคนเล็กแยกไปอยู่กับนายอานนท์
นายนิกร กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุวันนี้ นางสุกัญญา ได้มาหาตนที่บ้าน พร้อมเล่าให้ฟังว่า นายอานนท์ ได้โทรศัพท์เรียกออกมาพูดคุยตกลงเรื่องปัญหาครอบครัว ถ้าไม่มาจะบีบคอน้องกายให้ตาย จากนั้นก็ได้ยินเสียงลูกชายคนเล็ก ร้องไห้จ้า ด้วยความเป็นห่วงลูก กลัวว่าจะได้รับอันตราย จึงรีบเดินทางมาตามที่นายอานนท์ นัด พร้อมขอร้องให้ตนกับเพื่อนบ้านที่เป็นผู้ใหญ่อีก 2-3 คน ไปช่วยพูดกับ นายอานนท์ ให้เลิกรบกวนนางสุกัญญาเสียที
“แต่พอไปถึงบ้าน นายอานนท์ กลับไม่ยอมคุยกับผม โดยอ้างว่าเป็นเรื่องในครอบครัว ผมจึงออกมารออยู่ด้านนอก จากนั้นก็ได้ยินเสียงนางสุกัญญาร้อง ตามมาด้วยเสียงร้องของลูกชาย พวกผมจึงรีบวิ่งเข้าไปดู ก็เห็นเมียเขานอนฟุบคว่ำหน้าจมกองเลือด มีแผลโดนฟันหลายที่ ส่วนนายอานนท์ ยืนถือมีดเปื้อนเลือดคร่อมร่างเมียเขาอยู่ พวกผมเลยรีบเข้าไปนำตัวลูกเขาออกมาก่อน จากนั้นจึงเข้าไปพา นางสุกัญญา ส่งโรพงยาบาล ส่วน นายอานนท์ ก็ปิดประตูห้องขังตัวเองไว้ด้านในจนเจ้าหน้าที่ตำรวจมา” นายนิกร กล่าว
ด้าน นายณรงค์ชัย มาตแก อายุ 38 ปี พี่เขยของ นายอานนท์ เปิดเผยว่า หลังจากที่นายอานนท์ แยกทางกับ นางสุกัญญา แล้วก็มีอาการเครียดจนเห็นได้ชัด จนญาติต้องช่วยกันปลอบใจ และพา นายอานนท์ ไปพักที่บ้านใน จ.ปทุมธานี อยู่พักหนึ่ง จนสภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น นายอานนท์ จึงกลับมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว และมักจะมารับลูกไปอยู่ด้วยเป็นครั้งคราว
นายณรงค์ชัย กล่าวต่อว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายอานนท์ ได้เดินทางไปรับลูกชายที่ จ.ปทุมธานี ด้วยท่าทางเครียด พร้อมเล่าให้ฟังว่าเพิ่งทะเลาะกับ นางสุกัญญา เรื่องที่ภรรยาต้องการให้ไปทำเรื่องหย่ากันที่อำเภอ แต่น้องเขยตนไม่ยอม ซึ่งตนก็ปลอบใจไป จนกระทั่งวันนี้ประมาณเที่ยงตนได้รับโทรศัพท์จากนายอานนท์ โทร.มาบอกว่า ทำร้ายร่างกาย นางสุกัญญา จนบาดเจ็บสาหัส ให้มารับลูกชายไปอยู่ด้วย เพราะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ตนพยายามห้ามปราม แต่นายอานนท์ ก็วางสายไปก่อน จึงรีบเดินทางมาทันทีแต่ก็ไม่ทัน
เบื้องต้นแพทย์โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ได้นำผู้บาดเจ็บทั้งสองคน เข้าห้องผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ ส่วนทางคดีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออายัดตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุไว้เพื่อดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (20 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.พ.ต.ท.สมพล พันธ์ภิบาล พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุสามีใช้มีดทำร้ายภรรยาและพยายามทำร้ายตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในห้องเช่าไม่มีเลขที่ ชุมชนเจ้าพระยาซอย 2 ถนนพระราม 3 ซอย 43 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าไม่มีเลขที่ เจ้าหน้าที่พบประชาชนภายในชุมชนกำลังมุงดูกันอยู่เป็นจำนวนมาก โดยภายในห้องดังกล่าวมีรอยเลือดหยดเป็นทาง และพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย คือ นางสุกัญญา ยางนอก อายุ 28 ปี แม่บ้านอาคารสาทรซิตี้ มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่ศีรษะ ใบหน้า ท้ายทอย และมือข้างขวาจนเป็นแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ แพทย์ต้องรีบนำเข้าห้องผ่าตัดช่วยชีวิตเป็นการด่วน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ คือ นายอานนท์ นามวงศ์ อายุ 35 ปี พนักงานส่งของบริษัทแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 และเป็นสามีของผู้บาดเจ็บ ได้ปิดประตูขังตนเองไว้ภายในห้องนอน เจ้าหน้าที่ตำรวจและเพื่อนบ้านที่สนิทสนม ต้องเข้าช่วยกันเจรจาให้วางอาวุธและมอบตัว แต่กลับทำให้ นายอานนท์ ยิ่งมีอาการเครียดหนักขึ้น จนในที่สุดตัดสินใจใช้มีดเล่มเดียวกันปาดคอตัวเองจนเป็นแผลฉกรรจ์ลึกถึงหลอดลม จนล้มลงไปนอนร้องครวญครางจมกองเลือด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ชีพ และชาวบ้านต้องช่วยกันพังประตูเข้าไปแล้วเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเดียวกันอย่างเร่งด่วน
จากการสอบสวน นายนิกร เดชพัน อายุ 50 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่า ตนรู้จักทั้งสองสามีภรรยามานานแล้ว โดยทั้งคู่อยู่กินกันมาประมาณ 15 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน คนแรกชื่อ ด.ญ.นก (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ส่วนคนเล็กคือ ด.ช.กาย (นามสมมติ) อายุ 7 ปี แต่มาระยะหลังทั้งคู่มักมีปากเสียงและทำร้ายร่างกายกันเป็นประจำ จนต้องแยกกันอยู่มานานประมาณ 2 เดือนแล้ว โดยทั้งคู่ส่งลูกสาวคนโตได้ไปอยู่บ้านญาติที่ต่างจังหวัด ส่วนคนเล็กแยกไปอยู่กับนายอานนท์
นายนิกร กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุวันนี้ นางสุกัญญา ได้มาหาตนที่บ้าน พร้อมเล่าให้ฟังว่า นายอานนท์ ได้โทรศัพท์เรียกออกมาพูดคุยตกลงเรื่องปัญหาครอบครัว ถ้าไม่มาจะบีบคอน้องกายให้ตาย จากนั้นก็ได้ยินเสียงลูกชายคนเล็ก ร้องไห้จ้า ด้วยความเป็นห่วงลูก กลัวว่าจะได้รับอันตราย จึงรีบเดินทางมาตามที่นายอานนท์ นัด พร้อมขอร้องให้ตนกับเพื่อนบ้านที่เป็นผู้ใหญ่อีก 2-3 คน ไปช่วยพูดกับ นายอานนท์ ให้เลิกรบกวนนางสุกัญญาเสียที
“แต่พอไปถึงบ้าน นายอานนท์ กลับไม่ยอมคุยกับผม โดยอ้างว่าเป็นเรื่องในครอบครัว ผมจึงออกมารออยู่ด้านนอก จากนั้นก็ได้ยินเสียงนางสุกัญญาร้อง ตามมาด้วยเสียงร้องของลูกชาย พวกผมจึงรีบวิ่งเข้าไปดู ก็เห็นเมียเขานอนฟุบคว่ำหน้าจมกองเลือด มีแผลโดนฟันหลายที่ ส่วนนายอานนท์ ยืนถือมีดเปื้อนเลือดคร่อมร่างเมียเขาอยู่ พวกผมเลยรีบเข้าไปนำตัวลูกเขาออกมาก่อน จากนั้นจึงเข้าไปพา นางสุกัญญา ส่งโรพงยาบาล ส่วน นายอานนท์ ก็ปิดประตูห้องขังตัวเองไว้ด้านในจนเจ้าหน้าที่ตำรวจมา” นายนิกร กล่าว
ด้าน นายณรงค์ชัย มาตแก อายุ 38 ปี พี่เขยของ นายอานนท์ เปิดเผยว่า หลังจากที่นายอานนท์ แยกทางกับ นางสุกัญญา แล้วก็มีอาการเครียดจนเห็นได้ชัด จนญาติต้องช่วยกันปลอบใจ และพา นายอานนท์ ไปพักที่บ้านใน จ.ปทุมธานี อยู่พักหนึ่ง จนสภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น นายอานนท์ จึงกลับมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว และมักจะมารับลูกไปอยู่ด้วยเป็นครั้งคราว
นายณรงค์ชัย กล่าวต่อว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายอานนท์ ได้เดินทางไปรับลูกชายที่ จ.ปทุมธานี ด้วยท่าทางเครียด พร้อมเล่าให้ฟังว่าเพิ่งทะเลาะกับ นางสุกัญญา เรื่องที่ภรรยาต้องการให้ไปทำเรื่องหย่ากันที่อำเภอ แต่น้องเขยตนไม่ยอม ซึ่งตนก็ปลอบใจไป จนกระทั่งวันนี้ประมาณเที่ยงตนได้รับโทรศัพท์จากนายอานนท์ โทร.มาบอกว่า ทำร้ายร่างกาย นางสุกัญญา จนบาดเจ็บสาหัส ให้มารับลูกชายไปอยู่ด้วย เพราะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ตนพยายามห้ามปราม แต่นายอานนท์ ก็วางสายไปก่อน จึงรีบเดินทางมาทันทีแต่ก็ไม่ทัน
เบื้องต้นแพทย์โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ได้นำผู้บาดเจ็บทั้งสองคน เข้าห้องผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ ส่วนทางคดีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออายัดตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุไว้เพื่อดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
