ตำรวจได้หลักฐานศพหญิงและเด็ก นิรนาม เป็นชาวเกาหลี ชื่อ นางลี กวาง ซู ซึ่งหนีหมายจับคดียักยอกทรัพย์จากประเทศเกาหลี เข้ามาทำธุรกิจเป็นไกด์ทัวร์ในประเทศไทย ส่วนสามีของผู้ตาย ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ส่วนเด็กชื่อ จี ฮุน อายุประมาณ 5 ขวบ เมื่อ 2 ปีก่อน เคยเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1/2 ที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งย่านบางนา คาดคนร้ายลักพาตัวไปขังนาน 1 วัน ก่อนฆ่าทิ้ง
วันนี้ (13 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการคลี่คลายฆ่าหั่นศพเด็กชาย และคดีฆ่าหญิงนิรนาม ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ว่า เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ สน.ตลิ่งชัน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีอีกครั้ง พร้อมกับเปิดเผยว่า ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนพบเอกสารการกู้เงินยอดจำนวน 100,000 บาท ซึ่งมีลายนิ้วมือของผู้หญิงที่พบศพในท้องที่ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ติดอยู่ จากการตรวจสอบแล้วเชื่อว่า ผู้ตายคือ นางลี กวาง ซู อายุประมาณ 35 ปี สัญชาติเกาหลี ซึ่งหนีหมายจับคดียักยอกทรัพย์จากประเทศเกาหลี เข้ามาทำธุรกิจเป็นไกด์ทัวร์ในประเทศไทย ส่วนสามีของผู้ตาย ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปได้ประมาณ 1 ปีแล้ว และทางตำรวจพยายามติดต่อไปหาอยู่
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพของเด็กนิรนาม ที่พบศพในท้องที่ สน.ตลิ่งชัน เมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) ไปเผยแพร่ตามแหล่งพักอาศัยของชาวเกาหลี ที่แมนชั่นแห่งหนึ่งชื่อ เอสวี ซิตี้ คอนโดฯย่านถนนพระราม 3 ผลปรากฏว่า มีผู้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเด็กชายนิรนามรายนี้ และมีหญิงชาวไทยที่อดีตเคยเป็นพี่เลี้ยง ระบุว่า เด็กคนนี้เป็นเด็กเกาหลี สัญชาติแคนาเดียน ชื่อ จี ฮุน อายุประมาณ 5 ขวบ เมื่อ 2 ปีก่อนเคยเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1/2 ที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งย่านบางนา แต่ย้ายออกมาแล้วนอกจากนี้ยังมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเด็กด้วยว่า เด็กเคยได้รับบาดเจ็บกระดูกร้าวที่แขนข้างซ้าย และ เข้ารักษาตัวที่ รพ.ไทยนครินทร์ ซึ่งตำรวจได้ไปประสานขอข้อมูลแล้วเชื่อว่าน่าจะเป็นเด็กคนเดียวกัน
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อไปว่า พี่เลี้ยงคนดังกล่าวไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้หญิงที่พบศพในท้องที่ลาดหลุมแก้ว เป็นแม่เด็กหรือไม่ เพราะรูปถ่ายขณะเป็นศพดูบวมกว่าหน้าตาที่เคยเห็น และพี่เลี้ยงก็ไม่เคยรู้จักกับพ่อเด็กแต่มีข้อมูลสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ด.ช.จีฮุน ยังมีพี่น้องอีกคนชื่อ ด.ช.ซอง ซู ออน และตัวยังเล็กๆ อยู่ แต่ปรากฏว่า ไม่มีใครทราบว่าตอนนี้ ด.ช.ซอง ซู ออน หายไปอยู่ที่ไหนกับใคร โดยในวันนี้ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ผลการพิสูจน์ทุกอย่างก็จะมาถึงที่ สน.ตลิ่งชัน จะทำให้เราได้ทราบว่า ชาวเกาหลีทั้ง 3 ราย ที่พบเป็นศพไปแล้ว 2 ราย กับที่ยังหาไม่เจออีก 1 รายนั้น เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดหรือไม่ เพราะผลการตรวจเลือดของเด็กออกมาเป็นกรุ๊ปเอ ส่วนหญิงสาวเป็นกรุ๊ปบี แต่กรณีนี้ทางเด็กอาจจะได้รับพันธุกรรมจากฝ่ายพ่อมามากกว่าก็เป็นได้
พล.ต.ท.อัศวิน ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้ส่งหัวกระสุนปืนขนาด .38 ที่พบในศพทั้ง 2 ศพ ไปตรวจสอบที่ ตร.แล้ว ถ้าพบว่ายิงจากปืนกระบอกเดียวกันรูปคดีก็จะชัดเจนขึ้นทุกอย่างจะทราบผลภายในคืนนี้ ติดอยู่ที่ว่าขณะนี้ที่ประเทศเกาหลีเป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม เราจึงไม่สามารถเช็กข้อมูลอะไรได้มากนัก นอกจากขอเปรียบเทียบยืนยันลายนิ้วมือของ นางลี กวาง ซู ผู้ตาย จากห้วงเวลาการพบศพของ นางลี กวาง ซู เมื่อวันที่ 11 ต.ค.นั้น เรายังไม่ทราบว่า ผลการผ่าร่างกายจากนิติเวช รพ.ธรรมศาสตร์รังสิต เป็นอย่างไร แต่ศพของเด็กที่พบในวันรุ่งขึ้นนั้น แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ผ่าแล้วพบว่าในกระเพาะอาหารไม่มีเศษอาหารเหลืออยู่เลย อาจเป็นไปได้ว่า ถูกคนร้ายลักพาตัวไปกักขังไว้นานถึง 1 วัน ก่อนถูกฆ่าทิ้ง
โดยระหว่างที่ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กำลังร่วมประชุมกับฝ่ายสืบสวนอย่างเคร่งเครียดอยู่นั้น ปรากฏว่า นายแช ซัง วอน กงสุลและผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมคณะเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ได้พากันเดินทางมาที่ สน.ตลิ่งชัน เพื่อประสานขอข้อมูลเกี่ยวกับคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นทั้ง 2 คดี และมาแปลเอกสารสำคัญบางอย่างที่เป็นหลักฐานให้ตำรวจไทยโดยคณะเจ้าหน้าที่ทูตเกาหลี ได้ปฏิเสธที่จะไม่ให้ข่าวใดๆ แก่สื่อมวลชน แต่ในเบื้องต้นคาดการณ์กันว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย น่าจะเป็นบุคคลสัญชาติเกาหลีค่อนข้างแน่นอน
ทั้งนี้ จากการประสานไปขอตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ บช.สตม.ระบุว่า ประเทศไทยมีชาวเกาหลีเข้าออกเดือนละกว่า 1,000 คน จึงสืบหาข้อมูลได้ยากมาก แต่การที่คนร้ายนำชิ้นส่วนบริเวณข้อมือเด็กทั้ง 2 ข้าง ไปทิ้ง ณ จุดอื่นแสดงให้เห็นว่า ต้องการอำพรางตัวผู้ตายไม่ให้ตำรวจตรวจสอบได้ เนื่องจากหากตำรวจพบรอยนิ้วมือของเด็ก ก็สามารถนำไปเทียบกับลายนิ้วมือที่ทำการสแกนเอาไว้ก่อนเดินทางผ่านเข้าประเทศไทยได้อย่างแน่นอน
วันนี้ (13 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการคลี่คลายฆ่าหั่นศพเด็กชาย และคดีฆ่าหญิงนิรนาม ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ว่า เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ สน.ตลิ่งชัน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีอีกครั้ง พร้อมกับเปิดเผยว่า ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนพบเอกสารการกู้เงินยอดจำนวน 100,000 บาท ซึ่งมีลายนิ้วมือของผู้หญิงที่พบศพในท้องที่ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ติดอยู่ จากการตรวจสอบแล้วเชื่อว่า ผู้ตายคือ นางลี กวาง ซู อายุประมาณ 35 ปี สัญชาติเกาหลี ซึ่งหนีหมายจับคดียักยอกทรัพย์จากประเทศเกาหลี เข้ามาทำธุรกิจเป็นไกด์ทัวร์ในประเทศไทย ส่วนสามีของผู้ตาย ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปได้ประมาณ 1 ปีแล้ว และทางตำรวจพยายามติดต่อไปหาอยู่
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพของเด็กนิรนาม ที่พบศพในท้องที่ สน.ตลิ่งชัน เมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) ไปเผยแพร่ตามแหล่งพักอาศัยของชาวเกาหลี ที่แมนชั่นแห่งหนึ่งชื่อ เอสวี ซิตี้ คอนโดฯย่านถนนพระราม 3 ผลปรากฏว่า มีผู้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเด็กชายนิรนามรายนี้ และมีหญิงชาวไทยที่อดีตเคยเป็นพี่เลี้ยง ระบุว่า เด็กคนนี้เป็นเด็กเกาหลี สัญชาติแคนาเดียน ชื่อ จี ฮุน อายุประมาณ 5 ขวบ เมื่อ 2 ปีก่อนเคยเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1/2 ที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งย่านบางนา แต่ย้ายออกมาแล้วนอกจากนี้ยังมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเด็กด้วยว่า เด็กเคยได้รับบาดเจ็บกระดูกร้าวที่แขนข้างซ้าย และ เข้ารักษาตัวที่ รพ.ไทยนครินทร์ ซึ่งตำรวจได้ไปประสานขอข้อมูลแล้วเชื่อว่าน่าจะเป็นเด็กคนเดียวกัน
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อไปว่า พี่เลี้ยงคนดังกล่าวไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้หญิงที่พบศพในท้องที่ลาดหลุมแก้ว เป็นแม่เด็กหรือไม่ เพราะรูปถ่ายขณะเป็นศพดูบวมกว่าหน้าตาที่เคยเห็น และพี่เลี้ยงก็ไม่เคยรู้จักกับพ่อเด็กแต่มีข้อมูลสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ด.ช.จีฮุน ยังมีพี่น้องอีกคนชื่อ ด.ช.ซอง ซู ออน และตัวยังเล็กๆ อยู่ แต่ปรากฏว่า ไม่มีใครทราบว่าตอนนี้ ด.ช.ซอง ซู ออน หายไปอยู่ที่ไหนกับใคร โดยในวันนี้ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ผลการพิสูจน์ทุกอย่างก็จะมาถึงที่ สน.ตลิ่งชัน จะทำให้เราได้ทราบว่า ชาวเกาหลีทั้ง 3 ราย ที่พบเป็นศพไปแล้ว 2 ราย กับที่ยังหาไม่เจออีก 1 รายนั้น เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดหรือไม่ เพราะผลการตรวจเลือดของเด็กออกมาเป็นกรุ๊ปเอ ส่วนหญิงสาวเป็นกรุ๊ปบี แต่กรณีนี้ทางเด็กอาจจะได้รับพันธุกรรมจากฝ่ายพ่อมามากกว่าก็เป็นได้
พล.ต.ท.อัศวิน ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้ส่งหัวกระสุนปืนขนาด .38 ที่พบในศพทั้ง 2 ศพ ไปตรวจสอบที่ ตร.แล้ว ถ้าพบว่ายิงจากปืนกระบอกเดียวกันรูปคดีก็จะชัดเจนขึ้นทุกอย่างจะทราบผลภายในคืนนี้ ติดอยู่ที่ว่าขณะนี้ที่ประเทศเกาหลีเป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม เราจึงไม่สามารถเช็กข้อมูลอะไรได้มากนัก นอกจากขอเปรียบเทียบยืนยันลายนิ้วมือของ นางลี กวาง ซู ผู้ตาย จากห้วงเวลาการพบศพของ นางลี กวาง ซู เมื่อวันที่ 11 ต.ค.นั้น เรายังไม่ทราบว่า ผลการผ่าร่างกายจากนิติเวช รพ.ธรรมศาสตร์รังสิต เป็นอย่างไร แต่ศพของเด็กที่พบในวันรุ่งขึ้นนั้น แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ผ่าแล้วพบว่าในกระเพาะอาหารไม่มีเศษอาหารเหลืออยู่เลย อาจเป็นไปได้ว่า ถูกคนร้ายลักพาตัวไปกักขังไว้นานถึง 1 วัน ก่อนถูกฆ่าทิ้ง
โดยระหว่างที่ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กำลังร่วมประชุมกับฝ่ายสืบสวนอย่างเคร่งเครียดอยู่นั้น ปรากฏว่า นายแช ซัง วอน กงสุลและผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมคณะเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ได้พากันเดินทางมาที่ สน.ตลิ่งชัน เพื่อประสานขอข้อมูลเกี่ยวกับคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นทั้ง 2 คดี และมาแปลเอกสารสำคัญบางอย่างที่เป็นหลักฐานให้ตำรวจไทยโดยคณะเจ้าหน้าที่ทูตเกาหลี ได้ปฏิเสธที่จะไม่ให้ข่าวใดๆ แก่สื่อมวลชน แต่ในเบื้องต้นคาดการณ์กันว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย น่าจะเป็นบุคคลสัญชาติเกาหลีค่อนข้างแน่นอน
ทั้งนี้ จากการประสานไปขอตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ บช.สตม.ระบุว่า ประเทศไทยมีชาวเกาหลีเข้าออกเดือนละกว่า 1,000 คน จึงสืบหาข้อมูลได้ยากมาก แต่การที่คนร้ายนำชิ้นส่วนบริเวณข้อมือเด็กทั้ง 2 ข้าง ไปทิ้ง ณ จุดอื่นแสดงให้เห็นว่า ต้องการอำพรางตัวผู้ตายไม่ให้ตำรวจตรวจสอบได้ เนื่องจากหากตำรวจพบรอยนิ้วมือของเด็ก ก็สามารถนำไปเทียบกับลายนิ้วมือที่ทำการสแกนเอาไว้ก่อนเดินทางผ่านเข้าประเทศไทยได้อย่างแน่นอน