นายกฯ หยอดคำหวาน ป้อนชาวอยุธยา ระบุ ครม.เตรียมอนุมัติเงินกองทุนเพิ่มอังคารหน้า วอนรักใครชอบใคร แสดงความคิดเห็นได้ แต่อย่าทำบ้านเมืองวุ่นวาย ขอโอกาสรัฐบาลบริหาร ชี้ ฝ่ายค้าน-รัฐบาล ต่างทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน ลั่นไม่มีรัฐบาลไหนอยู่ค้ำฟ้า สุดท้ายต้องอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน
วันนี้ (9 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข และ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกฯ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยภัยน้ำท่วมที่ วัดสีกุก อ.บางบาล และวัดโคกทอง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมรับฟังบรรยายสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมอบถุงยังชีพ 21 ชุด ให้กับตัวแทนประชาชน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับชาวบ้านประมาณ 300 คน มีใจความสำคัญตอนหนึ่ง ว่า จากการติดตามสถานการณ์ คิดว่า ทางอำเภอและจังหวัดสามารถที่จะรับมือไหวเพราะมีการเตรียมการโดยตลอด อักทั้งขณะนี้คิดว่าสถานการณ์น้ำเริ่มลดลง ถ้าไม่มีพายุ หรือฝนตกเพิ่มลงมาอีก ไม่น่าจะมีปัญหา ในส่วนของปริมาณน้ำเหนือที่ไหลหลากลงมานั้น สามารถที่จะบริหารจัดการได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวป้อนคำหวานต่อว่า ช่วงนี้เรากำลังจะอนุมัติเงินลงมาช่วยเรื่องกองทุนหมู่บ้าน และเวลานี้ปัญหา คือ พี่น้องกู้ยืมไปแล้วไม่มีเงินมาคืนตามกำหนดระยเวลา 1 ปี วันนี้เราให้กรรมการกองทุนพิจารณายืดเวลาออกเป็น 2 ปี หากเหมาะสมก็จะอนุญาตให้ตามนั้น ส่วนที่เกรงจะไม่มีเงินหมุนเวียนในกองทุนนั้น รัฐบาลกำลังจะเติมเงินให้ แต่จะเติมให้แต่ละกองทุนไม่เท่ากัน ขึ้นกับจำนวนสมาชิกกองทุน ตั้งแต่ สองแสน สี่แสน และหกแสนบาท เงินกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาอนุมัตในที่ประชุม ครม.อังคารที่ 13 ต.ค.นี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้พูดตั้งแต่วันแรกที่มารับตำแหน่ง ว่า ตนมีหน้าที่ทำงานให้กับพี่น้องประชาชน และต้องการให้พี่น้องประชาชนมองเห็นว่ารัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองไหน ใครเข้ามาบริหารมีหน้าที่ทำงานให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน ไม่แบ่งภาค แบ่งสี แบ่งจังหวัด ไม่แบ่งพรรคอันนี้เป็นแนวทางที่ผมตั้งใจที่จะทำจริงๆ และเดินหน้ามาตลอด ส่วนเรื่องการเมืองตนเข้าใจดีคิดเห็นไม่เหมือนกันเรื่องปกติ จะให้มารักพรรคเพียวกัน คนเดียวกันเป็นไปไม่ได้ อันนี้ธรรมชาติ ตนอยู่การเมืองมาเกือบ 20 ปี ทราบดี ยังน้อยใจว่าอยู่มา 20 ปี ที่นี่ไม่เลือกผู้แทนให้ตนเลยสักครั้ง แต่ไม่เป็นไรก็มาทำงานเพื่อที่จะบอกว่าทุกพรรคการเมือง มีไม่มี ส.ส.ต้องมาทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ฝ่ายค้านก็ต้องทำงาน รัฐบาลก็ต้องทำงาน ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่กัน ใครจะชอบใครรักใครไม่ว่ากัน
“ขออย่างเดียวอย่าทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ไม่เห็นด้วยคัดค้าน หรือมีความคิดอ่านอย่างไรแสดงออกได้อย่างสงบ ผมรับฟังทุกปัญหารับฟังทุกคน เวลานี้เถียงกันเรื่องรัฐธรรมนูญก็ให้ทุกพรรคมาดูว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น หากแต่ความคิดตัวเองก็ทะเลาะกันไม่จบ นี่คือสิ่งที่ผมพยายามทำอยู่ ใครจะชุมนุมเรียกร้องไม่เป็นไรทำได้ แต่อย่าใช้ความรุนแรงอย่าไปสร้างปัญหา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนเดินทางไปต่างประเทศ ชาวโลกเขารักคนไทย ประทับใจคนไทยเป็นพื้นฐาน อยากมาค้าขาย อยากมาลงทุน อยากมาท่องเที่ยว แต่เวลาเห็นข่าวเราตีกันทีไร ตนก็บอกว่าตีกันเอง ไม่ตีหรอกเขานะ ตีเขากลัวลูกหลง คนที่จะมาลงทุนก็ไม่มั่นใจ ตีกันไปตีกันมา ไม่รู้ว่าบ้านเมืองบริหารได้หรือเปล่า
“ฉะนั้น เรื่องการเมืองผมอยากขอเพียงแค่ให้กระผมได้เดินหน้าทำงานไป ขอโอกาสให้พวกเราผมก็ทำงาน ฝ่ายค้านก็ทำงาน เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนุญเรากำลังดูว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไร สุดท้ายระบอบประชาธิปไตย ไม่มีรัฐบาลไหนอยู่ค้ำฟ้า ต้องกลับมาหาประชาชน ผมขอโอกาสให้ประเทศไทยในช่วงนี้ ถ้าเราทำให้บ้านเมืองสงบได้ทุกอย่างเดินหน้า เศรษฐกิจก็แก้ง่าย ปัญหาต่างๆ ก็แก้ง่าย การที่ผมเข้ามาทำงานไม่เคยคิดที่จะทะเลาะเบาะแว้งกับใคร มีข้อเสนอต่างๆ หากมีเหตุผลก็ทำ แต่ถ้าอะไรคลาดเคลื่อนพร้อมที่จะชี้แจง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว