เสี่ยร้านอะไหล่รถ ตัดสินใจใช้อาวุธปืนฆ่าตัวตาย หลังธุรกิจขาดทุน อาศัยช่วงเวลาฝนกระหน่ำหนักลั่นไกในห้องนอนเพื่อไม่ให้ใครได้ยินเสียงปืน ส่วนในห้องพบรูปบิ๊กตำรวจหลายนายให้พร้อมลายเซ็นเป็นที่ระลึก
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ท.ธรรมรัตน์ เรืองด้วง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งว่า มีผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิตภายในร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ชื่อ บริษัท ช.ทวีทรัพย์ กลการ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 127/12-13 ถนนพระราม 3 ใกล้ซอย 58 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครึ่ง ปลูกติดกันจำนวน 2 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายอะไหล่และอุปกรณ์รถยนต์มือสอง จากการตรวจสอบบริเวณชั้นลอย ซึ่งทำเป็นสำนักงานและมีที่นอนสำหรับพักผ่อน เจ้าหน้าที่พบศพ นายชัยวัฒน์ หรือ “เสี่ยฮั้ว” ชินพีระเสถียร อายุ 57 ปี เจ้าของกิจการ สภาพศพนอนตะแคงซ้ายหลังพิงผนังห้องใกล้กับโต๊ะทำงาน สวมเสื้อยืดคอปกสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด .22 เข้าที่ขมับขวากระสุนตุงขมับซ้าย ในระยะประชิดโดยมีเขม่าสีดำติดอยู่ที่บาดแผลจำนวนมาก
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .22 ตกอยู่ที่ปลายเท้าผู้ตาย 1 กระบอก ภายในรังเพลิงพบปลอกกระสุนที่ถูกยิงไปแล้ว 1 นัด ยังเหลือค้างอยู่อีก 4 นัด เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้และรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
จากการสอบสวน นายศราวุธ ชินพีระเสถียร อายุ 28 ปี ลูกชายผู้ตายให้การว่า ที่บ้านหลังนี้พักกันรวม 5 คน คือ พ่อ แม่ ตน และน้องๆ เมื่อช่วง 08.00 น. ที่ผ่านมาตนตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าร้านยังไม่เปิด จึงรีบลงจากห้องนอนชั้น 4 มาปลุกพ่อที่ออฟฟิศชั้นลอย แต่ปรากฏว่า ประตูกระจกถูกล็อกเอาไว้จากด้านใน จึงพยายามตะโกนเรียก แต่เรียกเท่าไหร่พ่อก็ไม่ตอบรับ เลยตัดสินใจทุบประตูกระจกเข้าไป ก็พบว่าพ่อใช้ปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิตไปแล้ว
ด้าน ร.ต.ท.ธรรมรัตน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นแพทย์ระบุว่านายชัยวัฒน์เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 ชั่วโมง น่าเชื่อว่าคงจะใช้ปืนก่อเหตุยิงตัวเองตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาขณะฝนตกหนักเลยไม่มีใครในบ้านได้ยินเสียงปืน แต่จากการสอบสวนญาติๆ ทราบว่า ที่ผ่านมาเคยได้ยินผู้ตายบ่นให้ฟังบ่อยครั้งเรื่องธุรกิจการค้าอะไหล่รถขาดทุน จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายตัดสินใจฆ่าตัวตายในครั้งนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะเรียกคนใกล้ชิดมาสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบที่บริเวณผนังโต๊ะทำงานชั้นล่าง พบภาพถ่ายหน้าตรงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในชุดเต็มเครื่องแบบ แขวนไว้จำนวน 3 คน ประกอบด้วยภาพถ่ายของ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ดำรงค์ศักดิ์ นิลคูหา อดีต ผบช.น.ที่เซ็นชื่อมอบให้ผู้ตายไว้เป็นที่ระลึกตั้งแต่ พ.ศ.2542 ส่วนภาพอีกใบเป็นของ พล.ต.อ.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งไม่มีลายเซ็นกำกับไว้แต่อย่างใด
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ท.ธรรมรัตน์ เรืองด้วง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งว่า มีผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิตภายในร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ชื่อ บริษัท ช.ทวีทรัพย์ กลการ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 127/12-13 ถนนพระราม 3 ใกล้ซอย 58 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครึ่ง ปลูกติดกันจำนวน 2 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายอะไหล่และอุปกรณ์รถยนต์มือสอง จากการตรวจสอบบริเวณชั้นลอย ซึ่งทำเป็นสำนักงานและมีที่นอนสำหรับพักผ่อน เจ้าหน้าที่พบศพ นายชัยวัฒน์ หรือ “เสี่ยฮั้ว” ชินพีระเสถียร อายุ 57 ปี เจ้าของกิจการ สภาพศพนอนตะแคงซ้ายหลังพิงผนังห้องใกล้กับโต๊ะทำงาน สวมเสื้อยืดคอปกสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด .22 เข้าที่ขมับขวากระสุนตุงขมับซ้าย ในระยะประชิดโดยมีเขม่าสีดำติดอยู่ที่บาดแผลจำนวนมาก
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .22 ตกอยู่ที่ปลายเท้าผู้ตาย 1 กระบอก ภายในรังเพลิงพบปลอกกระสุนที่ถูกยิงไปแล้ว 1 นัด ยังเหลือค้างอยู่อีก 4 นัด เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้และรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
จากการสอบสวน นายศราวุธ ชินพีระเสถียร อายุ 28 ปี ลูกชายผู้ตายให้การว่า ที่บ้านหลังนี้พักกันรวม 5 คน คือ พ่อ แม่ ตน และน้องๆ เมื่อช่วง 08.00 น. ที่ผ่านมาตนตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าร้านยังไม่เปิด จึงรีบลงจากห้องนอนชั้น 4 มาปลุกพ่อที่ออฟฟิศชั้นลอย แต่ปรากฏว่า ประตูกระจกถูกล็อกเอาไว้จากด้านใน จึงพยายามตะโกนเรียก แต่เรียกเท่าไหร่พ่อก็ไม่ตอบรับ เลยตัดสินใจทุบประตูกระจกเข้าไป ก็พบว่าพ่อใช้ปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิตไปแล้ว
ด้าน ร.ต.ท.ธรรมรัตน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นแพทย์ระบุว่านายชัยวัฒน์เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 ชั่วโมง น่าเชื่อว่าคงจะใช้ปืนก่อเหตุยิงตัวเองตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาขณะฝนตกหนักเลยไม่มีใครในบ้านได้ยินเสียงปืน แต่จากการสอบสวนญาติๆ ทราบว่า ที่ผ่านมาเคยได้ยินผู้ตายบ่นให้ฟังบ่อยครั้งเรื่องธุรกิจการค้าอะไหล่รถขาดทุน จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายตัดสินใจฆ่าตัวตายในครั้งนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะเรียกคนใกล้ชิดมาสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบที่บริเวณผนังโต๊ะทำงานชั้นล่าง พบภาพถ่ายหน้าตรงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในชุดเต็มเครื่องแบบ แขวนไว้จำนวน 3 คน ประกอบด้วยภาพถ่ายของ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ดำรงค์ศักดิ์ นิลคูหา อดีต ผบช.น.ที่เซ็นชื่อมอบให้ผู้ตายไว้เป็นที่ระลึกตั้งแต่ พ.ศ.2542 ส่วนภาพอีกใบเป็นของ พล.ต.อ.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งไม่มีลายเซ็นกำกับไว้แต่อย่างใด