ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจเมืองภูเก็ตระดมกำลังปิดล้อมคนร้าย 4 คน ใช้อาวุธปืนชิงทองจากเจ้าของเต็นท์รถถนนศักดิเดชได้ทองคำไปจำนวน 10 บาท
พ.ต.อ.วันชัย เอกพรพิชญ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายจำนวน 4 คน ใช้อาวุธปืนก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์จากเจ้าของเต็นท์รถแห่งหนึ่งในพื้นที่ถนนศักดิ์เดช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่าเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ (28 ต.ค.) ได้มีคนร้ายจำนวน 4 คนขับขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ทำที่เข้าไปขอดูรถที่เต็นท์จำหน่ายรถยนต์มือสอง เลขที่ 13/6 บริเวณถนนศักดิ์เดช อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โดยมีเจ้าของเต็นท์เป็นผู้ดูแล ขณะที่เจ้าของเต็นท์เผลอคนร้ายได้เข้าประชิดตัวเพื่อที่จะชิงสร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือน้ำหนักรวม 10 บาท แต่เจ้าของต่อสู้คนร้ายที่เหลือได้ชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่และชิงเอาสร้อยข้อมือและสร้อยคอไปได้ส่วนหนึ่ง หลังจากนั้นคนร้ายทั้ง 4 คน ได้ขับรถหลบหนีไป
หลังจากได้รับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายออกติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงทองในครั้งนี้แล้วคาดว่าน่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้โดยเร็ว เนื่องจากผู้เสียหายจำรูปพรรณสัณฐานคนร้ายและและจำป้ายทะเบียนรถได้หนึ่งกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลป้ายทะเบียนรถและสเก็ตภาพคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนการติดตามจับกุมนั้น นอกจากจะมีการสกัดตามจุดต่างๆ แล้วยังให้ติดตามตรวจสอบร้านทองต่างๆ ในพื้นที่ด้วยซึ่งคนร้ายอาจจะนำทองคำที่ชิงมาได้ไปขายเปลี่ยนเป็นเงินแทน
พ.ต.อ.วันชัย เอกพรพิชญ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายจำนวน 4 คน ใช้อาวุธปืนก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์จากเจ้าของเต็นท์รถแห่งหนึ่งในพื้นที่ถนนศักดิ์เดช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่าเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ (28 ต.ค.) ได้มีคนร้ายจำนวน 4 คนขับขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ทำที่เข้าไปขอดูรถที่เต็นท์จำหน่ายรถยนต์มือสอง เลขที่ 13/6 บริเวณถนนศักดิ์เดช อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โดยมีเจ้าของเต็นท์เป็นผู้ดูแล ขณะที่เจ้าของเต็นท์เผลอคนร้ายได้เข้าประชิดตัวเพื่อที่จะชิงสร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือน้ำหนักรวม 10 บาท แต่เจ้าของต่อสู้คนร้ายที่เหลือได้ชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่และชิงเอาสร้อยข้อมือและสร้อยคอไปได้ส่วนหนึ่ง หลังจากนั้นคนร้ายทั้ง 4 คน ได้ขับรถหลบหนีไป
หลังจากได้รับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายออกติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงทองในครั้งนี้แล้วคาดว่าน่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้โดยเร็ว เนื่องจากผู้เสียหายจำรูปพรรณสัณฐานคนร้ายและและจำป้ายทะเบียนรถได้หนึ่งกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลป้ายทะเบียนรถและสเก็ตภาพคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนการติดตามจับกุมนั้น นอกจากจะมีการสกัดตามจุดต่างๆ แล้วยังให้ติดตามตรวจสอบร้านทองต่างๆ ในพื้นที่ด้วยซึ่งคนร้ายอาจจะนำทองคำที่ชิงมาได้ไปขายเปลี่ยนเป็นเงินแทน
