“ตูมตาม เชิญยิ้ม” ขำไม่ออก เข้าขอความช่วยเหลือจาก “พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ” มือปราบหูดำ ขวัญใจชาวตลก ให้ช่วยติดตามเพื่อนตลกด้วยกันที่เชิดรถไปแล้วไม่ยอมส่งต่อ จนถูกฟ้องร้องดำเนินคดีถึงศาล เผยมีตลกอีกหลายรายที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน
วันนี้ (30 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 นายธนพล หรือเกรียงไกร สินสนอง หรือที่รู้จักในชื่อวงการตลกว่า “ตูมตาม เชิญยิ้ม” อายุ 52 ปี เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีตกเป็นผู้ต้องหายักยอกทรัพย์
นายธนพลกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2549 ได้ซื้อรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ภฮ 3709 กรุงเทพมหานคร ในราคา 590,640 บาท จากบริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) โดยตกลงผ่อนชำระค่างวดๆ ละ 12,305 บาท แต่ตนผ่อนได้เพียง 2 งวดก็ผ่อนไม่ไหวเพราะมีภาระมาก อีกทั้งเศรษฐกิจไม่ดี งานก็ลดลง จึงนำรถไปขายดาวน์ให้ นายมารุต ธีมานนท์ หรือโต้ง อายุ 45 ปี ซึ่งรู้จักกันมานาน เพราะโต้งเคยทำงานเป็นตลกอยู่คณะน้อย โพธิ์งาม โดยเมื่อได้เงินค่าขายดาวน์ 50,000 บาท นายโต้งก็เอารถไป ซึ่งก็เชื่อใจไม่ได้ทำสัญญา ซึ่งกำชับว่าเอารถไปให้ผ่อนต่อด้วย เพราะยังเป็นชื่อตนอยู่ แต่ต่อมาปรากฏว่าเหตุการณ์ผ่านไป 2 ปี มีนายอุลิศ พุฒถนอม ทนายความจากบริษัทรถมาพบตนก่อนเข้าแจ้งความต่อ สน.ประชาชื่น ว่าตนยักยอกทรัพย์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้หากไม่มีการจ่ายเงินค่ารถไปก็น่าจะมีหนังสือมาบอกกันก่อน
นายธนพลกล่าวอีกว่า ตนเชื่อใจนายมารุตเพราะรู้จักกันมานาน เคยมากินนอนที่บ้านอยู่ 7-8 ปีจึงไว้ใจ หลังจากขายรถก็ติดต่อไม่ได้ แต่ไม่นานมานี้นายมารุตโทรศัพท์มาหาบอกว่าเข้าโรงพยาบาล ก็ได้ถามว่ารถตนไปไหน นายมารุตบอกว่าให้นายชัยรัตน์ บุญพรหม หรือต้น อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นอดีตมือกีตาร์คณะจตุรงค์ มกจ๊ก ไปแล้ว แต่ก็ไม่สามารถติดตามทั้งสองคนจนพบตัวได้ จึงเดือดร้อนมากที่ตกเป็นผู้ต้องหา จึงประสานขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.ต.วิชัย เนื่องจากรู้จักกันมานาน อีกทั้งหลังเกิดเรื่องกับตนพบว่ามีตลกอีกหลายรายที่โดนแบบเดียวกันทั้ง ชูศรี เชิญยิ้ม, กระรอก เชิญยิ้ม และหยอง ลูกหยี
“หลังจากที่ตกเป็นผู้ต้องหาก็รู้สึกทุกข์มาก เพราะไม่ได้เป็นคนร่ำรวยมีฐานะอะไร โดยพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนคดีไปที่อัยการแล้ว และได้นัดให้ผมไปพบที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ในวันที่ 5 ต.ค. เวลา 10.00 น.นี้” นายธนพลกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า เบื้องต้นจะเรียกตลกรายอื่นที่โดนในลักษณะเดียวกันมาพูดคุย เพื่อหาข้อมูล แต่หากพบผิดจริงและมีหลายรายที่ถูกกระทำลักษณะนี้ก็จะติดตามดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้ถูกพาดพิงทั้ง 2 คนมาพบตนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วย