ศาลฎีกานักการเมือง พิพากษาตัดสิทธิ “อรพินท์ มั่นศิลป์” ส.ว.นครสวรรค์ พ้นตำแหน่ง สั่งห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง 5 ปี จงใจปกปิดบัญชีหนี้ค้ำประกัน กว่า 170 ล้าน แถมลงโทษจำคุกอีก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท แต่ยังปรานีรอลงอาญา 1 ปี ส่งผลเจ้าตัวพ้นตำแหน่งทันทีนับจากวันที่ศาลมีคำพิพากษา ส่วนคดี “สมบัติ อุทัยสาง” อดีต รมช.มหาดไทย ยุครัฐบาลทักษิณ ยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ศาลนัดตัดสิน 25 ก.ย. ด้าน คดี “ยุทธตู้เย็น" ยื่นทรัพย์เป็นเท็จ นัดชี้ชะตา 28 ก.ย.
วันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลมีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.4/2552 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยกรณีที่นางอรพินท์ มั่นศิลป์ ส.ว.นครสวรรค์ ยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2551 หลังจากเข้าดำรงตำแหน่ง ส.ว.เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2551 อันเป็นเท็จ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 263 โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาห้ามมิให้ นางอรพินท์ ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปีนับแต่วันที่ศาลฎีกาฯ วินิจฉัย และให้ลงโทษอาญา ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ด้วย
อย่างไรก็ตาม คดีนี้สืบเนื่องจาก นางอรพินท์ ส.ว.นครสวรรค์ ผู้คัดค้าน จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีที่ นางอรพินท์ ไม่แจ้งหนี้จำนวน 171,898,345.07 บาท โดยอ้างว่า เนื่องจากหลงลืมและเป็นหนี้ที่ไม่ได้ก่อ แต่เป็นหนี้ค้ำประกันของ นายอำนาจ ศิริชัย สามี ซึ่งเป็นลูกหนี้ค้ำประกันและได้หย่าขาดกับสามีแล้วจึงเข้าใจว่าไม่ได้เป็นหนี้ ต่อมาเมื่อวันที่ 6 พ.ค.51 จึงได้รับแจ้งจากทนายว่าศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้ตนในฐานะผู้ค้ำประกันเป็นบุคคลล้มละลาย
โดย องค์คณะผู้พิพากษา พิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่าย ป.ป.ช.ผู้ร้อง และ นางอรพินท์ ผู้คัดค้านแล้ว เห็นว่า นางอรพินท์ มีความผิดตามที่ ป.ป.ช. มีมติ จึงพิพากษาให้นางอรพินท์ พ้นจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา จ.นครสวรรค์ นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปื ส่วนโทษอาญานั้น พิพากษาให้จำคุก 2 เดือน และปรับ 4,000 บาท นางอรพินท์ ผู้คัดค้านตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช.มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ภายในเวลาที่กำหนด หรือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ แต่เนื่องจากนางอรพินท์ ไม่เคยต้องโทษอาญามาก่อน โทษจำคุก 2 เดือน จึงสมควรให้รอการลงโทษมีกำหนด 1 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งรายละเอียดคำพิพากษาประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ขณะที่ นางอรพินท์ จะต้องพ้นจากตำแหน่งทันที นับจากวันที่ศาลมีคำพิพากษาดังกล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนคดีที่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถูก ป.ป.ช. ยื่นคำร้องให้ศาลฎีกาฯ วินิจฉัยกรณีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนพยานฝ่ายนายยงยุทธ วันที่ 23 ก.ย.นี้ โดยนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 28 ก.ย.สำหรับคดีที่ นายสมบัติ อุทัยสาง อดีต รมช.มหาดไทย ยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรสที่อยู่ในของบุตร และหรือมีชื่อร่วมกับบุตรในบัญชี ซึ่งมีหน้าที่ต้องแสดงต่อ ป.ป.ช.9 ครั้ง ศาลฎีกา นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 25 ก.ย.นี้ เวลา 11.00 น.