เชียงราย – ศาลตัดสินทั้งจำ-ปรับไม่รอลงอาญา ม็อบโรงไฟฟ้าชีวมวลเชียงราย ฐานปิดถนน-ใช้เครื่องขยายเสียโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ให้ประกันสู้คดีต่อด้วยเงินสด 3 หมื่นบาทต่อคน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า กรณีที่กลุ่มชาวบ้านที่ต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลหรือพลังแกลบที่เอกชนจากบริษัทพลังงานสะอาดดี 2 จำกัด มีโครงการเข้าไปก่อสร้างกลางทุ่งนาพื้นที่หมู่บ้านไตรแก้ว หมู่ 8 ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย ได้ปิดถนนบริเวณสี่แยกแม่กรณ์ ถนนพหลโยธิน อ.เมือง เพื่อกดดันจังหวัดไม่ให้มีคำสั่งเห็นชอบกับโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดศาล จ.เชียงราย ได้มีคำพิพากษาตัดสินในคดีดังกล่าวแล้ว โดยนายเรืองชัย จันทร์แก้วแร่ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.เชียงราย และ นายกิติภูมิ บุญมี ผู้พิพากษาศาล จ.เชียงราย ได้ออกนั่งบัลลังค์ที่ 14 อ่านคำพิพากษาคดีดำที่ 2967/52 และคดีแดง 2945/52
โดยมีเนื้อหาในคำพิพากษาว่าจากกรณีที่แกนนำชาวบ้านจำนวน 13 คน ประกอบไปด้วยนางสุพรรณี แสงอรุณ ,นายพนิต จิตเกษม ,นายสมชาย ดวงดี ,นายสิทธิชัย หาสิงทอง ,นายเชวง สลีสองสม ,นายประกาศ กุลนา ,นายบุญเรือง สายปิน ,นายทองอินทร์ มโนนวรรณ์ ,นางสมบูรณ์ มูลศรี ,นายอำนวย ช้างหิน ,นายสุริยนต์ โพธิ์ศรี ,นายดวงใจ ยุบลรัตน์ และนายวีระเดช อุ่นมหาวรรณ์ ได้มีพฤติกรรมดังกล่าวศาลจึงตัดสินให้จำคุกคนละ 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญาและให้ปรับเป็นเงินคนละ 100 บาท
ในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 โดยศาลระบุอีกว่า การกระทำของจำเลยทั้งหมดเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน จึงให้ลงโทษทุกกรรม โดยโทษตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 มีโทษหนักที่สุดโดยให้ลงโทษจำคุก 1 ปี ฐานร่วมกันโฆษณาโดยการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตปรับคนละ 200 บาท
แต่เนื่องจากจำเลยทั้ง 13 คน ให้การรับสารภาพ ซึ่งทำให้เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี จึงมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จึงคงจำคุกจำเลยคนละ 6 เดือน และปรับคนละ 100 บาท นอกจากนี้การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่สาธารณประโยชน์โดยส่วนรวม และไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง ดังนั้นเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างจึงเห็นสมควรไม่ให้รอการลงโทษ
ทั้งนี้หลังพิพากษาแล้วศาลอนุญาตให้จำเลยทั้ง 13 คน ประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ด้วยหลักทรัพย์ประกันเป็นเงินสดคนละ 30,000 บาท
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าสำหรับกรณีการชุมนุมต่อต้านโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลดังกล่าวถือว่ายืดเยื้อมานานกว่า 1 ปีแล้ว โดยหลังจากเอกชนรายดังกล่าวเข้าไปซื้อที่ดินและเตรียมก่อสร้างบนเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ ติดถนนสายเวียงเหนือ-เวียงเชียงรุ้ง ก็ได้ทำให้ประชาชนในพื้นที่ ต.เวียงเหนือ และใกล้เคียงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จนเกิดการรวมตัวชุมนุมเรียกร้องทั้งฝ่ายต้านและสนับสนุนหลายครั้ง กระทั่งล่าสุดกลุ่มต่อต้านนำโดยแกนนำที่ถูกตัดสินโทษดังกล่าวได้ยกพวกไปล้อมศาลากลาง จ.เชียงราย เพื่อกดดันคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้รวมทั้งไล่นักข่าวบริเวณถนนทางขึ้น รวมทั้งปิดถนนตรงสี่แยกแม่กรณ์จนกลายเป็นคดีความขึ้น