เชียงราย – ตำรวจ-ข้าราชการแจ้งจับม็อบต่อต้านโรงไฟฟ้าชีวมวล ข้อหาปิดถนนแยกแม่กรณ์ทำให้การจราจรติดขัด ไล่ข้าราชการลงจากศาลากลางเชียงราย
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จากกรณีที่ได้มีกลุ่มประชาชนที่ต่อต้านการก่อสร้างโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานชีวมวลหรือจากแกลบที่บริษัทพลังงานสะอาดดี 2 จำกัด ที่จะเข้าไปก่อสร้างที่ทุ่งนาเขตหมู่บ้านไตรแก้ว ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย ติดกับ อ.เวียงเชียงรุ้ง จนถึงขั้นนำชาวบ้านกว่า 300 คน บุกขึ้นไปปิดทางขึ้นลงศาลากลางจังหวัด ระหว่างที่มีการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ ซึ่งมีนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธาน เมื่อเย็นวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา จนมีเหตุทะเลาะวิวาทไล่เตะข้าราชการหนุ่มและไล่ข้าราชการหญิงที่จะลงจากศากลางเพื่อกลับบ้านด้วยนั้น
ล่าสุดทาง พ.ต.ท.อนันตเดช ยาวิชัย รอง ผกก.ป.สภ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเข้าไปช่วยเหลือข้าราชการทั้ง 2 คนออกจากกลุ่มม็อบบริเวณทางขึ้นลงศาลากลางจังหวัด ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.เดชา ไชยอักษร สารวัตรเวร สภ.เมือง เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางสุพรรณี แสงอรุณ และพวก โดยให้ข้อมูลว่าได้พากันไปปิดถนนพหลโยธิน บริเวณสี่แยกแม่กรณ์ อ.เมือง เพื่อเรียกร้องให้มีการยุติโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าว จนทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยเป็นข้อหา "กระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะเป็นการกีดขวางการจราจรการทำการด้วยประการใดๆ ปิดเส้นทางหลวง หรือกระทำด้วยประการใดๆ บนทางหลวงในลักษณะอาจเกิดอันตรายหรือเสียหายแก่ยานพาหนะ หรือบุคคลและทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ซึ่ง พ.ต.ท.เดชา อยู่ระหว่างเก็บข้อมูลหลักฐานเพื่อการออกหมายเรียกนางสุพรรณี พร้อมพวกไปรับทราบข้อกล่าวหา แต่หากเรียกครบ 3 ครั้งแล้วไม่ไปรายงานตัวก็จะเป็นขั้นตอนเสนอต่อศาลเพื่ออกหมายจับต่อไป
ส่วนกรณีเหตุการณ์บนศาลากลาง จ.เชียงราย เมื่อเย็นวันที่ 3 ก.ค.นั้น ได้มีนายกมล ธิฉลาด อายุ 51 ปี นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ สำนักงาน จ.เชียงราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมว่าเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 3 ก.ค.ผ่านมาว่า ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมนำเอารถยนต์บรรทุก 6 ล้อ จำนวน 2 คัน ไปปิดขวางถนนทางเข้าและออกศาลากลางจังหวัด จนสร้างความเดือดร้อนให้กับข้าราชการที่กำลังเลิกงานและผู้ไปติดต่อราชการอย่างมาก และแม้จะมีการเข้าไปเจรจาแต่ก็ไม่เป็นผล จึงได้แจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ได้บันทึกปากคำเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อจะได้รวบรวมหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามยังไม่ถึงขั้นแจ้งความในข้อหาทำร้ายร่างกาย