ปธน.โอบามา ยอมรับ ตัวเลขว่างงานสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. พุ่งพรวด 5 แสนตำแหน่ง สูงสุดในรอบ 26 ปี เป็นข่าวที่สร้างความเจ็บปวด พร้อมจี้อุตสาหกรรมพลังงานกระตุ้นจ้างงาน ขณะที่น้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก ดิ่งลงกว่า 2.5 ดอลลาร์/บาเรล ดันฝันการฟื้นตัวทาง ศก.โดยรวดเร็ว ภายในปีนี้
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้กล่าวในที่ประชุมผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานภายหลังจากทราบตัวเลขจ้างงานที่ร่วงลงอย่างหนัก โดยระบุว่า ข่าวตัวเลขจ้างงานเป็นข่าวที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด แต่ก็ได้กล่าวชมเชยบริษัทพลังงานที่พยายามอย่างเต็มที่ในด้านการจ้างงาน
"สหรัฐคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะสามารถสร้างงานได้ตามเป้าหมาย และคงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าที่เศรษฐกิจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผมขอชมเชยบริษัทพลังงานที่พยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างงานและพลิกโฉมหน้าในอนาคตของสหรัฐให้เป็นแหล่งผลิตพลังงานสะอาด อุตสาหกรรมพลังงานเป็นหนึ่งในเสาหลัก ในการวางรากฐานเศรษฐกิจของสหรัฐ"
การแสดงความคิดเห็นของโอบามามีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) ร่วงลงเกินคาด 467,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน 2552 และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 365,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 9.6%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในการพบปะกับผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานในครั้งนี้ โอบามาได้หารือกับจอห์น เบอร์เกอร์ ซีอีโอบริษัท สแตนดาร์ด รีนิวเวเบิล เอ็นเนอร์จี กรุ๊ป , สเตฟานี เบิร์นส์ ซีอีโอจากดาวน์ คอร์นนิ่ง คอร์ป และเอมิท แชทเทอร์จี ซีอีโอจากฮารา ซอฟท์แวร์ รวมทั้งไมเคิล สปลินเตอร์ ซีอีโอบริษัท แอพพลายด์ แมททีเรียลส์ อิงค์
"ซีอีโอในอุตสาหกรรมพลังงานบอกผมว่าพวกเขามองหาลู่ทางที่จะจ้างงานใหม่ๆ บางแห่งวางแผนที่จะจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็น 2 หรือ 3 เท่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า พวกเขากำลังระดมหาเงินและจะช่วยประชาชนประหยัดในด้านพลังงาน ในส่วนของชาวอเมริกันนั้น พวกเราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงาน ซึ่งขณะนี้สตีเฟ่น ชู รมว.พลังงานกำลังหาทางที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือกใหม่ รวมถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ทำเนียบขาว" โอบามา กล่าวสรุปทิ้งท้าย
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ราคาน้ำมันในสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ (ตามเวลาในประเทศไทย) ดิ่งลงต่ำกว่าบาร์เรลละ 67 ดอลลาร์ ภายหลังจากข้อมูลตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นดับความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัวโดยเร็ว
ราคาน้ำมันดิบนิวยอร์กสัญญาส่งมอบเดือนสิงหาคม 2552 ปรับลด 2.58 ดอลลาร์ จากเมื่อวันพุธ ที่ระดับ 66.73 ดอลลาร์ ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ลอนดอนงวดเดือนสิงหาคม ลดลง 2.14 ดอลลาร์ เป็น 66.65 ดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันที่ลดลง หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ รายงานตัวเลขการว่างงานเพิ่มเป็น 467,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน 2552 ทำให้สถิติการว่างงานทะยานสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ร้อยละ 9.5 ทำลายความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ล่าสุด นับเป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างหนึ่ง