xs
xsm
sm
md
lg

“นครบาล” ใช้ตำรวจ 30 กองร้อยคุมม็อบแดง 19 กันยา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.
นครบาลติวเข้มแผนรับมือม็อบแดง 19 กันยา ชู “กรกฎ 52” นำการคุมสถานการณ์ เน้น รปภ.สถานที่ราชการสำคัญ “ทำเนียบ-บ้านสี่เสาฯ-ลานพระรูป” ป้องกันมือที่ 3 ป่วน หากเกิดการปะทะรุนแรงตำรวจทั้ง 30 กองร้อย ต้องฟังคำสั่งจาก กอ.รมน.เป็นหลัก เน้นเจรจาปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก ประกาศแจ้งผู้ชุมนุมทราบต่อเนื่อง เชื่อควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่ยืดเยื้อ

วันนี้ (17 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เรียกประชุมนายตำรวจระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานความมั่นคง งานด้านการจราจร งานกิจการพิเศษดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยพื้นที่ กทม.สถานที่ราชการบ้านพักบุคคลสำคัญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล (ผบก.น.1-9) ผู้บังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (ผบก. ตปพ.) ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) และผู้บังคับการอำนวยการ (ผบก.อก.) และ รอง ผบก.ผู้บังคับหมู่กองร้อยควบคุมฝูงชน ผู้ควบคุมกำลังตำรวจปราบจราจลจากกองบังคับการตำรวจนครบาลต่างๆ รองผู้บังคับการควบคุมกำลังตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และหน่วยงานสืบสวนด้านการข่าว เพื่อประเมินสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในวันที่ 19 ก.ย.พร้อมซักซ้อมการปฏิบัติการรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินรุนแรงวางแนวทางการป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดี กลุ่มมือที่ 3 สร้างความวุ่นวายสร้างสถานการณ์รุนแรงทำลายทรัพย์สินยั่วยุบุกรุกสถานที่ ราชการ โดยรายงานความคืบหน้าด้านการข่าวไปยัง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ทุกวันอย่างต่อเนื่อง ระบุ คาดว่า จะมีผู้มาร่วมชุมนุมจำนวนมากประมาณ 2-3 หมื่นคน แต่ยังไม่มีเหตุบ่งชี้ว่าถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น

พล.ต.ท.วรพงษ์ ได้เน้นย้ำทำความเข้าใจแผนปฏิบัติดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยตามแผน “กรกฎ 52” ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการควบคุมฝูงชนให้รัดกุมมากขึ้นทันต่อสถานการณ์การชุมนุมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และทำความเข้าใจในส่วนของกำลังยุทธวิธี ยุทโธปกรณ์ เครื่องมือ กฎการใช้กำลัง และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยให้ทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติยึดตามหลักมาตรฐานสากล เพื่อเป็นหลักประกันให้ ตำรวจมี ความมั่นใจในการทำงาน พร้อมย้ำการปฏิบัติให้ใช้ความละมุนละม่อม จากเบาไปหนักตามขั้นตอนสากลตามแผนปฏิบัติในทิศทางเดียวกันป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจนมีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการประพฤติมิชอบ ในวงราชการ (ป.ป.ช.) และให้ฟังคำสั่งของตนเองในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์แต่ เพียงผู้เดียวเท่านั้น

ด้าน พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) กล่าวว่า กองบังคับการตำรวจจราจรได้จัดกำลังตำรวจจราจรจำนวน 150 นายเข้าร่วมกับตำรวจจราจรพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ในการดูแลด้านการจัดการจราจรวันที่ 19 ก.ย.ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงจะร่วมชุมนุมบริเวณพระบรมรูปทรงม้าเป็นจำนวนมาก อาจต้องมีการปิดการจราจรบริเวณโดยรอบ ซึ่งทาง บก.จร.ได้เตรียมแผนรองรับสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว โดยกำลังจราจรนั้นจะคอยอำนวยความสะดวกให้ผู้สัญจรบริเวณดังกล่าว และใกล้เคียง และอยากฝากไปยังประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากตำรวจจะปิดถนนบางส่วนและช่วยลดปัญหาด้านการจราจรด้วย

รายงานด้านการข่าวระบุว่า จะมีมวลชนกลุ่มแนวร่วม นปช.ในพื้นที่ต่างๆเดินทางมาร่วมชุมนุม ประมาณ 2.5-3 หมื่นคน จาก กทม.ประมาณครึ่งหนึ่ง ที่เหลือมาจากภาคต่างๆ จังหวัดละ 200- 300 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด ประมาณ 5 พันคน มาชุมนุมกันเพื่อ

1.รำลึกถึงเหตุการณ์ครบรอบ 3 ปี รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ของ คมช.ที่ทำลายเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และเกียรติภูมิของชาติ 2.เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเบื้องหลังการทำรัฐประหาร คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

ส่วนข้อเรียกร้องนั้นมี 3 ข้อเดิมๆ ยุบสภาแก้รัฐธรรมนูญ ล้มอำมาตยาธิปไตย โดยจะเริ่มรวมตัวเวลา 13.00 น.ลานพระราชวังดุสิต (ลานพระบรมรูปทรงม้า) จากนั้น 17.00 น.จะขยายพื้นที่การชุมนุมโดยมวลชนไปบ้านสี่เสาเทเวศร์ และตั้งเวทีปราศรัย แกนนำ นปช.ยืนยันหากไม่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายจะยุติการชุมนุมตามที่ได้กำหนด 24.00 น.และคงไม่ชุมนุมยืดเยื้อ เพราะไม่มีการจัดเตรียมสเบียง อาหารและสัมภาระในการค้างแรม มีเพียงจัดเตรียมเสื้อสีแดง และป้ายข้อเรียกร้องต่างๆ เท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมจะขยายพื้นที่เคลื่อนไหวจากลานพระบรมรูปทรงม้าไปยังถนน ศรีอยุธยา-หน้า บช.น.-แยก พล.1 รอ.-สโมสร ทบ.(เดิม)-บ้านสี่เสาเทเวศร์ บางส่วนจะเดินเท้าผ่านหน้า ร.ร.ราชวินิต (ประถม) อ้อมไปทางหลังบ้านสี่เสาเทเวศร์ และมวลชนบางส่วนจะรอชุมนุมอยู่บริเวณแยกสี่เสา ด้านถนนสามเสน จากเวทีหลัก มวลชนเดินเท้าไปทางแยกสวนมิสกวัน ผ่านหน้ากองทัพภาคที่ 1/สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เลี้ยวขวาไปตามถนนพิษณุโลก ผ่านประตูทางออกกระทรวงศึกษาธิการ แยกวังแดง ถึงทางตัดถนนสามเสนเลี้ยวขวามุ่งหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ มีการรักษาความปลอดภัย (การ์ด) ประมาณ 300-400 คน นักศึกษา (ม.รามคำแหง) ประมาณ 100 คน วิทยุชุมชนแท็กซี่ ประมาณ 50 คน นักรบพระเจ้าตาก (ชุดพราน) ประมาณ 50 คน มีเป้าหมายหลัก 3 แห่งคือ บ้านสี่เสาเทเวศร์ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ บก.ทบ.

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างเต็มที่โดยใช้ แผน กรกฎ 52 (ที่มีระเบียบปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมที่ชัดเจนกว่าแผนกรกฎ 48) โดยจะใช้กำลังตำรวจและทหารรวม 26 กองร้อย (ประมาณ 3,950 นาย) เพื่อควบคุมผู้ชุมนุม พร้อมด้วยเครื่องแอลอาร์ดี (Long Range Acoustic Device) กำหนดทิศทางของเสียง ได้ในระยะไกล 300-3,000 เมตร ซึ่งเป็นเครื่องมือสากลที่ใช้ในหน่วยงานต่างประเทศ ใช้ในการควบคุมฝูงชน และสลายการชุมนุมไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บถาวร ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน เน้นการจับกุมตัวแกนนำเป็นเป้าหมายหลัก หากมีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงขึ้น

ทางด้าน พ.ต.อ.ปิยะ อุฑาโย รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ให้แถลงข่าวความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ภายหลังเสร็จสิ้นการซักซ้อมทำความเข้าใจการปฏิบัติร่วมกันโดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ยืนยันว่า ตำรวจนครบาลเตรียมพร้อมดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว มีการจัดกำลังทุกหน่วยเข้าร่วมปฏิบัติ ประกอบด้วย บช.น.ตำรวจภูธรภาค 1, 2, 7 ตำรวจสันติบาล ตำรวจตระเวนชายแดน หน่วยสรรพาวุธตำรวจและทหาร และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โดยมีการตั้งศูนย์อำนวยการสั่งการปฏิบัติภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาล และทำการเปิดศูนย์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เพื่อตรวจสอบติดตามความเคลื่อนไหวผู้ชุมนุมประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงจนกว่าจะเสร็จสิ้นการชุมนุม และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ทุกกรณี

พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวต่อไปว่า การประชุมที่ผ่านมาเป็นการซักซ้อมทำความเข้าใจการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานทหารภายหลังมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง พื้นที่เขตดุสิต โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.มอบหมายให้ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพประสิทธิพร รอง ผบช.น. เป็นผู้ควบคุมกำลังตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมด แบ่งการดูแลความปลอดภัยรักษาความสงบเรียบร้อยใน 3 ส่วน คือ ดูแลสถานที่ราชการสำคัญทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา มีกำลังตำรวจ ทหารและ พลเรือน ทำหน้าที่ปฏิบัติ และ พื้นที่ที่คาดว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมไปรวมตัวกัน บริเวณหน้าบ้านสี่เสาฯ ลานพระบรมรูปทรงม้า มีการจัดกำลัง 3 หน่วยหลักไปดูแล และ 3 คือการตั้งจุดตรวจที่ใกล้เคียงบริเวณที่มีการชุมนุม 20 จุดหลักและภายในพื้นที่ที่มีการชุมนุม 7 จุด อาทิ ลานพระบรมรูปทรงม้า วัดเบญจมบพิตร ฯลฯ ป้องกันมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ และการป้องกันระวังเหตุลอบวางระเบิดต่างๆ มอบหมายให้ พล.ต.ต.อนันท์ ศรีหิรัญ รอง ผบช.น.เป็นผู้ดูแลการปฏิบัติของกำลังพล โดยทั้งหมดปฏิบัติตามแผน กรกฎ 52 ทุกขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเบาไปหนัก และจะมีการประกาศแจ้งให้ผุ้ชุมนุมทราบทุกขั้นตอน

ส่วนกรณีที่มีเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า การปฏิบัติทุกอย่างจะต้องฟังคำสั่งจาก กอ.รมน.เป็นหลักว่าจะให้ตำรวจทำอย่างไรต่อไปโดยมี พล.ต.ท.วรพงษ์ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ อย่างไรก็ตามจากการข่าวได้ประเมินสถานการณ์ผู้ชุมนุมเข้าร่วมประมาณ 3 หมื่นคนคงไม่ยืดเยื้อเชื่อว่าควบคุมสถานการณ์ได้ ใช้กำลังตำรวจ ที่เตรียมไว้ประมาณ 30 กองร้อย หากการชุมนุมเป็นไปตามกฎหมายก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
กำลังโหลดความคิดเห็น