xs
xsm
sm
md
lg

เปิดนโยบายจัดการการชุมนุม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แฟ้มภาพ
เปิดเนื้อในประกาศสำนักงานนโยบายแห่งชาติ เรื่อง นโยบายการจัดการเหตุชุมนุมเรียกร้อง ที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้ลงนามไว้เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ก่อนถูกปลด พบระบุ รายละเอียดขั้นตอนการปฎิบัติงานชัดเจน

วันนี้(16 ก.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประกาศสำนักงานนโยบายแห่งชาติ เรื่อง นโยบายการจัดการเหตุชุมนุมเรียกร้อง ที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้ลงนามไว้เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมามี วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความชัดเจนในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจใน การดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปัจจุบันการชุมนุมของกลุ่มต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย รวมถึง โดยรายละเอียดระบุไว้โดยย่อว่า

หากยังไม่มีการแต่งตั้งผู้บัญชาการเหตุการณ์ ให้มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร มอบหมายผู้บัญชาการเหตุการณ์ให้ชัดเจน ซึ่งผู้บังคับบัญชาตำรวจอาจไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่เป็นผู้บัญชาการ เหตุการณ์ หน่วยตำรวจก็ยังมีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมเรียกร้อง พร้อมจัดตั้งชุดแถลงข่าวร่วม เพื่อมีหน้าที่แถลงข่าว ติดต่อประสานกับสื่อมวลชน และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการหลัก สนับสนุน ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า สนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ กฎหมาย กำลังพลเพิ่มเติม อุปกรณ์เครื่องมือ หรือการส่งกำลังบำรุง ซึ่งในกรณีที่จะต้องใช้กำลังขั้นสุดท้ายกับกลุ่มผู้ชุมนุม เช่น การสลายการชุมนุม หรือ การจับกุม

หากมีเวลาที่ทำได้ ควรขออนุมัติแผนให้ผู้มีอำนาจสูงสุดในการบังคับใช้กฎหมายแต่ละพื้นที่ หรือตามกฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อยที่บังคับใช้ในพื้นที่ชุมนุมในขณะ นั้น การสั่งการอนุมัติ เห็นชอบ หรือ นโยบาย ให้ดำเนินการอย่างไรนี้ ต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หากการดำเนินการดังกล่าวไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์รับผิดชอบจัดทำคำสั่งความเห็นชอบ หรือคำสั่งอนุมัติแผนดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ไม่รวมถึงคำสั่งการ หรือการตัดสินใจของผู้บัญชาการเหตุการณ์ หรือผู้บังคับบัญชาแต่ละหน่วยในการควบคุมฝูงชน ที่กระทำการป้องกันต่อภยันอันตรายที่จะเกิดขึ้น หรือกระทำด้วยความจำเป็นโดยทันทีทันใด

การวางแผนขั้นต้น ตำรวจต้องพึงยึดหลักการตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่า บุคคลย่อมมีสิทธิในการรวมตัวโดยสงบและปราศจากอาวุธ เช่น การเดินขบวน การชุมนุมเรียกร้อง การประท้วง การรวมกลุ่มเดินทาง หรือกิจกรรมอย่างอื่น ตำรวจต้องไม่เลือกปฏิบัติต่อกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยเหตุผลทางการเมือง เชื้อชาติ เพศ ความพิการทางร่างกายหรือเงื่อนไขใดๆ หลังจากนั้นให้ใช้สายตรวจตำบล ตำรวจประจำตู้ยาม และหน่วยย่อยของตำรวจที่ประจำแต่ละพื้นที่ เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการชุมนุมในพื้นที่ พร้อมจัดลำดับความเสี่ยง หรือกลุ่มที่น่าเฝ้าระวัง และจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาการชุมนุมเรียกร้องเฉพาะพื้นที่ไว้ตามแนวคิดระบบ บัญชาการเหตุการณ์ นอกจากนี้ ให้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานกับกลุ่มผู้ชุมนุม หากเป็นการชุมนุมที่สารถรู้ล่วงหน้า หน่วยตำรวจที่รับผิดชอบต้องหาข่าวเชิงรุก และประสานแกนนำ ไม่ว่าการชุมนุมนั้นจะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม ซึ่งตำรวจต้องรักษาวินัย และมีความเป็นกลางทั้งคำพูดและการปฏิบัติ แม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะมีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย หรือต่อต้านสังคม เพื่อไม่ให้เป็นการจุดชนวนทำให้เหตุการณ์ตึงเครียดจนยากต่อการควบคุม เหตุการณ์

แนวทางการใช้หน่วยทางยุทธวิธี ผู้ที่ร่วมปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาการชุมนุมเรียกร้อง และการควบคุมฝูงชนทั้งหมด ต้องเข้าใจและทำตามกรอบบทบาท และหน้าที่แต่ละระดับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน การก้าวก่ายหน้าที่แต่ละระดับ แบ่งการทำงานเป็น ระดับนโยบาย คือ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ขึ้นไป รวมถึงฝ่ายอำนวยการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ใน ศปก.หลัก ผู้บังคับบัญชาทั้งในระดับหัวหน้าหน่วยงานในจังหวัด และส่วนกลาง ระดับควบคุมสั่งการ คือ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ลงไป หัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาฝ่ายปฏิบัติหัวหน้าหน่วยงานที่มาร่วมปฏิบัติ หรือผู้แทนหน่วยที่มาร่วมปฏิบัติ ระดับผู้ปฏิบัติงาน คือ หน่วยปฏิบัติงาน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติแก้ปัญหาเหตุชุมนุมเรียกร้อง หรือควบคุมฝูงชนในระดับพื้นที่

การรักษาความสงบการชุมนุมเรียกร้อง ต้องเตรียมกำลังให้พร้อมที่จะจับกุมแกนนำและจับกุมขนาดใหญ่ เมื่อมีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น แต่ต้องเตรียมกำลังให้พ้นจากสายตาของกลุ่มผู้ชุมนุม และการแสดงกำลังนี้จะต้องไม่มีลักษณะเป็นการข่มขู่ผู้ชุมนุมที่ยังไม่มีการ ทำผิดกฎหมาย โดยตำรวจต้องทำงานเป็นหมู่ขึ้นไป จะไม่แยกปฏิบัติเป็นรายบุคคล ตำรวจผู้ปฏิบัติงานควบคุมฝูงชนต้องติดเครื่องหมายยศ สังกัด ป้ายชื่อ บนด้านนอกของเครื่องแบบ หรือบนหมวก ให้ชัดเจน การใช้กำลังเข้าควบคุมฝูงชน ต้องใช้หน่วยที่ได้รับการฝึกมาเพื่อทำหน้าที่นี้โดยตรง ไม่ควรใช้กำลังสายตรวจที่สนธิกำลังมา ไม่ว่าการชุมนุมจะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ตำรวจต้องอำนวยความสะดวกด้านการจราจรไม่ให้กีดขวางการจราจร ในการชุมนุมที่ไม่ได้เตรียมการมาก่อน ผู้บัญชาการเหตุการณ์ต้องตัดสินใจโดยดูจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุม ว่าจะให้เดินอยู่บนทางเท้า หรือให้ใช้ถนนช่องใดช่องหนึ่ง โดยพิจารณาปัจจัยความสมดุลระหว่างสิทธิในการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ กับการกีดขวางการจราจรและกระทบสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น โดยต้องใช้การเจรจาเป็นหลัก และพึงระลึกถึงเสมอว่า ผู้ชุมนุมไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดเหมือนกันทั้งหมด ดังนั้นการใช้กำลังกับผู้ชุมนุม ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะมีต่อผู้ชุมนุมที่ไม่ได้ทำผิดกฎหมายด้วย ตำรวจต้องไม่แสดงอาวุธ หรือกำลังว่าจะเข้าใช้กำลังในเหตุการณ์ชุมนุมที่ไม่ผิดกฎหมาย จะแสดงได้ต่อเมื่อมีการแจ้งเตือนว่าจะมีการสลายการชุมนุม หรือแจ้งผู้ชุมนุมว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ก่อเหตุวุ่นวาย ให้เลิกการชุมนุมตามที่กฎหมายกำหนด

เมื่อเกิดเหตุชุมนุมที่ไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน ร้อยเวรป้องกันปราบปราม จะต้องไปยังที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด และทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์เหตุการณ์ จนกว่าจะมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงกว่ามาทำหน้าที่ พร้อมประเมินสถานที่ ประเภท และข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม มีการกระทำขัดต่อกฎหมายหรือไม่ ขนาดพื้นที่ จุดรวมพล เส้นทางเข้าออก ตลอกจนรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ส่วนการชุมนุมที่รู้ล่วงหน้า ให้ประเมินสถานการณ์ วิเคราะห์ความเสี่ยง และแสวงหาข้อตกลง จัดทำแผนการปฏิบัติงานควบคุมฝูงชน และรายละเอียดอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมด

ให้ ศปก.สน. จัดทำแผนเผชิญเหตุที่อาจเกิดขึ้นตามกฎการใช้กำลัง และระดับการใช้กำลังต่อผู้ชุมนุมตามที่คาดว่าจะก่อเหตุ เช่น แผนการจับกุมแกนนำ แผนการจับกุมขนาดใหญ่ แผนการเจรจา ณ จุดเจรจาขั้นสุดท้าย แผนการใช้อาวุธพิเศษ เช่น แก๊สน้ำตา แผนการใช้รูปขบวนในการสลายการชุมนุม แผนการรวบรวมพยานหลักฐาน และขอหมายจับ แผนการควบคุม และสอบสวนตามความจำเป็นของสถานการณ์ ซึ่งการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุจะเกิดขึ้นได้ ต้องประชุมชี้แจงเกี่ยวกับหลักของกฎหมายความเป็นห่วงกังวลของสังคม หรือการยอมรับได้ของสังคมในการปฏิบัติ

อาวุธ และระดับกำลังที่จะใช้ในการแก้ไขปัญหาการชุมนุมเรียกร้อง แบ่งเป็น อาวุธเพื่อสังหาร เช่น อาวุธปืนพก อาวุธปืนยาว แม้โดยทั่วไปไม่อนุญาตให้ตำรวจแสดงอาวุธในการควบคุมฝูงชน แต่ไม่ตัดสิทธิการใช้อาวุธดังกล่าว เพื่อการป้องกันอันตรายต่อตัวตำรวจเอง หรือผู้อื่นตามสมควรแก่เหตุ, สุนัขตำรวจ ม้าตำรวจ จะไม่อนุญาต ให้นำมาใช้ควบคุมฝูงชน การตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อควบคุมพื้นที่การชุมนุม หรือการสลายการชุมนุม แต่อาจนำมาใช้ป้องกันสถานที่ หรือบุคคลสำคัญ หรือการตรวจค้นวัตถุระเบิดตามที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์สั่ง รวมทั้งไม่ใช้กับฝูงชนที่นั่งหรือนอน, รถจักรยานยนต์ ให้ใช้ในการสืบสวนหาข่าว ควบคุมพื้นที่ชุมนุม แต่ไม่ใช้สลายการชุมนุม

ส่วนอาวุธที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ให้ใช้ตามกฎการใช้กำลังตามลำดับ ตั้งแต่ การแสดงกำลัง การออกคำสั่ง หรือประกาศเตือน การใช้อาวุธที่ไม่ตายต่างๆ เช่น การใช้น้ำฉีด สารเคมี แก๊สน้ำตา กระสุนยาง ตามลำดับ เว้นแต่สถานการณ์ไม่อาจจะทำให้ใช้อาวุธหรือกำลังดังกล่าวได้ หรือใช้แล้วจะไม่เป็นผล หรือทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น จะไม่ยิงอาวุธไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุม หรือตั้งใจให้ถูกที่ศีรษะ คอ หน้า กระดูกสันหลังตรงบริเวณตับ อวัยวะเพศ เว้นแต่เพื่อการป้องกันตัวพอสมควรแกเหตุ ผู้ที่ได้รับการฝึกตามหลักสูตรมาตรฐานเท่านั้น จึงจะเป็นผู้ใช้อาวุธพิเศษแต่ละชนิดได้ เมื่อใช้อาวุธพิเศษแต่ละชนิด ต้องมีการเตรียมรถพยาบาลเพื่อคอยช่วยเหลือผู้บาดเจ็บไว้ในที่เกิดเหตุด้วย

เทคนิค การควบคุมฝูงชน และการสลายฝูงชนที่อนุญาตให้ใช้ได้ ต้องเริ่มจากการประกาศแจ้งเตือน ว่าการชุมนุมดังกล่าวผิดกฎหมาย กำหนดเวลาและเส้นทางออกจากที่ชุมนุม ให้พิจารณาวิธีการจับกุมแกนนำ และผู้ชุมนุมที่ไม่ยอมออกนอกพื้นที่ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ประเมินสถานการณ์ โดยคำนึงถึงการเจรจาโดยสันติเป็นหลัก และรับผิดชอบถึงขั้นตอนที่จะทำให้ประชาชนทั่วไปที่ผ่านมาไม่ให้ได้รับ อันตรายจากผู้ชุมนุม เมื่อมีการสลายการุชุมนุม ต้องแน่ใจว่า ผู้ชุมนุมจะไม่ถูกผลักดันไปในพื้นที่อันตราย ไปจนมุม หรืออยู่ในซอก ซอย ตรอกแคบ การไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องกระจายเสียง และเดินขบวนในทางสาธารณะ ตาม พรบ.จราจรทางบกฯ ไม่เป็นเหตุเพียงพอที่ถือว่า เป็นการุชุมนุมที่ผิดกฎหมาย หากการเจรจาไม่เป็นผล และผู้บัญชาการเหตุการณ์ตัดสินใจใช้เทคนิคสลายฝูงชน ต้องใช้เทคนิคจากเบาไปหาหนัก โดยอาจใช้เทคนิคใดเทคนิคหนึ่ง โดยมิต้องใช้ตามลำดับตามความรุนแรงของสถานการณ์ หรือความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและตำรวจ

เมื่อต้องมีการจับกุมผู้ชุมนุม หรือแกนนำพร้อมกันหลายคน ต้องมีการวางแผน จัดกำลังตำรวจเป็นทีมจับกุมขนาดใหญ่ และต้องเป็นคำสั่งของผู้บัญชาการเหตุการณ์ขึ้นไป โดยต้องพิจารณาว่า การจับกุมจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น หรือทำให้เลิกชุมนุมเร็วขึ้น แต่หากกลุ่มผู้ชุมนุมขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือก่อความไม่สงบ เช่น นั่ง หรือนอนปิดถนน ปิดทางเข้าออกสำนักงาน หรือสถานที่ราชการสำคัญ การปฏิบัติที่ดีที่สุด คือ การแจ้งเตือนว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย ถ้ายังขัดขืนจะถูกจับกุมดำเนินคดี ให้กำหนดเวลาผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่ หากยังมีบางกลุ่มกระทำผิดกฎหมายต่อไป ให้พิจารณาถึงการจับกุม โดยใช้การเจรจามากกว่าการใช้กำลังเข้าปะทะ ผู้ชุมนุมที่ขัดขืนด้วยการนั่งเฉย ควรจับกุมแล้วใช้เครื่องพันธนาการ แล้วใช้คำพูดสั่งบังคับ หรือยกตัวผู้ถูกจับขึ้น หรือการจับกดจุดให้เดินไปตามคำสั่งของตำรวจผู้จับกุม หากมีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ล็อคแขนติดกับเสาหรือรั้ว ให้แจ้งเตือนก่อน ถึงเข้าดำเนินการจับกุมปลดล็อคดังกล่าวต่อไป

จัดให้มีการบันทึกภาพและเสียงของกลุ่มผู้ชุมนุม ไว้ใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดี แต่ต้องคำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคลที่จะไม่ถูกละเมิด ในการเผยแพร่ภาพ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยา จัดระเบียบสถานที่ชุมนุมและขอรับสิทธิผู้เสียหายตามแผนที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ให้แต่งตั้งโฆษกประจำหน่วย เพื่อแถลงข่าว หรือชี้แจงกรณีเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญ หรือมีข่าวลือ สร้างความน่าเชื่อถือชอบธรรมในความจำเป็นของตำรวจในการจัดการเหตุชุมนุม เรียกร้อง หรือควบคุมฝูงชน
กำลังโหลดความคิดเห็น