xs
xsm
sm
md
lg

ล่าแก๊งฝรั่ง! ฉกทองหนัก 55 บาทของ “เสี่ยเครื่องเย็น” ในห้างดัง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสมชาย นันทนาชัย อายุ 68 ปี เสี่ยเจ้าของธุรกิจค้าอะไหล่เครื่องปรับอากาศ โชว์หลอดลิปสติกให้พนักงานสอบสวนดู
เสี่ยเครื่องเย็นช็อคก! ซื้อทองคำแท่งเก็งกำไร กลับถูกแก๊งฝรั่งบุกฉกสูญ 55 บาท ภายในลานจอดรถห้างซีคอนฯ ตำรวจตรวจภาพวงจรปิดพบคนร้ายมี 3-4รายประสานฝ่ายสืบสวนล่าตัวมาดำเนินคดีแล้ว

วันนี้ (9 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.ร.ต.อ.ประยุทธ์ พึ่งเคหา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ประเวศ ได้รับแจ้งมีเหตุกลุ่มคนร้ายเป็นชาวต่างชาติลักทรัพย์ทองคำแท่งจำนวนมาก ภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานจอดรถชั้นล่าง ของห้างดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบ นายสมชาย นันทนาชัย อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 987-989 ถนนศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง เจ้าของร้าน “นิววิศว เครื่องเย็น” ประกอบธุรกิจจำหน่ายอะไหล่แอร์ ตู้เย็น และอุปกรณ์เครื่องเย็นทุกชนิด ยืนรอพบเจ้าหน้าที่อยู่ข้างรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน พต-8484 กทม. ด้วยอาการตระหนก

จากการสอบปากคำนายสมชายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนออกจากบ้านมาเบิกเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ภายในห้างซีคอนฯ เพื่อซื้อทองคำแท่งเก็บไว้เก็งกำไรยามราคาทองขึ้นสูง พอมาถึงธนาคารในเวลา 12.00 น. ก็เข้าไปเบิกเงินสด จำนวน 900,000 บาท ก่อนจะเดินไปซื้อทองที่ร้านทองฮั้วเซ่งเฮง ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 2 ของห้าง โดยซื้อทองคำแท่งน้ำหนักรวม 55 บาท แบ่งเป็นทองคำหนัก 10 บาท จำนวน 5 แท่ง และหนัก 5 บาท อีก 1 แท่ง รวมราคาทั้งหมด 880,000 บาท

นายสมชายให้การต่อว่า เมื่อตนตรวจสอบทองคำแท่งทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้นำใส่บรรจุไว้ภายในกระเป๋าถือสีน้ำตาล ก่อนเดินออกจากร้านมุ่งหน้ากลับไปที่รถ แต่ในระหว่างที่ตนเดินผ่านธนาคารกรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของห้างนั้นก็ได้มีชายชาวต่างชาติ จำได้เพียงว่าผิวขาว ศีรษะล้าน เดินมาประกบจากทางด้านหลัง ก่อนหยิบลิปสติกแบบน้ำสีแดงพ่นใส่เสื้อตนแล้วก็เดินจากไป ซึ่งตอนแรกตนคิดว่าเป็นเด็กฝรั่งทำน้ำหวานหกใส่จึงไม่ได้เอะใจอะไร ก่อนจะเดินต่อไปที่รถ แล้วไขกุญแจเปิดประตูฝั่งคนขับ จากนั้นก็เอากระเป๋าใส่ทองวางไว้ที่เบาะคนขับ ก่อนจะเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชูที่หลังรถมาเช็ดคราบเปื้อนที่ติดอยู่บนเสื้อออก เพราะกลัวว่าเบาะรถจะเลอะ

“ระหว่างนั้นก็มีชายต่างชาติอีก 1 คน สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผิวขาว สวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงขาสี่ส่วนสีดำ เดินมาใกล้ๆ แล้วทำเหรียญบาทนับสิบเหรียญตกเพื่อเบนความสนใจให้ผมหันไปมอง ผมก็เช็ดเสื้อไปและยืนมองชายคนที่กำลังเก็บเหรียญไปด้วยอย่างไม่ทันระวังตัว พอจะขึ้นรถขับกลับบ้านก็ต้องตกใจ เพราะกระเป๋าใส่ทองได้หายไปแล้ว ผมเลยรีบโทร.แจ้งให้ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายแต่ก็ยังไร้วี่แวว อย่างไรก็ตาม ตอนที่ผมออกจากบ้านมาซื้อทองนั้น ผมไม่ได้บอกใคร ช่วงที่ออกจากร้านทองก็ระวังตัวตลอด แต่ก็ไม่เห็นมีใครเดินตามมา แต่ก็มาถูกขโมยจนได้” นายสมชายกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ด้าน ร.ต.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุโดยรอบพบหลักฐานที่กลุ่มคนร้ายทิ้งเอาไว้ คือ รองเท้าผ้าใบสีขาวยี่ห้ออาดิดาส ใส่เอาไว้ในกล่อง และใส่ไว้ในถุงพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง กับหลอดเจลลิปสติกสีแดง ถูกทิ้งไว้ห่างจากรถของผู้เสียหายประมาณ 20 เมตร จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ไปสอบถามพนักงานขายของร้านอาดิดาสก็ได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุมีชาวต่าวชาติผิวขาว 2 คน ผิวดำอีก 1 คน เดินเข้ามาซื้อสินค้าภายในร้าน จึงตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายได้ขโมยหมวกแก็ปในร้านไปด้วย 2 ใบ

ร.ต.อ.ประยุทธ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จากการตรวจสอบดูภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุพบเห็นคนร้ายลักษณะหัวโล้น เป็นคนเดินมาหยิบเอากระเป๋าใส่ทองคำในระหว่างที่ผู้เสียหายกำลังหากระดาษชำระอยู่ นอกจากนี้ เมื่อไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห้าง ก็พบคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติประมาณ 3-4 คน เดินตามประกบผู้เสียหายอยู่ตลอดเวลา และจากการสอบถามพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุก็ทราบว่า หลังก่อเหตุพบคนร้ายเดินออกไปโบกรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นลิโม่ สีชมพูไม่ทราบทะเบียน มุ่งหน้าไปทางห้างเสรีเซ็นเตอร์

ร.ต.อ.ประยุทธ กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน และภาพจากวงจรปิดไปขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนให้ออกติดตามกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม อยากฝากประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อไปยังคนขับรถแท็กซี่ที่รับคนร้ายที่บริเวณหน้าห้างซีคอนสแควร์ ในช่วงเวลาประมาณ 13.00-13.30 น.มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ข้อมูลเบาะแสคนร้ายด้วย
รอยเปื้อนที่ถูกคนร้ายบีบลิปสติกแบบน้ำใส่
ภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายศีรษะโล้นเอาไว้ได้
ผู้ต้องสงสัยอีกคน
กำลังโหลดความคิดเห็น