xs
xsm
sm
md
lg

รวบกะเทยแสบตุ๋นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นสูญเงินกว่า 10 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจนำตัวนายอุทัย นันทะขันธ์ มาแถลงข่าว
ตำรวจท่องเที่ยวรวบสาวประเภท 2 ลวงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นย่านข้าวสาร สุขุมวิท อ้างเป็นชาวสิงคโปร์ทำกระเป๋าเงิน พาสปอร์ตหาย หลอกโอนเงินได้กว่า 200 ราย รวมกว่า 10 ล้านบาท ฉาวโฉ่ขึ้นบัญชีดำส่งเมล โพสต์รูปเตือนว่อนเน็ต

วันนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบก.ทท. (หน.ศปช.ทท.) พ.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผกก.1 บก.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่งานสืบสวน กก.1 บก.ทท. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนาย อุทัย นันทะขันธ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 2 ต.นาสะอาด อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี

พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.1 บก.ทท.ได้รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งความของกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวว่า มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจำนวนหลายรายมาแจ้งความว่า ถูกนายอุทัยสาวประเภท สองที่มีสามารถพูดได้หลายภาษาหลอกลวงชาวญี่ปุ่นด้วยวิธีการต่างๆ จนได้เงินไปนับล้านบาท โดยจะเลือกหาเหยื่อตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ถนนข้าวสาร ห้างมาบุญครอง สยาม และย่านสุขุมวิท เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ที่หอพักเอสเค เรสซิเด้น แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย

“นายอุทัยจะเลือกเหยื่อที่เป็นพวกนักธุรกิจ แล้วจะทำทีอ้างว่าเป็นนักท่องเที่ยวเข้าไปหลอกเหยื่อว่าตัวเองเป็นชาวสิงคโปร์ และได้ทำกระเป๋าเงินกับพาสปอร์ตหาย ไม่สามารถติดต่อกับทางสถานทูตได้ เลยจะขอยืมเงินก่อน และหากติดต่อกับทางบ้านได้ก็จะนำมาคืนให้ในภายหลัง นอกจากนี้ นายอุทัยจะหลอกล่อเหยื่อด้วยการเปิดอินเทอร์เน็ตให้ดูว่าเป็นคนสิงคโปร์จริง และมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นมากมาย เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะหลอกให้โอนเงินผ่านบัญชี หรือถ้าบางรายมีเงินสดก็จะขอยืมเงินสด ซึ่งบางรายเมื่อกลับไปยังประเทศญี่ปุ่นแล้วยังถูกผู้ต้องหาหลอกให้โอนเงินกลับมาอีกจำนวนหลายครั้ง โดยมีเหยื่อรายหนึ่งที่ถูกหลอกให้โอนเงินกลับมามากที่สุดถึง 2,600,000 บาท” พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าว

จากการสอบสวนนายอุทัยให้การรับสารภาพว่า ตลอดระยะเวลา 6-7 ปีที่ผ่านมา ตนสามารถหลอกลวงนักท่องเที่ยวให้โอนเงินเข้ามาให้แล้วประมาณกว่า 200 คน ได้ทรัพย์สินไปมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นนักนท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น โดยเงินที่ได้ตนก็นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับจำนวน 4 หมายจับด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งข้อหาเอาไปเสียซึ่งทรัพย์สิน หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นนั้น ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับนายอุทัย นันทะขันธ์ เป็นบุคคลที่โด่งดังในด้านการหลอกลวงชาวญี่ปุ่นมาก ถึงขนาดมีการโพสต์รูปและข้อความในเว็บไซต์ต่างๆ รวมทั้งส่งเมลเตือนชาวญี่ปุ่นด้วยกันว่าให้ระวังกับพฤติกรรมของนายอุทัยให้ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น