“การให้บริการประชาชนของศาลยุติธรรม”

ปัจจุบันมีปริมาณคดีความขึ้นสู่ศาลยุติธรรมเพิ่มมากขึ้นทุกปี ไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่ง คดีอาญา หรือคดีในศาลชำนัญพิเศษต่างๆ อันมีผลต่อจำนวนของประชาชนผู้มาติดต่อราชการในศาลยุติธรรมที่เพิ่มมากขึ้นด้วย แต่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการอาจไม่ทราบขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกหรือดำเนินการผิดขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยที่การให้บริการแก่ประชาชนผู้มาติดต่อเป็นภารกิจสำคัญของศาลยุติธรรม

นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา ได้กำหนดนโยบายและออกระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ว่าด้วยการให้บริการแก่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการศาลยุติธรรม พ.ศ.2552 ขึ้น โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2552 เป็นต้นไป

ระเบียบฉบับนี้มีสาระสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชนของศาลยุติธรรมอันเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดให้มีการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพของข้าราชการศาลยุติธรรมให้มีจิตใจให้บริการ และมีทัศนคติที่ดีต่อการให้บริการแก่ประชาชน

ทั้งนี้ ศาลยุติธรรมได้จัดให้มีพนักงานต้อนรับในจำนวนที่เหมาะสมที่เป็นข้าราชการศาลยุติธรรม และได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ต้อนรับ อำนวยความสะดวก และให้บริการแก่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการศาลยุติธรรมขึ้น โดยให้มีเครื่องแต่งกายหรือเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ในรูปแบบเดียวกันในทุกศาลเพื่อให้ประชาชนสามารถทราบได้ทันที และมีผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลหรือผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลหรือหัวหน้าส่วนหรือหัวหน้ากลุ่มงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้กำกับดูแล

อย่างไรก็ดี หากเป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนจำนวนมากมาติดต่อราชการศาล ระเบียบยังได้กำหนดให้ ผู้อำนวยการหรือหัวหน้าส่วนหรือหัวหน้ากลุ่มงานที่เกี่ยวข้อง จะเข้ามามีส่วนร่วมในการ ดูแลให้ความสะดวก และให้บริการตามสมควรแก่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการศาลยุติธรรมด้วย

ในการให้บริการแก่ประชาชนผู้มาติดต่อราชการศาลยุติธรรมนั้น ไม่ได้จำกัดขอบเขตแต่เพียงการอำนวยความสะดวกและการให้คำแนะนำการใช้บริการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดให้มีระบบสารสนเทศของส่วนราชการเพื่อให้บริการแก่ประชาชนผู้มาติดต่อ นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ขององค์กรศาลยุติธรรมที่ต้องมีการดูแลอาคารสถานที่ให้มีความสะอาดและเหมาะสมที่จะให้บริการแก่ประชาชนอยู่เสมอ

แต่การอำนวยความสะดวกและการให้บริการแก่ประชาชนผู้มาติดต่อไม่อาจสัมฤทธิผลได้ หากปราศจากความร่วมมือของบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงมีการสร้างมาตรการจูงใจโดยการให้รางวัลแก่ศาลยุติธรรมหรือข้าราชการศาลยุติธรรมที่มีผลการปฏิบัติงานด้านการให้บริการแก่ประชาชนเป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันก็นำมาใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการประเมินผลระดับหน่วยงานและบุคคล โดยมีหัวหน้าส่วนราชการศาลยุติธรรม อันได้แก่ ประธานศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค อธิบดีผู้พิพากษาศาลชั้นต้น และผู้พิพากษาหัวหน้าศาล เป็นผู้กำกับดูแลการบริหารจัดการ ติดตามแก้ปัญหาข้อขัดข้อง ประเมินผล และพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกและการให้บริการแก่ประชาชน

สำหรับความต่อเนื่องของการให้บริการแก่ประชาชนนั้น ระเบียบได้กำหนดให้สำนักงานศาลยุติธรรมจัดให้มีการพัฒนาความรู้ ทักษะ และจิตสำนึกในการให้บริการแก่ประชาชน แก่ข้าราชการศาลยุติธรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้โดยสะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม ประหยัดและทั่วถึง


                 สราวุธ เบญจกุล 
  รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม