xs
xsm
sm
md
lg

จับนักปั่นหุ้นธุรกิจฟอกหนังทำราคาตลาดป่วน 33 ล้าน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ดีเอสไอจับหนุ่มใหญ่นักปั่นหุ้นบริษัทธุรกิจฟอกหนัง CWT ปล่อยซื้อขายหลักหลักทรัพย์เกินกว่าความเป็นจริงไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด เสียหาย 33 ล้าน

วันนี้ (4 ก.ย.) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยสำนักคดีการเงินการธนาคาร ได้ทำการสืบสวนสอบสวนการกระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ หรือปั่นหุ้น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จับกุมนายปยุฒ อนันตสิทธิกุล อายุ 34 ปี ในข้อหาเป็นผู้สนันสนุนให้มีการฝ่าฝืนข้อห้ามในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยอำพรางให้บุคคลทั่วไปหลงผิดไปว่าหุ้นของบริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือบริษัท CWT ในช่วงเกิดเหตุมีการซื้อขายกันจำนวนมาก อันทำให้การซื้อขายหลักทรัพย์ไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด ซึ่งในสภาพปกติจะซื้อขายกันประมาณกว่า 10,000 หุ้น แต่เปลี่ยนไปซื้อขายกันประมาณ 1.3 ล้านหุ้น รวมไปถึงราคาซื้อขายจึงเปลี่ยนไป แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติซึ่งมีนัยสำคัญ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 243(1) (2) และมาตรา 244 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกินสองเท่าของผลประโยชน์ที่บุคคลนั้นๆ ได้รับไว้ หรือพึงจะได้รับ ซึ่งต้องไม่น้อย กว่าห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ คดีนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ก.ค.47 ถึง 9 ก.พ.48 โดยผู้ต้องหาเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทหลักทรัพย์บริษัทหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่มีส่วนรู้เห็นหรือตกลงกับบุคคลอื่นส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับการฟอกหนัง ในลักษณะอำพรางให้บุคคลทั่วไปหลงผิดไปว่าในช่วงเวลาดังกล่าว หุ้นของบริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีการซื้อขายกัน และราคาของหุ้นได้เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งมีการซื้อขายกันในลักษณะต่อเนื่อง ทำให้ไม่ตรงกับสภาพปกติของตลาด ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหา หลังจากนั้นจึงได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีดังกล่าว ส่วนความเสียหายในคดีนี้มีมูลค่าประมาณ 33 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น