ก.ล.ต.เร่งโชว์ผลงานหวั่นโดนรื้อบอร์ดใหม่ รับลูกนโยบายรัฐทันที หลังรมว.คลังเตรียมแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาใหม่ ระบุบอร์ด ก.ล.ต. ชุดปัจจุบันยังสามารถอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ตามกฎหมาย แต่ควรลาออกตามมารยาทจากกรรมการสรรหาขาดคุณสมบัติ ขณะที่ผลงานชิ้นโบแดงตั้งแต่ต้นปี 52 สั่งปรับนักปั่นหุ้นแล้วแล้วกว่า 50 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ขณะนี้ถือว่ามีความน่าตื่นเต้นในด้านที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เนื่องจากการที่คณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการก.ล.ต.ยังขาดอีก 1 คน ซึ่งจากการที่นายกรณ์ จาติกวาณิช มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจากที่จะหาอีก 1 คนมาเพิ่ม แต่ก็จะเปลี่ยนคณะกรรมการสรรหาทั้งชุด จากคณะกรรมการสรรหานั้นขาดคุณสมบัติ 4-5 คน
ทั้งนี้สังเกตได้จากคณะกรรมการก.ล.ต.และเลขาธิการก.ล.ต.ที่มีการทำงานแบบกระตือรือร้นมากขึ้น ซึ่งหากสามารถออกมาตรการอะไรออกมาได้ก็จะรีบพลักดันออกมาเป็นชุดๆและมีการปฏิบัติงานที่ตอบรับกับนโยบายของรัฐบาลทันที โดยที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมีการไปพูดที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าไม่ต้องการให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นช่องทางของหารายได้ของนักการเมือง ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯและก.ล.ต.เองก็จะต้องดูแล ไม่ให้เกิดการปั่นหุ้น โดย ก.ล.ต.รับเรื่องทันทีซึ่งได้ออกมาตรการกำกับดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดการปั่นหุ้นออกมา โดยไม่ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายอย่างไรก.ล.ต.ก็จะมีการดำเนินการทันที
สำหรับขณะนี้รัฐมนตรีคลังอยู่ระหว่างการทาบทาบผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสรรหาบอร์ดก.ล.ต. ซึ่งหากมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาเสร็จนั้น ตามกฎหมายนั้นไม่สามารถที่จะให้บอร์ดก.ล.ต.ที่ตั้งไปแล้วลาออก เพราะ กฎหมายจะปล่อยเลยตามเลยแต่ตามมารยาทนั้นควรที่จะมีการออก
“ก.ล.ต.ขณะนี้ถือว่ามีความน่าตื่นเต้นจากที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของก.ล.ต.เอง คณะกรรมการสรรหาขาดทุนสมบัติ 4-5 คน เช่น นาย ปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา นายนิพัทธ พุกกะณะสุต นายชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ ซึ่งนายปกรณ์ได้ยื่นลาออกไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กรรมการ และเลขาก.ล.ต. ที่เหลืออยู่ต่างกระตือรือร้นในการทำงาน หากสามารถดำเนินการอะไร หรือออกมาตรการใดออกมาได้ จะรีบผลักดันออกมาเป็นระยะๆ เช่น รัฐบาลไม่ต้องการให้ตลาดหุ้นเป็นช่องทางหารายได้ของนักการเมือง ก.ล.ต. ก็ได้เข็นมาตรการสกัดการการปั่นหุ้นออกมาทันที” แหล่งข่าวกล่าวว่า
แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากนี้คณะกรรมการกำกับตลาดทุนเดิมนั้นไม่เคยมีดำเนินการใดเลยนั้น ก็ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการมา 5 ชุด เพื่อแก้ไขกฎเกณฑ์ข้อบังคับของตลาดเงิน ตลาดทุนทุน อนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน ฯลฯ ซึ่งเป็น 5 ชุดภายใต้การดูและของคณะกรรมกำกับตลาดทุน ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับตลาดทุน โดย ก.ล.ต.ทำ 2 หน้าที่ มาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว
สำหรับการที่มีการเปลี่ยนรัฐมนตรี ทำให้จะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ในเร็วๆนี้ เพื่อทำหน้าที่แก้ไขกฎเกณฑ์แทนก.ล.ต. โดยให้ก.ล.ต.ทำหน้าที่ทางด้านนโยบาย เนื่องจากมองว่าก.ล.ตนั้นไม่สามารถหาบุคคลที่เชี่ยวชาญในเชิงลึก เพื่อทำหน้าที่ในการออกเกณฑ์ได้ ทำให้ที่ผ่านมามีการออกเกณฑ์แล้วไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้จริง จึงจำเป็นที่จะต้องตั้งผู้ทรงคุณวุติที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามา โดยจะจะต้องมีคนนอก ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเชิงลึก ในวงการ เข้มมาร่วม โดยคณะกรรมการชุดนี้ จะประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน มีเลขาธิการก.ล.ต. เป็นประธานและที่เหลือเป็นกรรมการก.ล.ต.
ล่าสุด คณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับอดีตผู้จัดการและอดีตเจ้าหน้าที่การตลาดบริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด รวม 3 ราย ได้แก่ (1) นายฉาย บุนนาค (2) นางสาวณัฐดา แก้วมา และ (3) นางสาวสรัญญา ซิมาภรณ์ กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท ดี.ที.ซี. อินดัสตรี่ส์ จำกัด (มหาชน) (DTCI) เป็นจำนวนเงินรวม 5,506,530.65 บาท
สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าตรวจสอบพบสภาพการซื้อขายที่ผิดปกติของหุ้น DTCI ในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2549 ถึงวันที่ 4 เมษายน 2549 ก.ล.ต. จึงได้ทำการตรวจสอบและพบว่า สภาพผิดปกติดังกล่าวเกิดจากพฤติกรรมการซื้อขายในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ 5 บัญชี โดยมีนาย ฉาย บุนนาค เป็นผู้ทำการซื้อขาย ควบคุมการส่งคำสั่งซื้อขาย รวมทั้งใช้ trader ID ของนางสาว ณัฐดา แก้วมา และนางสาวสรัญญา ซิมาภรณ์ ในการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น DTCI ซึ่งขณะนั้นนายฉายดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีมเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทหลักทรัพย์ฟาร์อีสท์ฯ ในขณะที่นางสาวณัฐดาและนางสาวสรัญญาเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดภายใต้การบังคับบัญชาของนายฉาย
พฤติกรรมการซื้อขายหุ้น DTCI ของบุคคลข้างต้นเป็นการอำพรางเพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดว่าช่วงเวลาดังกล่าวมีการซื้อขายหุ้น DTCI กันมากหรือราคาหุ้นนั้นเปลี่ยนแปลงไป ด้วยการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น DTCI ที่มีจำนวนและราคาใกล้เคียงกัน ภายในเวลาใกล้เคียงกัน และซื้อขายอย่างต่อเนื่อง จนทำให้การซื้อขายหุ้น DTCI ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด นอกจากนี้ ยังพบพฤติกรรมการส่งคำสั่งขายไว้ล่วงหน้าเรียงลำดับราคา และทยอยเคาะซื้ออย่างต่อเนื่องในระหว่างวันจึงมีผลให้ราคาหุ้น DTCI ปรับตัวสูงขึ้นหลายระดับราคา และมีการค้ำยันราคาโดยเสริมคำสั่งซื้อเพื่อพยุงราคามิให้ปรับตัวลดลง ซึ่งพฤติกรรมที่กล่าวมาเพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าทำการซื้อหรือขายหุ้น DTCI
การกระทำของบุคคลข้างต้น เข้าข่ายปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 243 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน และกรณีผู้สนับสนุน ต้องระวางโทษตามมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญาด้วย คณะกรรมการเปรียบเทียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้งตามมาตรา 317 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายฉาย 4,839,863.99 บาท นางสาวณัฐดาและนางสาวสรัญญา รายละ 333,333.33 บาท
สำหรับกรณีบริษัทหลักทรัพย์ฟาร์อีสท์ฯ ก.ล.ต. ได้สั่งการให้คณะกรรมการบริษัททบทวนการกำกับดูแลภายในของบริษัทว่ามีข้อบกพร่องใดที่เป็นช่องให้มีการกระทำความผิดดังกล่าวได้ ซึ่งต่อมาคณะกรรมการบริษัทได้ทบทวนและปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลในประเด็นที่เป็นข้อบกพร่องแล้ว รวมทั้งรับที่จะติดตามให้มีการปฏิบัติตามแนวทางการกำกับดูแลที่ได้ปรับปรุงแล้วอย่างเคร่งครัดต่อไป
ขณะที่ ก่อนหน้านี้คณะกรรมการเปรียบเทียบ ของสำนักงาน ก.ล.ต. ได้สั่งปรับผู้กระทำผิดไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2525 มีจำนวนทั้งสิ้นมากถึง 21 รายการ คิดเป็นมูลค่าการปรับรวมทั้งสิ้นกว่า 51.12 ล้านบาท
โดยรายการเปรียบเทียบปรับที่มีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับแรก เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2552 นายยรรยง อัครจินดานนท์ มูลค่าปรับ 23.46 ล้านบาท จากพฤติกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะปิดบังอำพราง หรือซ่อนเร้นการกระทำความผิดโดยได้ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองและบุคคลอื่นโดยรู้เห็นหรือตกลงกับนายเอก พุทธาโกฐิรัตน์ นางอรัญญา ศิลาทอง และบุคคลอื่นอีกจำนวน 2 ราย กระทำการซื้อขายหลักทรัพย์บมจ. ดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TWZ) ในลักษณะต่อเนื่องกัน อันเป็นผลให้การซื้อขายหุ้น TWZ ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าทำการซื้อขายหุ้น TWZ ทั้งนี้ โดยมีนางปิยะนุช รังคสิริ ร่วมกระทำการในความผิดดังกล่าวด้วย
อันดับ 2 นายเอก พุทธาโกฐิรัตน์ มูลค่าปรับ 14.43 ล้านบาท หลังจากที่ได้ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง โดยรู้เห็นหรือตกลงกับนายยรรยง อัครจินดานนท์ นางอรัญญา ศิลาทอง และบุคคลอื่นอีกจำนวน 2 ราย กระทำการซื้อขายหลักทรัพย์ TWZ ในลักษณะต่อเนื่องกัน อันเป็นผลให้การซื้อขายหุ้น TWZ ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าทำการซื้อขายหุ้น TWZ ทั้งนี้ โดยมีนางปิยะนุช รังคสิริ ร่วมกระทำการในความผิดดังกล่าวด้วย
และอันดับ 3 นางอรัญญา ศิลาทอง มูลค่าปรับ 3.25 ล้านบาท จากการที่ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง โดยรู้เห็นหรือตกลงกับนายยรรยง อัครจินดานนท์ นายเอก พุทธาโกฐิรัตน์ และบุคคลอื่นอีกจำนวน 2 ราย ซื้อขายหลักทรัพย์บริษัททีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“TWZ”) ในลักษณะต่อเนื่องกัน อันเป็นผลให้การซื้อขายหุ้น TWZ ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าทำการซื้อขายหุ้น TWZ ทั้งนี้ โดยมีนางปิยะนุช รังคสิริ ร่วมกระทำการในความผิดดังกล่าวด้วย
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ขณะนี้ถือว่ามีความน่าตื่นเต้นในด้านที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เนื่องจากการที่คณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการก.ล.ต.ยังขาดอีก 1 คน ซึ่งจากการที่นายกรณ์ จาติกวาณิช มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจากที่จะหาอีก 1 คนมาเพิ่ม แต่ก็จะเปลี่ยนคณะกรรมการสรรหาทั้งชุด จากคณะกรรมการสรรหานั้นขาดคุณสมบัติ 4-5 คน
ทั้งนี้สังเกตได้จากคณะกรรมการก.ล.ต.และเลขาธิการก.ล.ต.ที่มีการทำงานแบบกระตือรือร้นมากขึ้น ซึ่งหากสามารถออกมาตรการอะไรออกมาได้ก็จะรีบพลักดันออกมาเป็นชุดๆและมีการปฏิบัติงานที่ตอบรับกับนโยบายของรัฐบาลทันที โดยที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมีการไปพูดที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าไม่ต้องการให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นช่องทางของหารายได้ของนักการเมือง ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯและก.ล.ต.เองก็จะต้องดูแล ไม่ให้เกิดการปั่นหุ้น โดย ก.ล.ต.รับเรื่องทันทีซึ่งได้ออกมาตรการกำกับดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดการปั่นหุ้นออกมา โดยไม่ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายอย่างไรก.ล.ต.ก็จะมีการดำเนินการทันที
สำหรับขณะนี้รัฐมนตรีคลังอยู่ระหว่างการทาบทาบผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสรรหาบอร์ดก.ล.ต. ซึ่งหากมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาเสร็จนั้น ตามกฎหมายนั้นไม่สามารถที่จะให้บอร์ดก.ล.ต.ที่ตั้งไปแล้วลาออก เพราะ กฎหมายจะปล่อยเลยตามเลยแต่ตามมารยาทนั้นควรที่จะมีการออก
“ก.ล.ต.ขณะนี้ถือว่ามีความน่าตื่นเต้นจากที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของก.ล.ต.เอง คณะกรรมการสรรหาขาดทุนสมบัติ 4-5 คน เช่น นาย ปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา นายนิพัทธ พุกกะณะสุต นายชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ ซึ่งนายปกรณ์ได้ยื่นลาออกไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กรรมการ และเลขาก.ล.ต. ที่เหลืออยู่ต่างกระตือรือร้นในการทำงาน หากสามารถดำเนินการอะไร หรือออกมาตรการใดออกมาได้ จะรีบผลักดันออกมาเป็นระยะๆ เช่น รัฐบาลไม่ต้องการให้ตลาดหุ้นเป็นช่องทางหารายได้ของนักการเมือง ก.ล.ต. ก็ได้เข็นมาตรการสกัดการการปั่นหุ้นออกมาทันที” แหล่งข่าวกล่าวว่า
แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากนี้คณะกรรมการกำกับตลาดทุนเดิมนั้นไม่เคยมีดำเนินการใดเลยนั้น ก็ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการมา 5 ชุด เพื่อแก้ไขกฎเกณฑ์ข้อบังคับของตลาดเงิน ตลาดทุนทุน อนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน ฯลฯ ซึ่งเป็น 5 ชุดภายใต้การดูและของคณะกรรมกำกับตลาดทุน ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับตลาดทุน โดย ก.ล.ต.ทำ 2 หน้าที่ มาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว
สำหรับการที่มีการเปลี่ยนรัฐมนตรี ทำให้จะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ในเร็วๆนี้ เพื่อทำหน้าที่แก้ไขกฎเกณฑ์แทนก.ล.ต. โดยให้ก.ล.ต.ทำหน้าที่ทางด้านนโยบาย เนื่องจากมองว่าก.ล.ตนั้นไม่สามารถหาบุคคลที่เชี่ยวชาญในเชิงลึก เพื่อทำหน้าที่ในการออกเกณฑ์ได้ ทำให้ที่ผ่านมามีการออกเกณฑ์แล้วไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้จริง จึงจำเป็นที่จะต้องตั้งผู้ทรงคุณวุติที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามา โดยจะจะต้องมีคนนอก ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเชิงลึก ในวงการ เข้มมาร่วม โดยคณะกรรมการชุดนี้ จะประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน มีเลขาธิการก.ล.ต. เป็นประธานและที่เหลือเป็นกรรมการก.ล.ต.
ล่าสุด คณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับอดีตผู้จัดการและอดีตเจ้าหน้าที่การตลาดบริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด รวม 3 ราย ได้แก่ (1) นายฉาย บุนนาค (2) นางสาวณัฐดา แก้วมา และ (3) นางสาวสรัญญา ซิมาภรณ์ กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท ดี.ที.ซี. อินดัสตรี่ส์ จำกัด (มหาชน) (DTCI) เป็นจำนวนเงินรวม 5,506,530.65 บาท
สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าตรวจสอบพบสภาพการซื้อขายที่ผิดปกติของหุ้น DTCI ในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2549 ถึงวันที่ 4 เมษายน 2549 ก.ล.ต. จึงได้ทำการตรวจสอบและพบว่า สภาพผิดปกติดังกล่าวเกิดจากพฤติกรรมการซื้อขายในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ 5 บัญชี โดยมีนาย ฉาย บุนนาค เป็นผู้ทำการซื้อขาย ควบคุมการส่งคำสั่งซื้อขาย รวมทั้งใช้ trader ID ของนางสาว ณัฐดา แก้วมา และนางสาวสรัญญา ซิมาภรณ์ ในการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น DTCI ซึ่งขณะนั้นนายฉายดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีมเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทหลักทรัพย์ฟาร์อีสท์ฯ ในขณะที่นางสาวณัฐดาและนางสาวสรัญญาเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดภายใต้การบังคับบัญชาของนายฉาย
พฤติกรรมการซื้อขายหุ้น DTCI ของบุคคลข้างต้นเป็นการอำพรางเพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดว่าช่วงเวลาดังกล่าวมีการซื้อขายหุ้น DTCI กันมากหรือราคาหุ้นนั้นเปลี่ยนแปลงไป ด้วยการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น DTCI ที่มีจำนวนและราคาใกล้เคียงกัน ภายในเวลาใกล้เคียงกัน และซื้อขายอย่างต่อเนื่อง จนทำให้การซื้อขายหุ้น DTCI ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด นอกจากนี้ ยังพบพฤติกรรมการส่งคำสั่งขายไว้ล่วงหน้าเรียงลำดับราคา และทยอยเคาะซื้ออย่างต่อเนื่องในระหว่างวันจึงมีผลให้ราคาหุ้น DTCI ปรับตัวสูงขึ้นหลายระดับราคา และมีการค้ำยันราคาโดยเสริมคำสั่งซื้อเพื่อพยุงราคามิให้ปรับตัวลดลง ซึ่งพฤติกรรมที่กล่าวมาเพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าทำการซื้อหรือขายหุ้น DTCI
การกระทำของบุคคลข้างต้น เข้าข่ายปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 243 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน และกรณีผู้สนับสนุน ต้องระวางโทษตามมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญาด้วย คณะกรรมการเปรียบเทียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้งตามมาตรา 317 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายฉาย 4,839,863.99 บาท นางสาวณัฐดาและนางสาวสรัญญา รายละ 333,333.33 บาท
สำหรับกรณีบริษัทหลักทรัพย์ฟาร์อีสท์ฯ ก.ล.ต. ได้สั่งการให้คณะกรรมการบริษัททบทวนการกำกับดูแลภายในของบริษัทว่ามีข้อบกพร่องใดที่เป็นช่องให้มีการกระทำความผิดดังกล่าวได้ ซึ่งต่อมาคณะกรรมการบริษัทได้ทบทวนและปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลในประเด็นที่เป็นข้อบกพร่องแล้ว รวมทั้งรับที่จะติดตามให้มีการปฏิบัติตามแนวทางการกำกับดูแลที่ได้ปรับปรุงแล้วอย่างเคร่งครัดต่อไป
ขณะที่ ก่อนหน้านี้คณะกรรมการเปรียบเทียบ ของสำนักงาน ก.ล.ต. ได้สั่งปรับผู้กระทำผิดไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2525 มีจำนวนทั้งสิ้นมากถึง 21 รายการ คิดเป็นมูลค่าการปรับรวมทั้งสิ้นกว่า 51.12 ล้านบาท
โดยรายการเปรียบเทียบปรับที่มีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับแรก เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2552 นายยรรยง อัครจินดานนท์ มูลค่าปรับ 23.46 ล้านบาท จากพฤติกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะปิดบังอำพราง หรือซ่อนเร้นการกระทำความผิดโดยได้ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองและบุคคลอื่นโดยรู้เห็นหรือตกลงกับนายเอก พุทธาโกฐิรัตน์ นางอรัญญา ศิลาทอง และบุคคลอื่นอีกจำนวน 2 ราย กระทำการซื้อขายหลักทรัพย์บมจ. ดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TWZ) ในลักษณะต่อเนื่องกัน อันเป็นผลให้การซื้อขายหุ้น TWZ ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าทำการซื้อขายหุ้น TWZ ทั้งนี้ โดยมีนางปิยะนุช รังคสิริ ร่วมกระทำการในความผิดดังกล่าวด้วย
อันดับ 2 นายเอก พุทธาโกฐิรัตน์ มูลค่าปรับ 14.43 ล้านบาท หลังจากที่ได้ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง โดยรู้เห็นหรือตกลงกับนายยรรยง อัครจินดานนท์ นางอรัญญา ศิลาทอง และบุคคลอื่นอีกจำนวน 2 ราย กระทำการซื้อขายหลักทรัพย์ TWZ ในลักษณะต่อเนื่องกัน อันเป็นผลให้การซื้อขายหุ้น TWZ ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าทำการซื้อขายหุ้น TWZ ทั้งนี้ โดยมีนางปิยะนุช รังคสิริ ร่วมกระทำการในความผิดดังกล่าวด้วย
และอันดับ 3 นางอรัญญา ศิลาทอง มูลค่าปรับ 3.25 ล้านบาท จากการที่ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง โดยรู้เห็นหรือตกลงกับนายยรรยง อัครจินดานนท์ นายเอก พุทธาโกฐิรัตน์ และบุคคลอื่นอีกจำนวน 2 ราย ซื้อขายหลักทรัพย์บริษัททีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“TWZ”) ในลักษณะต่อเนื่องกัน อันเป็นผลให้การซื้อขายหุ้น TWZ ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้าทำการซื้อขายหุ้น TWZ ทั้งนี้ โดยมีนางปิยะนุช รังคสิริ ร่วมกระทำการในความผิดดังกล่าวด้วย
