ฟ้องแก้เกี้ยว! “พัชรวาท” ฟ้องหมิ่น “เอเอสทีวีผู้จัดการ” กรณีกล่าวหามีเอี่ยววิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งนายตำรวจ ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ 23 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
วันนี้ (27 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบอำนาจให้นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท เอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด เจ้าของหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ, นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตาม ป.อาญา ม.136, 326, 328, 332 ประกอบ ม.83, 84, 90, 91
ตามโจทก์ฟ้องสรุปว่า หลังโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2660/2552 ข้อหาดูหมิ่นและหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน แต่จำเลยทั้งสองยังกระทำซ้ำซากไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 10-26 ส.ค.52 จำเลยทั้งสอง มีเจตนากลั่นแกล้งที่ประสงค์ใส่ความโจทก์เพื่อประโยชน์ในทางการค้าจากการจำหน่ายหนังสือพิมพ์ โดยร่วมกันตีพิมพ์เผยแพร่ข้อความ เช่น “มาร์คช็อกตอรีเทิร์น! ทวงตำแหน่งป้องโผพันล้าน” โดยมีเนื้อข่าวทำนองว่า โจทก์เดินทางกลับจากต่างประเทศเพื่อระงับการเปลี่ยนแปลงโผโยกย้ายนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ
นอกจากนี้ จำเลยทั้งสองยังดำเนินการหมิ่นประมาทอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกันตีพิมพ์บทความในคอลัมน์ “พิเศษรายงาน” ทำนองว่าการซื้อขายเก้าอี้ในวงการตำรวจ จนกลายเป็นประเด็นร้อน ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเก้าอี้ ผบ.ตร.องโจทก์ โดยมีการวิ่งเต้นผ่านนายพลใกล้ชิดได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ และยังเขียนพาดพิงโจทก์ในคอลัมน์ “ริมรั้วปทุมวัน” ทำนองว่าโจทก์เป็นบุคคลในข่าวที่ถูกตีแผ่เรื่องเสียหายมานานนับเดือน แต่ยังคงสวมเครื่องแบบสีกากีนั่งเป็นผู้นำกรมปทุมอยู่ได้ รวมทั้งข้อความอื่นๆ ทำนองว่าโจทก์เกี่ยวข้องกับการวิ่งเต้นและซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยังพาดพิงทำนองว่าโจทก์บุตรสาวเข้ารับราชการเป็นตำรวจสัญญาบัตร ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษตามความผิด ให้จำเลยตีพิมพ์โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รวม 7 ฉบับ
ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาและนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ เวลา 09.00 น.
ด้าน นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา เปิดเผยหลังทราบว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ยื่นฟ้องอีกคดีว่า การฟ้องของ พล.ต.อ.พัชรวาท ถือเป็นการฟ้องแก้เกี้ยวมากกว่า โดยตนมีพยานหลักฐานที่จะต่อสู้ในชั้นศาลได้ จึงไม่มีความหวั่นเกรงหรือเกรงกลัวใดๆโดยหนังสือพิมพ์ เอเอสทีวี ผู้จัดการ จะนำเสนอข่าวไปตามข้อเท็จจริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายตุลย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ยังมีหลักฐานเกี่ยวกับการใช้อำนาจโดยมิชอบของ พล.ต.อ.พัชรวาท ขณะบริหารงานอีกหลายเรื่อง และพร้อมที่จะเปิดเผยได้ทุกเมื่อ