“สมคิด-เนวิน-พงศ์เทพ” จำเลยคดีหวยบนดิน ไม่ติดแบล็กลิสต์ห้ามออกนอกประเทศ หลังได้กลิ่นอาจติดบ่วงคดี ถือโอกาสใช้ช่องขออนุญาตศาลบินไปต่างประเทศ ก่อนนัดฟังคำพิพากษา ขณะที่ยังมีจำเลยยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกประเทศอีกจำนวนหนึ่ง แต่ศาลฎีกาฯมีคำสั่งไม่อนุญาต
วันนี้ (25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ได้ส่งชื่อ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายเนวิน ชิดชอบ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายพินิจ จารุสมบัติ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล นายวุฒิพันธุ์ วิรัชชัย และ นายกำธร ตติยเสวี จำเลยที่ 3, 14, 24, 27, 32, 38 และ 44 ในคดีร่วมกันทุจริตโครงการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว (หวยบนดิน) เป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ต่อผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากจำเลยกลุ่มดังกล่าวได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศไว้ก่อนวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเสร็จสิ้นการไต่สวนพยานจำเลย และศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 กันยายน นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จำเลยบางคนอ้างว่า มีธุระส่วนตัวที่ต้องไปดูแลเรื่องการศึกษาบุตร บางคนอ้างว่าต้องไปดูแลธุรกิจ หรือติดราชการในต่างประเทศ ซึ่งเป็นภารกิจที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยส่วนใหญ่ขออนุญาตเดินทางตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.แต่ขอกลับในวันที่แตกต่างกันไป โดยจำเลยคนสุดท้ายที่ได้รับอนุญาตจะต้องเดินทางกลับในวันที่ 26 ก.ย.นี้
ข่าวแจ้งว่า ช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ นายเนวิน ชิดชอบ จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ เพื่อไปส่งบุตรชายและบุตรสาวกลับไปเรียนต่อ หลังจากกลับมาพักที่ประเทศไทยในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากวันที่ 19 ส.ค.ที่เสร็จสิ้นการไต่สวนคดีหวยบนดินแล้วยังมีจำเลยยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกประเทศอีกจำนวนหนึ่ง แต่ศาลฎีกาฯพิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาต
สำหรับคดีหมายเลขดำ อม.1/2551 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (ศาลสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราวเนื่องจากหนีคดี) จำเลยที่ 1, คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 2-30 และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมเป็นจำเลยที่ 31-47 ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบกรณีที่ร่วมกันมีมติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ก.ค.46 ให้ดำเนินการออกสลากหวยบนดินตั้งแต่งวดวันที่ 1 ส.ค.46-พ.ย.49, ร่วมกันยักยอกทรัพย์ และละเว้นการเรียกเก็บภาษี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 152-154, 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ซึ่ง ป.ป.ช.ขอให้ศาลสั่ง จำเลยทั้งหมด ร่วมกันชดใช้เงิน 14,862,254,865.94 บาท คืนให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้เสียหายด้วย
โดยภายหลังศาลไต่สวนพยานนัดสุดท้าย ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น.และให้โจทก์-จำเลย ยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันที่ 24 ก.ย.นี้ โดยศาลฎีกาฯ ยังได้มีคำสั่งกำชับ จำเลยทั้ง 47 คน ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ จนกว่าจะฟังคำพิพากษาด้วย
เป็นที่น่าสังเกตว่า สำหรับ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีต รมว.ยุติธรรม และโฆษกประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 24 พบว่า ในวันไต่สวนนัดสุดท้าย นายพงศ์เทพ ได้เดินทางมาร่วมฟังการพิจารณา และหลังจากศาลมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ นายพงศ์เทพ ได้เดินออกมาจากห้องพิจารณาคดีด้วยสีหน้าเคร่งครัด โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่กลับพบว่า นายพงศ์เทพ ไม่ติดแบล็กลิสต์ห้ามออกนอกประเทศ เพราะได้ยื่นขออนุญาตศาลก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งเหมือนกับว่า เป็นการเตรียมการเพื่อหนีคดีไว้ล่วงหน้า
สำหรับคดีนี้เป็นคดีแรกที่ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เอง หลังจากที่ อัยการสูงสุด ไม่พิจารณายื่นฟ้องให้ เนื่องจากเห็นว่าคดีนี้มีข้อไม่สมบูรณ์ โดย คตส.ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2551 และเริ่มไต่สวนพยานโจทก์-จำเลย ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.จนถึง 19 ส.ค.นี้ รวมเวลาพิจารณาคดีเกือบ 6 เดือน โดยศาลมีคำสั่งออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ซึ่งหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ทั้งนี้คดีดังกล่าวเมื่อ คตส.หมดวาระลงเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.52 ป.ป.ช.จึงได้เข้ามาเป็นโจทก์แทน
ขณะที่พยานโจทก์ที่ ป.ป.ช.นำเข้าไต่สวน เช่น นายอุดม เฟื่องฟุ้ง ประธานอนุ คตส., ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์, นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง และพยานโจทก์ปากอื่นๆ รวมประมาณ 20 ปาก
ส่วนฝ่ายจำเลยมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 2, นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 7, นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 4, ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 6, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จำเลยที่ 24, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จำเลยที่ 28, นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จำเลยที่ 23, นายชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีตผู้อำนวยการกองสลากกินแบ่งรัฐบาล จำเลยที่ 42, นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง จำเลยที่ 31, พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงษ์ ณ อยุธยา อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ในฐานะคณะกรรมการกองสลาก จำเลยที่ 47, นางจรวยพร ธรณินทร์ อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตกรรมการยุทธศาสตร์ ไต่สวนร่วมกับพยานปากอื่นๆ รวม 50-60 ปาก
วันนี้ (25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ได้ส่งชื่อ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายเนวิน ชิดชอบ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายพินิจ จารุสมบัติ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล นายวุฒิพันธุ์ วิรัชชัย และ นายกำธร ตติยเสวี จำเลยที่ 3, 14, 24, 27, 32, 38 และ 44 ในคดีร่วมกันทุจริตโครงการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว (หวยบนดิน) เป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ต่อผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากจำเลยกลุ่มดังกล่าวได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศไว้ก่อนวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเสร็จสิ้นการไต่สวนพยานจำเลย และศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 กันยายน นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จำเลยบางคนอ้างว่า มีธุระส่วนตัวที่ต้องไปดูแลเรื่องการศึกษาบุตร บางคนอ้างว่าต้องไปดูแลธุรกิจ หรือติดราชการในต่างประเทศ ซึ่งเป็นภารกิจที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยส่วนใหญ่ขออนุญาตเดินทางตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.แต่ขอกลับในวันที่แตกต่างกันไป โดยจำเลยคนสุดท้ายที่ได้รับอนุญาตจะต้องเดินทางกลับในวันที่ 26 ก.ย.นี้
ข่าวแจ้งว่า ช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ นายเนวิน ชิดชอบ จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ เพื่อไปส่งบุตรชายและบุตรสาวกลับไปเรียนต่อ หลังจากกลับมาพักที่ประเทศไทยในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากวันที่ 19 ส.ค.ที่เสร็จสิ้นการไต่สวนคดีหวยบนดินแล้วยังมีจำเลยยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกประเทศอีกจำนวนหนึ่ง แต่ศาลฎีกาฯพิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาต
สำหรับคดีหมายเลขดำ อม.1/2551 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (ศาลสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราวเนื่องจากหนีคดี) จำเลยที่ 1, คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 2-30 และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมเป็นจำเลยที่ 31-47 ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบกรณีที่ร่วมกันมีมติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ก.ค.46 ให้ดำเนินการออกสลากหวยบนดินตั้งแต่งวดวันที่ 1 ส.ค.46-พ.ย.49, ร่วมกันยักยอกทรัพย์ และละเว้นการเรียกเก็บภาษี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 152-154, 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ซึ่ง ป.ป.ช.ขอให้ศาลสั่ง จำเลยทั้งหมด ร่วมกันชดใช้เงิน 14,862,254,865.94 บาท คืนให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้เสียหายด้วย
โดยภายหลังศาลไต่สวนพยานนัดสุดท้าย ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น.และให้โจทก์-จำเลย ยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันที่ 24 ก.ย.นี้ โดยศาลฎีกาฯ ยังได้มีคำสั่งกำชับ จำเลยทั้ง 47 คน ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ จนกว่าจะฟังคำพิพากษาด้วย
เป็นที่น่าสังเกตว่า สำหรับ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีต รมว.ยุติธรรม และโฆษกประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 24 พบว่า ในวันไต่สวนนัดสุดท้าย นายพงศ์เทพ ได้เดินทางมาร่วมฟังการพิจารณา และหลังจากศาลมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ นายพงศ์เทพ ได้เดินออกมาจากห้องพิจารณาคดีด้วยสีหน้าเคร่งครัด โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่กลับพบว่า นายพงศ์เทพ ไม่ติดแบล็กลิสต์ห้ามออกนอกประเทศ เพราะได้ยื่นขออนุญาตศาลก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งเหมือนกับว่า เป็นการเตรียมการเพื่อหนีคดีไว้ล่วงหน้า
สำหรับคดีนี้เป็นคดีแรกที่ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เอง หลังจากที่ อัยการสูงสุด ไม่พิจารณายื่นฟ้องให้ เนื่องจากเห็นว่าคดีนี้มีข้อไม่สมบูรณ์ โดย คตส.ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2551 และเริ่มไต่สวนพยานโจทก์-จำเลย ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.จนถึง 19 ส.ค.นี้ รวมเวลาพิจารณาคดีเกือบ 6 เดือน โดยศาลมีคำสั่งออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ซึ่งหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ทั้งนี้คดีดังกล่าวเมื่อ คตส.หมดวาระลงเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.52 ป.ป.ช.จึงได้เข้ามาเป็นโจทก์แทน
ขณะที่พยานโจทก์ที่ ป.ป.ช.นำเข้าไต่สวน เช่น นายอุดม เฟื่องฟุ้ง ประธานอนุ คตส., ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์, นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง และพยานโจทก์ปากอื่นๆ รวมประมาณ 20 ปาก
ส่วนฝ่ายจำเลยมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 2, นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 7, นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 4, ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 6, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จำเลยที่ 24, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จำเลยที่ 28, นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จำเลยที่ 23, นายชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีตผู้อำนวยการกองสลากกินแบ่งรัฐบาล จำเลยที่ 42, นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง จำเลยที่ 31, พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงษ์ ณ อยุธยา อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ในฐานะคณะกรรมการกองสลาก จำเลยที่ 47, นางจรวยพร ธรณินทร์ อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตกรรมการยุทธศาสตร์ ไต่สวนร่วมกับพยานปากอื่นๆ รวม 50-60 ปาก