xs
xsm
sm
md
lg

“สาทิตย์” ตื่นแล้ว! จีบปากพูด “ฎีกาแดง” ต้องเข้าหลักเกณฑ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย
รมต.สำนักนายกฯ เผลอละเมอยันฎีกาแดง ต้องเป็นตามหลักเกณฑ์ ไม่โต้แย้งคำพิพากษา ดักคอเป็น กม.ที่แก้สมัย “ทักษิณ” คาด “แม้ว” ไม่จบแค่นี้ ตารีตาเหลือกจะเร่งสร้างความเข้าใจให้ ปชช.เข้าใจ

วันนี้ (18 ส.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชน หลังจากที่กลุ่มเสื้อแดงได้ยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้มีการประสานงานมาจากสำนักราชเลขาธิการ และคงส่งหนังสือทั้งหมด มาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักเลขาฯ ครม.จะได้มีการหารือกับสำนักราชเลขาธิการเพื่อกำหนดแนววิธีการปฏิบัติต่อไป ซึ่งแนวทางในการปฏิบัติในเรื่องนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายฉบับดังกล่าวจะระบุวิธีการ ซึ่งถ้าเป็นฎีกาขออภัยโทษ ขั้นตอนคือต้องส่งเรื่องไปยังกระทรวงยุติธรรม จากนั้นกระทรวงยุติธรรมจะเป็นผู้ที่จะดำเนินการตรวจสอบกฎหมายเบื้องต้น และจะถวายคำวินิจฉัยในเชิงของขอกฎหมาย ความจริงกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเป็นกฎหมาย ที่แก้ในสมัยอดีตนายกฯทักษิณ ปี 2548 และคนที่แก้ คือ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสมัยนั้น ตนจึงคิดว่าในบรรดาแกนนำคนเสื้อแดง น่าจะทราบดีว่าต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างไร

ส่วนประเด็นในการทำความเข้าใจกับประชาชน นายสาทิตย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการไปสร้างความเข้าใจ ว่า หลังจากคนหลายล้านคนยื่นฎีกาแล้ว ต้องได้รับการอภัยโทษ ซึ่งความจริงพระราชกฤษฎีกา ที่เขียนไว้ในรัชกาลที่ 6 ต้องไม่โต้แย้งคำพิพากษา แต่กรณีฎีกานี้ ถ้าเป็นไปตามที่เสื้อแดงเปิดเผยก่อนหน้านี้ ก็เป็นการโต้แย้งคำพิพากษา ซึ่งเป็นขั้นตอนของกระบวนการกระทรวงยุติธรรมจะต้องถวายคำแนะนำ

“กฎหมายประมวลวิธีพิจารณาที่แก้สมัยนายกฯทักษิณ เขียนชัดเลยว่า ผู้ที่จะขออภัยโทษนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวเนื่อง ซึ่งมีการพิจารณาชัดเจน ว่า ต้องเป็นเจ้าตัว หรือคนที่เกี่ยวพัน ไม่ว่าจะเป็นบุตรหรือภรรยา ที่ได้รับความเดือดร้อน และต้องไปตรวจสอบดูว่ารายชื่อมีท่านใดเข้าข่ายหรือไม่ และต้องตรวจสอบต่อไปว่า คำพิพากษาจำคุกท่านจำคุกหรือไม่ และสำนึกผิดหรือไม่ นี่เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย” นายสาทิตย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มเสื้อแดงใช้วิธีการร้องทุกข์ว่า เดือดร้อนในเรื่องต่างๆ นายสาทิตย์ กล่าวว่า กรณีร้องทุกข์จะเป็นอีกกรณีหนึ่ง ที่ต้องไปดูว่าร้องทุกข์ในกรณีใด แล้วโดยหลักสำนักราชเลขาธิการ จะส่งเรื่องไปให้หน่วยงานนั้นๆ รับไปพิจารณาแต่ประเด็นในหนังสือ ถ้าข้อความตรงกันกับที่กลุ่มเสื้อแดงเปิดเผยก่อนหน้า ก็ถือว่าเป็นหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ

เมื่อถามว่า ถ้าไม่มีชื่อญาติก็ถือว่าไม่เข้าองค์ประกอบกฎหมายใช่หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ถ้าไม่มีก็ไม่เข้าตามองค์ประกอบของกฎหมาย ถ้าไม่เข้าก็เป็นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรม ถวายคำวินิจฉัยแบบนั้นได้ อย่าไปสร้างความเข้าใจว่า เมื่อยื่นแล้วสามารถดำเนินการได้ตามต้องการเพราะทั้งหมดอยู่ที่กระทรวงยุติธรรม

เมื่อถามว่า เมื่อเห็นว่า ไม่เข้าตามกฎหมายเป็นไปได้หรือไม่ว่า รัฐบาลสามารถยุติเรื่องโดยไม่นำส่งกลับไปสำนักราชเลขา นายสาทิตย์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดไปก่อนจนกว่าจะมีการเปิดเอกสารทั้งหมดและดูรายละเอียด ว่า เอกสารเป็นอย่างไรหรือเกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯหรือไม่ ถ้าดูครบแล้วจึงวินิจฉัยข้อกฎหมายได้ และกระทรวงยุติธรรมจะถวายคำวินิจฉัยต่อไป เมื่อถามว่า รัฐบาลมีอำนาจที่จะระงับเรื่องได้เองหรือไม่ หรือจำเป็นต้องถวายคำแนะนำกลับไป นายสาทิตย์ กล่าวว่า ต้องดูว่าเข้าตามองค์ประกอบของกฎหมายหรือไม่ ถ้าเข้าก็ถวายคำแนะนำไป แต่ถ้าไม่เข้าก็ถวายไปว่า ไม่เข้าองค์ประกอบตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า กลายเป็นว่ารัฐบาลกีดกันและทำให้เกิดปัญหาบานปลายหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า สิ่งที่กังวลคือเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้ต้องทำตามกฎหมาย เพราะกฎหมายนี้แก้สมัยนายกฯทักษิณ ถ้าเกิดเป็นไปตามนี้หน้าที่รัฐบาล จะต้องชี้แจงและคงต้องทำกันเยอะ ในขอบข่ายที่กว้างขวางทั่วไป

เมื่อถามว่า จะดำเนินการอย่างไรถ้าในวันที่ 26 ส.ค.ที่กลุ่มเสื้อแดงจะนัดชุมนุมใหญ่ จะมีการนำประเด็นนี้ไปขับไล่รัฐบาลไปอีกรอบ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ก็จะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ความจริงแล้วกลุ่มเสื้อแดงก็ประกาศ ว่า ยื่นฎีกาแล้วก็จะหยุดการเคลื่อนไหว ขอให้เป็นไปตามนั้นจริง แต่ก่อนถึงวันที่ 26 ส.ค.ก็คิดว่า รัฐบาลต้องทำการชี้แจงหลากหลายรูปแบบ แล้วก็ผ่านสื่อทุกชนิด เมื่อถามว่า คาดว่า กลุ่มเสื้อแดงจะกดดันรัฐบาลอีกหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ดูจากที่อดีตนายกฯโฟนอิน พอจะประเมินได้ว่าเหตุการณ์ไม่จบง่ายๆ เป้าหมายที่แท้จริง คือ เดินหน้าต่อ เพียงแต่ว่า เขาพูดไว้เองว่า ถ้ายื่นแล้วจะหยุดการเคลื่อนไหว แต่ถ้าไม่หยุด ก็ว่ากันไปตามแนวทางที่ต้องแก้ไขกัน

เมื่อถามว่า การชุมนุมเมื่อวานนี้ คนมากันเยอะเป็นสัญญาณบอกหรือไม่ ว่า การชี้แจงของรัฐบาลไม่ได้ทำให้ประชาชนเข้าใจ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนเข้าใจคนที่ตั้งใจมา แต่ตนว่าแกนนำน่าจะเข้าใจดีว่า คนมาน้อยกว่าที่คาดไว้เยอะ เมื่อถามว่า การถวายฎีกาเป็นการหาเหตุในการก่อกวนรัฐบาลหรือสร้างความปั่นป่วนบ้านเมือง นายสาทิตย์ กล่าว่า ต้องถามคนยื่น แต่ถ้าดูจากเจตนาแล้ว ยังมีอะไรแอบแฝงอยู่อีกมาก ซึ่งนี่เป็นหน้าที่ที่ทุกฝ่ายจะช่วยกัน เมื่อถามว่าจะมีแนวทางในการปกป้องสถาบันศาลอย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องการชี้แจงต้องทำต่อไปส่วนเรื่องปกป้องศาล ตนว่าคนในกระบวนการยุติธรรมเอง ถ้าเห็นว่าอะไรก็เกินเลย ก็สามารถที่จะใช้สิทธิ์ได้

เมื่อถามว่า กลัวเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นหรือไม่ และจะเป็นสิงหาอันตรายหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าว่า เขาก็ขู่ไว้ ซึ่งไม่มีผลดีและทำให้ทุกฝ่ายต้องตื่นตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น