พยานหวยบนดินตบเท้าเบิกความยันไม่มีทุจริต - ทำถูกกฎหมาย

อดีต ผช.ผบ.ตร.เบิกความ ยันหวยบนดินถูกกฎหมาย เป็นวิธีปราบหวยใต้ดินดีที่สุด เลขาฯ สภาพัฒน์ยอมรับโครงการช่วยเหลือการศึกษาเด็กยากจนสอดคล้องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ปลัด พม.ย้ำไม่พบมีการทุจริตโครงการ

วันนี้ (14 ส.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายสบโชค สุขารมณ์ รองประธานศาลฎีกาว่าที่ประธานศาลฎีกาคนใหม่ เจ้าของสำนวนทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) พร้อมองค์คณะ 9 คน ไต่สวนพยานจำเลย คดีหมายเลขดำ อม.1/2551 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว) จำเลยที่ 1, อดีตคณะรัฐมนตรีชุดรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 2-30 และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นจำเลยที่ 31-47 ในความผิดฐานร่วมกันทำผิดยักยอกทรัพย์, เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการดูแลกิจการ เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นและละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากร และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา147, 152, 153, 154, 157 และ ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ.2502 มาตรา 3, 4, 8, 9, 10 และ 11 โดย ป.ป.ช. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหมด ร่วมกันคืนเงินที่มีมติอนุมัติให้จ่ายไปรวมจำนวน 14,862,254,865.94 บาท ให้แก่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย

ทนายความฝ่ายจำเลยนำ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นพยานขึ้นเบิกความสรุปว่า โครงการสลากพิเศษ 2 และ 3 ตัวบนดิน ที่มีการนำเงินไปช่วยเหลือสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสและเด็กยากไร้ตามชนบททั่วประเทศ และการให้ทุนมีความต่อเนื่องทำให้เด็กด้อยโอกาสได้รับการศึกษาในนระดับสูง โดยเฉพาะการศึกษาในต่างประเทศ และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันด้านอบายมุข สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9-10 ที่มีวัตถุประสงค์ให้เด็กยากจนสามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างทั่วถึง และใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างรายได้ มากกว่าที่จะให้ใช้แรงงานสร้างรายได้ ซึ่งถือเป็นหัวใจและกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

ต่อมา พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงษ์ ณ อยุธยา อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ในฐานะคณะกรรมการกองสลาก จำเลยที่ 47 ขึ้นเบิกความสรุปว่า ขณะดำรงตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร. คณะรัฐมนตรีมีมติให้พยานไปเป็น บอร์ด กองสลาก แทนคนเก่าที่ครบวาระ 2 ปี เหตุที่ได้รับการชักชวนเนื่องจากต้องการให้รับผิดชอบด้านการปราบปรามหวยใต้ดินและการจำหน่ายสลากเกินราคา โดยบอร์ดกองสลาก มีหน้าที่กำกับดูแลการออกสลากให้เป็นไปตามระเบียบ นอกจากนี้เคยประชุมบอร์ดเพื่อพิจารณาอนุมัติงบให้กับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ตามที่เจ้าหน้าที่กองสลากตรวจสอบโครงการว่าเข้าหลักเกณฑ์แล้วรวม 5 ครั้ง แต่ไม่ได้มีการพิจารณานำเงินรายได้ส่งเข้ากระทรวงการคลัง เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่ง ยืนยันทำหน้าที่อย่างสุจริต

พล.ต.อ.อิสระพันธ์ เบิกความต่อว่า ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตั้งข้อกล่าวหากระทำผิดฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ป.อาญา ม.157 กับเจ้าเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รวม 47 คนถือว่ารุนแรง แต่กลับไม่อธิบายฟ้องว่าจำเลยคนใดกระทำผิดอย่างไร เพราะแต่ละคนกระทำต่างกรรมต่างวาระกัน ซึ่งต้องอธิบายว่าพยานกระทำผิดอย่างไร มีส่วนได้ส่วนเสีย มีบุตรหลานได้อนุมัติให้รับทุน จึงไม่เข้าใจว่าจะต่อสู้ประเด็นไหน เป็นการผลักภาระการพิสูจน์ให้จำเลย เพราะคดีนี้พยานเพียงร่วมอนุมัติงบให้โครงการเท่านั้น ซึ่งก็เป็นไปตามระเบียบที่มีอยู่ การออกสลาก 2 และ 3 ตัว ได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยทุกงวด คตส.จึงฟ้องเพียงว่าร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันกินรวบ แต่ไม่ใส่คำว่า “โดยได้รับอนุญาต” เพราะจะเป็นการขัดแย้งกันเอง ไม่ทราบว่า คตส.เอาคดีนี้มาฟ้องได้อย่างไร

“คดีนี้เจ้ามือหวยใต้ดินกำลังจับตาดูว่าจะออกมาอย่างไร หากคนทำหวยบนดินติดคุกหัวโต เจ้ามือหวยใต้ดินก็จะดีใจตีปีกกันจนแขนแดง เพราะต่อไปจะไม่มีมาแย่งอาชีพของพวกเขา” พล.ต.อ.อิสระพันธ์เบิกความตอนท้าย

จากนั้นศาลได้กล่าวกับ พล.ต.อ.อิสระพันธ์ ให้ช่วยบอกตำรวจรุนน้องช่วยกันปราบปรามหวยใต้ดินด้วย พล.ต.อ.อิสระพันธ์ ชี้แจงว่า หวยบนดินคือวิธีการปราบปรามหวยใต้ดิน อยู่แล้ว เพราะคนไทยฝันถึงเลข 2 ตัว 3 ตัว ทุกวันที่ 1 และ 16 การที่จะไปเดินหาซื้อสลากกินแบ่งให้ได้เลขท้าย 2 และ 3 ตัว ตามที่ต้องการทำได้ยาก จึงหันไปแทงหวยใต้ดินซึ่งทำง่ายกว่า

ต่อมา นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขึ้นเบิกความเกี่ยวกับขั้นต้อนการคัดเลือกผู้รับทุน สรุปว่าเป็นไปตามที่สภาพัฒน์ฯกำหนด โดยพิจารณาจาก ปริมาณเด็กในแต่พื้นที่ และมีรายได้ยากจน ซึ่งมีคณะกรรมการตรวจสอบยังไม่เคยพบว่ามีการทุจริตให้ทุนลูกหัวคะแนน ส.ส. หรืออื่นๆ เพราะมีการโอนเงินเข้าบัญชีของเด็กผู้รับทุนโดยตรง ภายหลังศาลไต่สวนพยานเสร็จสิ้นแล้วนัดไต่สวนครั้งต่อไปวันที่ 18 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ซึ่งตามบัญชีรายชื่อมี ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องเข้าเบิกความด้วย