มติ ก.ต.ตั้ง “สบโชค สุขารมณ์” เป็นประธานศาลฎีกาคนใหม่ ดำรงตำแหน่งยาว 3 ปี ถึงปี 55 ส่วนองค์คณะคดีดัง “เอ็กซิมแบงก์-ยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านทักษิณ” เรียงแถวเป็นรองประธานศาลฎีกา “พินิจ สุเสารัจ” เลขาฯ ศาลยุติธรรม โอนกลับเป็นตุลาการ พ.หัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา โดยมีเรื่องที่ไม่ค่อยได้เกิดขึ้น เมื่อมีการโอนย้ายผู้ช่วยผู้พิพากษาไปเป็นข้าราชการอัยการ
วันนี้ (28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เมื่อวันที่ 27 ก.ค. เวลา 20.00 น. ที่ห้องประชุมอาคารศาลยุติธรรม สนามหลวง นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา ได้เป็นประธานการประชุมดังกล่าว โดยมีวาระสำคัญในการเลือกประธานศาลฎีกาคนใหม่ แทนที่นายวิรัชซึ่งจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ และการแต่งตั้งโยกย้ายตุลาการชั้นผู้ใหญ่ 12 ตำแหน่ง ดังนี้ นายสบโชค สุขารมณ์ รองประธานศาลฎีกา เป็นประธานศาลฎีกาคนใหม่ นายวิธวิทย์ หิรัญรุจิพงศ์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกาเป็นรองประธานศาลฎีกา นายองอาจ โรจนสุพจน์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกาเป็นรองประธานศาลฎีกา ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา (หน.ฎีกา) เป็นรองประธานศาลฎีกา นายมนตรี ยอดปัญญา หน.ฎีกา เป็นรองประธานศาลฎีกา นายไพโรจน์ วายุภาพ หน.ฎีกา เป็นรองประธานศาลฎีกา นายพีรพล พิชยวัฒน์ หน.ฎีกา เป็นรองประธานศาลฎีกา
นายธานิศ เกศวพิทักษ์ หน.ฎีกา เป็นประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา นายอดิศักดิ์ ทิมมาศย์ ประธานศาลอุทธรณ์ เป็นประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา นายมานัส เหลืองประเสริฐ หนฎีกา เป็นประธานแผนกคดีพาณิชย์ในศาลฎีกา นายประทีบ เฉลิมภัทรกุล หน.ฎีกาเป็นประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา นายสมศักดิ์ จันทรา หน.ฎีกา เป็นประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา นายฐานันท์ วรรณโกวิท หน.ฎีกา เป็นประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา นายสุทัศน์ ศิริมหาพฤกษ์ หน.ฎีกา เป็นประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา นายอร่าม เสนามนตรี หน.ฎีกา เป็นประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาในศาลฎีกาทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป และให้นายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม โอนกลับเป็นข้าราชการตุลาการในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ที่ประชุม ก.ต.ยังมีมติให้นายปฏิกรณ์ ทองโคตร ผู้ช่วยผู้พิพากษา โอนไปรับราชการเป็นข้าราชการอัยการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยๆ และให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่1 ก.ค. อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสบโชค สุขารมณ์ ปัจจุบันอายุ 57 ปี และจะดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาจนถึงปี พ.ศ.2555 ขณะนี้รับผิดชอบในฐานะเจ้าของสำนวนคดีสลากกินแบ่งเลขท้าย 2 และ 3 ตัวในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งคดีอยู่ระหว่างการไต่สวนพยานโจทก์ ส่วนนายวิธวิทย์ หิรัญรุจิพงศ์ และนายองอาจ โรจนสุพจน์ เป็นองค์คณะคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีทุจริตปล่อยเงินกู้ 4,000 ล้านบาทจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (เอ็กซิมแบงก์) ให้แก่รัฐบาลพม่า ส่วน ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล นายไพโรจน์ วายุภาพ และนายประทีป เฉลิมภัทรกุล ปัจจุบันเป็นองค์คณะคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายพีรพล พิชยวัฒน์ เป็นองค์คณะคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ