นายกรัฐมนตรีรับทราบ นายตำรวจชุดคลี่คลายคดียิง “สนธิ ลิ้มทองกุล” หลายนาย “เกียร์ว่าง” ไม่สนใจขุดคุ้ยตามแนวทางการสืบสวน สาเหตุหลักใกล้ฤดูแต่งตั้งโยกย้าย หวั่นถูกเด้งออกนอกหน่วย หรือลดชั้น ด้วยอำนาจการแต่งตั้งยังอยู่ในมือ ผบ.ตร.! เผยนายกฯ เตรียมปลดพ้น สตช.แต่ “เทพเทือก” ขอเคลียร์ก่อน
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ให้เข้ามารายงานเกี่ยวกับความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล นั้น มีรายงานว่า พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานถึงอุปสรรคในการคลี่คลายคดี เนื่องจากชุดคลี่คลายคดีที่มีทีมอยู่หลายสิบคน ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.ศส.บช.น. พ.ต.อ.ขิง แชวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ผกก.สส.บก.น. 1-9 ผกก.ศส.บช.น.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม เกียร์ว่างไม่เดินหน้าทำงาน จนทำให้การสะสางคดีเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่ง พล.ต.อ.ธานี ระบุว่า หากการสะสางคดีเป็นลักษณะเช่นนี้ ไม่แน่ว่าก่อนเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนจะสามารถสรุปคดีได้หรือไม่
รายงานข่าวดังกล่าวระบุอีกว่า นายอภิสิทธิ์ได้ซักถาม พล.ต.อ.ธานี ว่าทีมทำคดีมีอยู่หลายสิบคน ไม่น่าจะเกียร์ว่างกันทั้งหมด ซึ่ง พล.ต.อ.ธานี ให้ข้อมูลว่า ทีมคลี่คลายคดีมีหลายสิบคนก็จริง แต่ขณะนี้ทำงานกันแค่ 5 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกเป็นสิบคนไม่ได้ลุยทำงานกันเต็มที่ นอกจากนั้น ในชุดคลี่คลายคดีมีทีมสืบสวนที่ลงพื้นที่หาหลักฐาน แกะรอยคดีมีอยู่เพียง 2 คนเท่านั้น ซึ่งข้อมูลที่ทำให้ทีมคลี่คลายคดีเกียร์ว่าง เนื่องมาจากขณะนี้ใกล้ช่วงแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ซึ่งอำนาจในการโยกย้ายอยู่ในมือของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ ได้รับข้อมูลว่า เหตุผลดังกล่าว ทำให้ทีมคลี่คลายคดีส่วนใหญ่หวั่นเกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดีและถูกลดชั้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ได้ตัดสินใจในระดับหนึ่งแล้วว่าจะปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร.เพื่อให้การทำคดีคลี่คลายไปได้ทันเวลา แต่ติดอยู่ที่นายสุเทพที่เอ่ยปากขอเวลาเคลียร์ปัญหาทุกอย่างก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะตัดสินใจเรื่องดังกล่าว





วันนี้ (22 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ให้เข้ามารายงานเกี่ยวกับความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล นั้น มีรายงานว่า พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานถึงอุปสรรคในการคลี่คลายคดี เนื่องจากชุดคลี่คลายคดีที่มีทีมอยู่หลายสิบคน ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.ศส.บช.น. พ.ต.อ.ขิง แชวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ผกก.สส.บก.น. 1-9 ผกก.ศส.บช.น.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม เกียร์ว่างไม่เดินหน้าทำงาน จนทำให้การสะสางคดีเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่ง พล.ต.อ.ธานี ระบุว่า หากการสะสางคดีเป็นลักษณะเช่นนี้ ไม่แน่ว่าก่อนเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนจะสามารถสรุปคดีได้หรือไม่
รายงานข่าวดังกล่าวระบุอีกว่า นายอภิสิทธิ์ได้ซักถาม พล.ต.อ.ธานี ว่าทีมทำคดีมีอยู่หลายสิบคน ไม่น่าจะเกียร์ว่างกันทั้งหมด ซึ่ง พล.ต.อ.ธานี ให้ข้อมูลว่า ทีมคลี่คลายคดีมีหลายสิบคนก็จริง แต่ขณะนี้ทำงานกันแค่ 5 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกเป็นสิบคนไม่ได้ลุยทำงานกันเต็มที่ นอกจากนั้น ในชุดคลี่คลายคดีมีทีมสืบสวนที่ลงพื้นที่หาหลักฐาน แกะรอยคดีมีอยู่เพียง 2 คนเท่านั้น ซึ่งข้อมูลที่ทำให้ทีมคลี่คลายคดีเกียร์ว่าง เนื่องมาจากขณะนี้ใกล้ช่วงแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ซึ่งอำนาจในการโยกย้ายอยู่ในมือของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ ได้รับข้อมูลว่า เหตุผลดังกล่าว ทำให้ทีมคลี่คลายคดีส่วนใหญ่หวั่นเกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดีและถูกลดชั้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ได้ตัดสินใจในระดับหนึ่งแล้วว่าจะปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร.เพื่อให้การทำคดีคลี่คลายไปได้ทันเวลา แต่ติดอยู่ที่นายสุเทพที่เอ่ยปากขอเวลาเคลียร์ปัญหาทุกอย่างก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะตัดสินใจเรื่องดังกล่าว