xs
xsm
sm
md
lg

“ธานี” เปิดใจเหตุคดียิง “สนธิ” อืด-จวก ตร.ไร้จิตวิญญาณทำตัวเป็นไส้ศึก

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์
“ธานี” เปิดใจเหตุคดีลอบสังหาร “สนธิ” ล่าช้า ระบุตำรวจบางนายขาดจิตวิญญาณการเป็นตำรวจ บางคนทำตัวเป็นไส้ศึก ปล่อยความลับรั่วไหล ขณะบางนายถูกข่มขู่ จนคนทำงานเหลือน้อย ระบุตนเองไม่ได้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน มีหน้าที่แค่กำกับดูแล แต่เมื่อคดีไม่คืบหน้าจึงต้องลงมาดูแลเอง ยันส่วนตัวไม่มีใครมาข่มขู่ เพราะอยู่ที่ตัวเองว่าทำให้ข่มขู่ได้หรือไม่



วันที่ 15 ก.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งล่าสุดมีการออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คนแล้ว โดยในช่วงหนึ่ง พล.ต.อ.ธานีได้เปิดใจถึงปัญหาสำคัญซึ่งทำให้การทำคดีเกิดความล่าช้า

จนถึงขณะนี้ พนักงานสอบสวนยังถูกข่มขู่อยู่หรือเปล่า
“มันทำงานมีปัญหาตลอด ยังเสียดายว่า ถ้าคนทำงานเนี่ย บางคนนะ มีจิตวิญญาณของการเป็นตำรวจ มันจะทำงานได้เร็วกว่านี้อีกเยอะ จะได้เร็วกว่านี้อีกเยอะ”

หลายๆ คนที่จะออกหมายจับเพิ่ม ระหว่างการรวบรวมหลักฐานนี่เป็นบุคคลในเครื่องแบบ หรือว่าเป็นพลเรือน
“ทางการสืบสวนงานนี้ พ.ต.ท.(พลเรือน-ตำรวจ-ทหาร)”

ช่วงนี้มี อะไรที่มากดดันท่านหรือเปล่า
“กดดันไม่มีหรอก มันเพียงแต่ว่าคนที่จะทำงานมันเหลือน้อย คนจะทำงานมันเหลือน้อย”

เหลือเวลาอีกไม่นานท่านก็จะพ้นจากตำแหน่ง ท่านจะสาวไปถึงระดับไหน
“อ้าว ครั้งแรกคุณถามผมไม่ใช่เหรอว่าจะต้องออกหมายจับก่อนเกษียณ ใช่ไหม ต้องได้ตัวก่อนเกษียณใช่ไหม นี่ยังมีเวลาตั้ง 2 เดือนกว่าจะเกษียณน่ะ ได้ก่อนแล้วอ่ะ”

เมื่อวานท่านได้เข้าพบนายกฯ ได้กำชับหรือว่า ท่านได้รายงานถึงข้อติดขัดอะไรหรือเปล่า
“ไม่อ่ะ ท่านก็สั่งการตามหน้าที่ว่าให้ทำงานต่อไป”

ได้รายงานท่าน ผบ.ตร.หรือยัง
“ยัง มีคนอื่นเขาไปรายงานแล้ว ผมไม่ต้องรายงานหล่ะ มีคนอื่นคอยรายงานตลอดอยู่แล้ว มีตลอดอยู่แล้วไง เสียดายว่างานนี้ถ้าคนทำงานมีจิตใจเป็นตำรวจ รู้จักหน้าที่ของตัวเอง มันจะได้ผลเร็วกว่านี้”

ก่อนท่านเกษียณจะได้ตัวคนบงการไหม
“ก็ตอนก่อน 4 เดือน คุณก็ถามว่าจะรู้ตัวได้ตัวก่อนผมเกษียณไหม แล้วนี่มีเวลาอีก 2 เดือนกว่าก็ออกหมายจับได้แล้ว ช่วงเวลาต่อไปก็สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายกันต่อไป”

ออกหมายจับแล้ว มั่นใจไหม หรือว่าจะแค่ออกหมายจับคาไว้เฉยๆ
“มันจะคาไว้ได้ยังไงหมาย ผมบอกแล้วไง ออกหมายจับเป็นเศษกระดาษแล้วไม่มีทางจะได้ตัวคนร้ายแล้วจะออกไว้ทำไม”

ท่านบอกว่าถ้าคนทำงานมีจิตวิญญาณมากกว่านี้ หมายถึงว่าคนทำงานเขาเตะถ่วงกันเองหรือเปล่า
“มันบางทีก็อย่างที่บอกไง บางคนก็ถูกข่มขู่บ้าง ไอ้บางคนก็ทำตัวเหมือนกับเป็นไส้ศึกบ้าง ความลับอะไรต่างๆ บางทีมันก็รั่วไหลไป ถ้าคนมันมีจิตวิญญาณของความเป็นตำรวจมันต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง ต้องรู้หน้าที่การเป็นตำรวจ”

หมายถึงเมื่อวานที่มีข่าวหมายจับรั่วออกมาหรือเปล่า
“ไม่รู้ ตั้งแต่ทำงานน่ะ คือเดี๋ยวนี้ตัวรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเนี่ย ความจริงผมไม่ได้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนนะ ผมไม่ใช่นะ สำนวนนี้เป็นสำนวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจนครบาลแต่งตั้งรองผู้บัญชาการเป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ผมเนี่ยมีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแล แต่เห็นว่างานมันไม่เดิน มันมีภาระ มีปัญหามาก ก็เลยต้องรับมาดำเนินการเอง”

เรื่องหมายจับเพิ่มจะใช้เวลาอีกนานไหม
“บอกไม่ได้ มันแล้วแต่พยานหลักฐาน”

หลักฐานสำคัญมันมีอาวุธปืนที่ใช้ยิงหลายกระบอก ตอนนี้ตามมาได้หรือยัง
“ยังไม่ได้สักกระบอก กำลังหาอยู่”

ถ้าเกิดอาวุธปืนที่ใช้ยังหาไม่ได้จะมีปัญหากับกระบวนการสอบสวน หรือกับพยานหลักฐานไหม
“มันก็เป็นส่วนเดียว อย่างอื่นก็มีตั้งเยอะ พยาน”

จำเป็นต้องเอา 2 คนนั้นมาสอบขยายผลต่อไหม
“รอได้ตัวก่อนสิ”

มีการประสานต้นสังกัดของทหารไหม
“ยังเลย เอาว่าตอนนี้ก็เร่งทำ ไอ้โน่นเร่ง ไอ้นี่ เรื่องพยานหลักฐานอะไรต่างๆ นานาก็ทำกันจ้าละหวั่นอยู่แล้ว คุณไปสังเกตสำนักงานผม กลายเป็นห้องปฏิบัติการไปแล้ว”

“ชัดเจนไหม ผมไม่ใช่หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนนะ ผมมีหน้าที่กำกับดูแลคดี เพียงแต่คดีมันมีคืบหน้าไม่ก้าวหน้า ผมก็เลยต้องลงมาทำหน้าที่ ต้องลงมาทำหน้าที่เพราะต้องกำกับดูแล”

แล้วในส่วนตัวท่านเองเคยถูกข่มขู่ไหม
“ใครจะมาข่มขู่ผมล่ะ เขาไม่เรียกผมหรอก ไม่มีใครเขามาเรียกผมหรอก ไม่มีใครเขามาข่มขู่ผมหรอก ไม่มี เราต้องทำตัวเองน่ะ เราต้องดูตัวเราเองว่า ทำให้เขาข่มขู่ได้ไหม ตัวของตัวเองน่ะ มันมีส่วนสำคัญ เราเป็นตำรวจจริงๆ เนี่ย โดยถ่องแท้เนี่ย ได้ยินไหมอย่างเงี้ย”
กำลังโหลดความคิดเห็น