ตำรวจตั้ง 5 ข้อหาฉกรรจ์ ตามหมายจับ 2 ผู้ต้องหาร่วมทีมสังหาร “สนธิ” โดย ส.ต.อ.ที่ตกเป็นผู้ต้องหา มีข้อมูลยืนยัน มีหน้าที่จองห้องในโรงแรมให้ทีมสังหาร ไม่ใช่คนลงมือยิง ด้วยตาพิการ
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีรายงานข่าวกรณีการออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า หมายจับดังกล่าวเป็นหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 2039/2552 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2552 ผู้ต้องหา คือ จ.ส.อ.ปัญญา หรือ ห่อ ศรีเหรา อยู่บ้านเลขที่ 255/70 ม.1 ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี และหมายจับเลขที่ 2040/2552 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2552 ผู้ต้องหาคือ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือ นายอรรถพล ปาทาน อยู่บ้านเลขที่ 59/479 ม.6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยมี พ.ต.อ.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้ไปขอหมายจับ
สำหรับข้อหาที่ผู้ต้องหาทั้งสองถูกแจ้งข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ซึ่งทางราชการไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, พาอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเปิดเผยและไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแห่งพฤติการณ์, ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหรือที่ชุมนุมชน, และสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปกระทำการเป็นซ่องโจรเพื่อกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ทั้งนี้ กรณีที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ว่า มีการออกหมายจับเพิ่มพลเรือนนามสกุลปาทานนั้น คาดว่าเป็นชื่อปลอมของ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ ที่ใช้ในการหลบหนี ซึ่งในหมายจับก็ระบุชื่อว่า ส.ต.อ.วรวุฒิ หรือ นายอรรถพล ปาทาน
รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมสืบสวนได้เบาะแสทีมสังหาร นายสนธิ มาสักระยะหนึ่งแล้ว มีการส่งชุดสืบสวนลงไปติดตามประกบผู้ต้องสงสัย และเฝ้าดูรถยนต์หมายเลขทะเบียน บธ 1474 ลพบุรี ของ น.ส.รัศมี เมฆชัย ที่จอดอยู่ที่บ้านพัก ซึ่งทีมสังหารนายสนธิก็ทราบความเคลื่อนไหวของทีมสืบสวนเช่นกัน คาดว่า มีการทำลายพยานหลักฐานส่วนใหญ่ไปแล้ว โดย ส.ต.อ.วรวุฒิ นั้นคาดว่า มีหน้าที่ในการไปจองโรงแรมในพื้นที่ จ.นนทบุรี ให้ทีมสังหารมาประชุมปรึกษาหารือกันเท่านั้น เนื่องจาก ส.ต.อ.วรวุฒิ มีสภาพร่างกายไม่ปกติ เนื่องจากตาไม่สามารถมองเห็นได้อย่างปกติ เพราะถูกทำร้ายร่างกายจากคนร้ายค้ายาเสพติดที่ซอยกิ่งเพชร กรุงเทพมหานคร ขณะปลอมตัวเข้าไปล่อซื้อยาเสพติด ประกอบกับ ส.ต.อ.วรวุฒิ ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธปืน แต่มีความเชี่ยวชาญด้านการเฝ้าฟังโทรศัพท์ แต่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขออนุมัติออกหมายจับ เพราะจะทำให้ทีมสังหารส่วนใหญ่ที่เป็นทหารต้องถูกส่งดำเนินคดีในศาลปกติ ไม่สามารถนำขึ้นพิจารณาคดีในศาลทหาร
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีรายงานข่าวกรณีการออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า หมายจับดังกล่าวเป็นหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 2039/2552 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2552 ผู้ต้องหา คือ จ.ส.อ.ปัญญา หรือ ห่อ ศรีเหรา อยู่บ้านเลขที่ 255/70 ม.1 ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี และหมายจับเลขที่ 2040/2552 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2552 ผู้ต้องหาคือ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือ นายอรรถพล ปาทาน อยู่บ้านเลขที่ 59/479 ม.6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยมี พ.ต.อ.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้ไปขอหมายจับ
สำหรับข้อหาที่ผู้ต้องหาทั้งสองถูกแจ้งข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ซึ่งทางราชการไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, พาอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเปิดเผยและไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแห่งพฤติการณ์, ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหรือที่ชุมนุมชน, และสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปกระทำการเป็นซ่องโจรเพื่อกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ทั้งนี้ กรณีที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ว่า มีการออกหมายจับเพิ่มพลเรือนนามสกุลปาทานนั้น คาดว่าเป็นชื่อปลอมของ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ ที่ใช้ในการหลบหนี ซึ่งในหมายจับก็ระบุชื่อว่า ส.ต.อ.วรวุฒิ หรือ นายอรรถพล ปาทาน
รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมสืบสวนได้เบาะแสทีมสังหาร นายสนธิ มาสักระยะหนึ่งแล้ว มีการส่งชุดสืบสวนลงไปติดตามประกบผู้ต้องสงสัย และเฝ้าดูรถยนต์หมายเลขทะเบียน บธ 1474 ลพบุรี ของ น.ส.รัศมี เมฆชัย ที่จอดอยู่ที่บ้านพัก ซึ่งทีมสังหารนายสนธิก็ทราบความเคลื่อนไหวของทีมสืบสวนเช่นกัน คาดว่า มีการทำลายพยานหลักฐานส่วนใหญ่ไปแล้ว โดย ส.ต.อ.วรวุฒิ นั้นคาดว่า มีหน้าที่ในการไปจองโรงแรมในพื้นที่ จ.นนทบุรี ให้ทีมสังหารมาประชุมปรึกษาหารือกันเท่านั้น เนื่องจาก ส.ต.อ.วรวุฒิ มีสภาพร่างกายไม่ปกติ เนื่องจากตาไม่สามารถมองเห็นได้อย่างปกติ เพราะถูกทำร้ายร่างกายจากคนร้ายค้ายาเสพติดที่ซอยกิ่งเพชร กรุงเทพมหานคร ขณะปลอมตัวเข้าไปล่อซื้อยาเสพติด ประกอบกับ ส.ต.อ.วรวุฒิ ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธปืน แต่มีความเชี่ยวชาญด้านการเฝ้าฟังโทรศัพท์ แต่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขออนุมัติออกหมายจับ เพราะจะทำให้ทีมสังหารส่วนใหญ่ที่เป็นทหารต้องถูกส่งดำเนินคดีในศาลปกติ ไม่สามารถนำขึ้นพิจารณาคดีในศาลทหาร
