วิศวกรหนุ่มระดับ 5 การไฟฟ้านครหลวง สาขาประชาชื่น ขับรถไปจอดไว้ที่อาคารจอดรถของคอนโดฯ หรูย่านพระราม 3 ก่อนขึ้นไปดาดฟ้าชั้น 11 แล้วดิ่งลงมาตายอย่างมีปริศนา ตำรวจยังมึนหาสาเหตุจูงใจทำให้ฆ่าตัวตายไม่ได้ เพราะจากการสอบปากคำญาติ-เมียก็ไม่พบปัญหาเรื่องงาน-การเงิน ระบุไม่น่าถูกจับโยนลงมาเพราะไม่มีร่องรอยการต่อสู้
วานนี้ (6 ก.ค.) พ.ต.ท.ประยูร สุมานัส พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.วัดพระยาไกร กล่าวถึงกรณีพบศพ นายมนตรี จิตต์หมวด อายุ 31 ปี วิศวะกรระดับ 5 การไฟฟ้านครหลวง สาขาประชาชื่น และยังเป็นอาจารย์สอนพิเศษตามสถานที่กวดวิชาต่างๆ ย่านสยามสแควร์ และบางรัก ที่กระโดดลงมาจากชั้นดาดฟ้าอาคารลานจอดรถของคอนโดมิเนียมพระราม 3 เรสซิเดนท์ ถนนพระราม 3 จนเสียชีวิตอย่างปริศนาในช่วงเช้ามืดวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการสอบปากคำ รปภ.ทั้ง 6 คน ซึ่งเป็นผลัดที่เข้าเวรในวันเกิดเหตุทราบว่า ผู้ตายได้ขับรถเก๋งเข้ามายังอาคารจอดรถตั้งแต่เวลา 22.30 น. โดยไม่ทราบว่ามาพบใคร เพราะผู้ตายไม่ได้พักอยู่ในคอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ แต่ รปภ.ก็ไม่ได้สงสัยเนื่องจากอาคารจอดรถดังกล่าวอยู่คนละส่วนกับอาคารที่พักซึ่งมีประมาณ 20 ชั้น มีห้องพักกว่า 900 ห้อง อีกทั้งอาคารที่จอดรถยนต์ดังกล่าวยังเป็นอาคารที่เปิดให้บุคคลภายนอกสามารถนำรถยนต์เข้ามาจอดได้ เพียงแต่ต้องเสียค่าจอดรถยนต์เป็นรายชั่วโมง โดยมีระบบคีย์การ์ดแลกเข้าไป
พ.ต.ท.ประยูร กล่าวต่อว่า ผู้ตายได้นำรถเก๋งไปจอดไว้ที่ชั้น 10 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของลานจอดรถ จากนั้น รปภ.ก็ไม่พบการเคลื่อนไหวของผู้ตายแต่อย่างใด เพราะผู้ตายไม่ได้ผ่านเข้าไปในส่วนของอาคารที่พักอาศัย จนกระทั่งมาพบศพอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขึ้นไปตรวจสอบที่ระเบียงชั้น 11 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าของลานจอดรถก็พบเพียงรองเท้าเเตะถูกถอดทิ้งไว้อย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ก็พบรถเก๋งของผู้ตายถูกจอดทิ้งไว้ที่ชั้น 10 โดยภายในมีรองเท้าหนังถอดวางอยู่ด้วย ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้ตายก็ไม่ได้มีการถูกรื้อค้นหรือขโมยไป
พ.ต.ท.ประยูร กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำญาติพี่น้อง รวมถึงภรรยาของผู้ตายก็ยังไม่พบมูลเหตุจูงใจการฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีปัญหาเรื่องงานและการเงินแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าทำไมผู้ตายถึงเดินทางมาที่คอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ ทั้งๆ ที่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ โดยภรรยาผู้ตายบอกว่าก่อนเกิดเหตุได้พบหน้ากันครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 ก.ค. โดยผู้ตายบอกว่าจะไปสอนพิเศษที่โรงเรียนประดับดาว ใกล้ที่ทำงาน และจะค้างที่นั่น 2 คืน โดยก่อนที่จะเสียชีวิตนั้น ผู้ตายก็ยังได้พูดคุยกับภรรยาอยู่ แต่ก็ไม่ได้บอกกล่าวอะไรที่เป็นสิ่งผิดปกติ
พ.ต.ท.ประยูร กล่าวด้วยว่า ผู้ตายค่อนข้างตัวใหญ่ สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ถ้ามีคนจับโยนต้องมีร่องรอยการต่อสู้ แต่จากการตรวจสอบโดยรอบไม่พบร่อยรอยการต่อสู้แต่อย่างใด ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นปกติ แม้แต่กระถางต้นไม้ก็อยู่อย่างเป็นระเบียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะฆ่าตัวตายเอง แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอาคารดังกล่าวแล้ว แต่ไม่สามารถทำการตรวจสอบได้ เนื่องจากกล้องวงจรปิดเสีย ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบประวัติการเข้าตรวจร่างกายของผู้ตายที่คลินิกแห่งหนึ่งก็พบว่าเป็นปกติดี จึงไม่น่าจะเป็นความเครียดจากการป่วยแต่อย่างใด ส่วนศพนายมนตรีนั้นขณะนี้ทางญาติได้นำไปกระกอบพิธีตามหลักศาสนาอิสลามแล้ว
ต่อมาวันนี้(7 ก.ค.) พ.ต.ท.ดิลก ชื่นเนตร สว.สส.สน.วัดพระยาไกร กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้จากการลงพื้นที่สืบสวนและตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของอาคารจอดรถที่เกิดเหตุ ก็พบเพียงว่านายมนตรี ได้ขับรถยนต์เข้าไปในอาคารจอดรถจริง เนื่องจากว่ากล้องโทรทัศน์วงจรปิดดังกล่าวนั้น อยู่ตรงบริเวณทางเข้า-ออก ที่สำคัญอาคารจอดรถยนต์ดังกล่าวยังไม่จำเป็นว่าผู้ที่เข้าพักอาศัยเท่านั้นจะสามารถเข้าไปจอดได้ เพราะยังอนุญาตให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าไปจอดได้ด้วย โดยคิดค่าจอดรถเป็นอัตราของอาคาร จึงทำให้ รปภ.ของอาคารไม่ได้เข้มงวดเท่าไหร่
พ.ต.ท.ดิลก กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมที่เป็นพนักงานร้านขายของชำ ซึ่งอยู่ภายในอาคารดังกล่าวทำให้ทราบว่านายมนตรี เคยมานั่งอยู่แถวอาคารนี้อยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้คาดว่าน่าจะมีคนรู้จักพักอยู่ในอาคารดังกล่าว ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยขณะนี้นั้นในแนวทางการสืบสวนก็ยอมรับว่า ยังไม่มีการตัดทิ้งประเด็นใดๆทั้งสิ้น ทั้งการฆ่าตัวตาย การฆาตรกรรม อุบัติเหตุ ปมชู้สาว ปัญหาสุขภาพ หรือแม้กระทั่งปัญหนี้สินต่างๆ
“แต่จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ไม่พบรอยนิ้วมื้อต้องสงสัย กระถางต้นไม้ที่อยู่ริมระเบียงก็เป็นปกติ อีกทั้งลักษณะการตกลงมาเสียชีวิตนั้น ก็เป็นการตกลงมาโดยขาทั้ง 2 ข้างลงสู่พื้นก่อนทำให้ขาทั้ง 2 ข้างหักผิดรูป ซึ่งหากเป็นการฆาตรกรรมก็อาจจะถูกโยนทิ้งดิ่งซึ่งอวัยวะส่วนอื่นอาจจะต้องตกลงถึงพื้นก่อน” พ.ต.ท.ดิลก กล่าว.
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ประยูร สุมานัส พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุชายพลัดตกจากที่สูงเสียชีวิต ที่อาคารจอดรถพระราม 3 เรสซิเดนท์ ถนนพระราม 3 แขวงและเขตบางคอแหลม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธุ์ ผกก. พ.ต.ท.ดิลก รื่นเนตร สว.สส.สน.วัดพระยาไกร แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลจุฬา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารจอดรถของคอนโดมิเนียมดังกล่าวมีความสูง 11 ชั้น ตรวจสอบบริเวณชั้นที่ 1 พบศพนายมนตรี จิตต์หมวด อายุ 31 ปี วิศวะกรระดับ 5 การไฟฟ้านครหลวงสาขาประชาชื่น อีกทั้งยังเป็นอาจารย์สอนพิเศษตามสถานที่กวดวิชาต่างๆ ย่านสยามสแควร์ และบางรัก นอนเสียชีวิตสภาพคว่ำหน้าจมกองเลือด บริเวณหน้ายุบ ขาหักผิดรูป สวมเสื้อเชิ้ต กางเกงขายาว สวมถุงเท้า จากการตรวจสอบโดยรอบพบรองเท้าเเตะถอดทิ้งไว้บริเวณชั้น 11 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าของอาคาร รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 ณ-7424 กทม.จอดทิ้งไว้อยู่ที่ชั้น 10 โดยทรัพย์สินภายในรถเก๋งและตัวผู้ตายยังอยู่ครบทุกอย่าง
วานนี้ (6 ก.ค.) พ.ต.ท.ประยูร สุมานัส พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.วัดพระยาไกร กล่าวถึงกรณีพบศพ นายมนตรี จิตต์หมวด อายุ 31 ปี วิศวะกรระดับ 5 การไฟฟ้านครหลวง สาขาประชาชื่น และยังเป็นอาจารย์สอนพิเศษตามสถานที่กวดวิชาต่างๆ ย่านสยามสแควร์ และบางรัก ที่กระโดดลงมาจากชั้นดาดฟ้าอาคารลานจอดรถของคอนโดมิเนียมพระราม 3 เรสซิเดนท์ ถนนพระราม 3 จนเสียชีวิตอย่างปริศนาในช่วงเช้ามืดวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการสอบปากคำ รปภ.ทั้ง 6 คน ซึ่งเป็นผลัดที่เข้าเวรในวันเกิดเหตุทราบว่า ผู้ตายได้ขับรถเก๋งเข้ามายังอาคารจอดรถตั้งแต่เวลา 22.30 น. โดยไม่ทราบว่ามาพบใคร เพราะผู้ตายไม่ได้พักอยู่ในคอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ แต่ รปภ.ก็ไม่ได้สงสัยเนื่องจากอาคารจอดรถดังกล่าวอยู่คนละส่วนกับอาคารที่พักซึ่งมีประมาณ 20 ชั้น มีห้องพักกว่า 900 ห้อง อีกทั้งอาคารที่จอดรถยนต์ดังกล่าวยังเป็นอาคารที่เปิดให้บุคคลภายนอกสามารถนำรถยนต์เข้ามาจอดได้ เพียงแต่ต้องเสียค่าจอดรถยนต์เป็นรายชั่วโมง โดยมีระบบคีย์การ์ดแลกเข้าไป
พ.ต.ท.ประยูร กล่าวต่อว่า ผู้ตายได้นำรถเก๋งไปจอดไว้ที่ชั้น 10 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของลานจอดรถ จากนั้น รปภ.ก็ไม่พบการเคลื่อนไหวของผู้ตายแต่อย่างใด เพราะผู้ตายไม่ได้ผ่านเข้าไปในส่วนของอาคารที่พักอาศัย จนกระทั่งมาพบศพอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขึ้นไปตรวจสอบที่ระเบียงชั้น 11 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าของลานจอดรถก็พบเพียงรองเท้าเเตะถูกถอดทิ้งไว้อย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ก็พบรถเก๋งของผู้ตายถูกจอดทิ้งไว้ที่ชั้น 10 โดยภายในมีรองเท้าหนังถอดวางอยู่ด้วย ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้ตายก็ไม่ได้มีการถูกรื้อค้นหรือขโมยไป
พ.ต.ท.ประยูร กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำญาติพี่น้อง รวมถึงภรรยาของผู้ตายก็ยังไม่พบมูลเหตุจูงใจการฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีปัญหาเรื่องงานและการเงินแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าทำไมผู้ตายถึงเดินทางมาที่คอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ ทั้งๆ ที่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ โดยภรรยาผู้ตายบอกว่าก่อนเกิดเหตุได้พบหน้ากันครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 ก.ค. โดยผู้ตายบอกว่าจะไปสอนพิเศษที่โรงเรียนประดับดาว ใกล้ที่ทำงาน และจะค้างที่นั่น 2 คืน โดยก่อนที่จะเสียชีวิตนั้น ผู้ตายก็ยังได้พูดคุยกับภรรยาอยู่ แต่ก็ไม่ได้บอกกล่าวอะไรที่เป็นสิ่งผิดปกติ
พ.ต.ท.ประยูร กล่าวด้วยว่า ผู้ตายค่อนข้างตัวใหญ่ สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ถ้ามีคนจับโยนต้องมีร่องรอยการต่อสู้ แต่จากการตรวจสอบโดยรอบไม่พบร่อยรอยการต่อสู้แต่อย่างใด ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นปกติ แม้แต่กระถางต้นไม้ก็อยู่อย่างเป็นระเบียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะฆ่าตัวตายเอง แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอาคารดังกล่าวแล้ว แต่ไม่สามารถทำการตรวจสอบได้ เนื่องจากกล้องวงจรปิดเสีย ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบประวัติการเข้าตรวจร่างกายของผู้ตายที่คลินิกแห่งหนึ่งก็พบว่าเป็นปกติดี จึงไม่น่าจะเป็นความเครียดจากการป่วยแต่อย่างใด ส่วนศพนายมนตรีนั้นขณะนี้ทางญาติได้นำไปกระกอบพิธีตามหลักศาสนาอิสลามแล้ว
ต่อมาวันนี้(7 ก.ค.) พ.ต.ท.ดิลก ชื่นเนตร สว.สส.สน.วัดพระยาไกร กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้จากการลงพื้นที่สืบสวนและตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของอาคารจอดรถที่เกิดเหตุ ก็พบเพียงว่านายมนตรี ได้ขับรถยนต์เข้าไปในอาคารจอดรถจริง เนื่องจากว่ากล้องโทรทัศน์วงจรปิดดังกล่าวนั้น อยู่ตรงบริเวณทางเข้า-ออก ที่สำคัญอาคารจอดรถยนต์ดังกล่าวยังไม่จำเป็นว่าผู้ที่เข้าพักอาศัยเท่านั้นจะสามารถเข้าไปจอดได้ เพราะยังอนุญาตให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าไปจอดได้ด้วย โดยคิดค่าจอดรถเป็นอัตราของอาคาร จึงทำให้ รปภ.ของอาคารไม่ได้เข้มงวดเท่าไหร่
พ.ต.ท.ดิลก กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมที่เป็นพนักงานร้านขายของชำ ซึ่งอยู่ภายในอาคารดังกล่าวทำให้ทราบว่านายมนตรี เคยมานั่งอยู่แถวอาคารนี้อยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้คาดว่าน่าจะมีคนรู้จักพักอยู่ในอาคารดังกล่าว ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยขณะนี้นั้นในแนวทางการสืบสวนก็ยอมรับว่า ยังไม่มีการตัดทิ้งประเด็นใดๆทั้งสิ้น ทั้งการฆ่าตัวตาย การฆาตรกรรม อุบัติเหตุ ปมชู้สาว ปัญหาสุขภาพ หรือแม้กระทั่งปัญหนี้สินต่างๆ
“แต่จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ไม่พบรอยนิ้วมื้อต้องสงสัย กระถางต้นไม้ที่อยู่ริมระเบียงก็เป็นปกติ อีกทั้งลักษณะการตกลงมาเสียชีวิตนั้น ก็เป็นการตกลงมาโดยขาทั้ง 2 ข้างลงสู่พื้นก่อนทำให้ขาทั้ง 2 ข้างหักผิดรูป ซึ่งหากเป็นการฆาตรกรรมก็อาจจะถูกโยนทิ้งดิ่งซึ่งอวัยวะส่วนอื่นอาจจะต้องตกลงถึงพื้นก่อน” พ.ต.ท.ดิลก กล่าว.
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ประยูร สุมานัส พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุชายพลัดตกจากที่สูงเสียชีวิต ที่อาคารจอดรถพระราม 3 เรสซิเดนท์ ถนนพระราม 3 แขวงและเขตบางคอแหลม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธุ์ ผกก. พ.ต.ท.ดิลก รื่นเนตร สว.สส.สน.วัดพระยาไกร แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลจุฬา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารจอดรถของคอนโดมิเนียมดังกล่าวมีความสูง 11 ชั้น ตรวจสอบบริเวณชั้นที่ 1 พบศพนายมนตรี จิตต์หมวด อายุ 31 ปี วิศวะกรระดับ 5 การไฟฟ้านครหลวงสาขาประชาชื่น อีกทั้งยังเป็นอาจารย์สอนพิเศษตามสถานที่กวดวิชาต่างๆ ย่านสยามสแควร์ และบางรัก นอนเสียชีวิตสภาพคว่ำหน้าจมกองเลือด บริเวณหน้ายุบ ขาหักผิดรูป สวมเสื้อเชิ้ต กางเกงขายาว สวมถุงเท้า จากการตรวจสอบโดยรอบพบรองเท้าเเตะถอดทิ้งไว้บริเวณชั้น 11 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าของอาคาร รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 ณ-7424 กทม.จอดทิ้งไว้อยู่ที่ชั้น 10 โดยทรัพย์สินภายในรถเก๋งและตัวผู้ตายยังอยู่ครบทุกอย่าง