รวบอีสาวแสบ พนักงานเคลมประกัน หัวใสหวังรวยทางลัด ปลอมบัตรประชาชนลูกค้า เปิดบัญชี ตั้งเรื่องเบิกเงินค่าซ่อมกับบริษัทประกันภัย ค้นตัวพบบัตรประชาชนปลอม-ใบขับขี่ ใช้ชื่อบุคคลอื่นแต่สวมหน้าตัวเอง เจ้าตัวอ้างที่ต้องทำเพราะอยากได้เงินไวๆ ด้าน ตร.ไม่ปักใจ เชื่อว่า น่าจะทำเป็นขบวนการ
วันนี้ (23 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น.ร.ต.ต.เด่น บุญอยู่ หัวหน้าสายตรวจ สน.นางเลิ้ง ได้รับแจ้งจาก รปภ.ธนาคารกรุงเทพ สาขาผ่านฟ้า ว่า สามารถควบคุมตัวหญิงสาวใช้บัตรประชาชนปลอมเข้ามาทำธุรกรรมกับทางธนาคารไว้ได้ จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ
เมื่อเดินทางไปถึง รปภ.ของธนาคารดังกล่าวกำลังควบคุมตัว น.ส.ดาวไสว หรือ “แหม่ม” เทียนแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 608/48 ซอยเพชรเกษม 63 แขวงและเขตบางแค จึงทำการตรวจค้นในกระเป๋าสะพายก็พบบัตรประชาชนปลอม จำนวน 15 ใบ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ปลอม จำนวน 18 ใบ โดยบัตรส่วนใหญ่ใช้ชื่อบุคคลอื่น แต่สวมรูปภาพเป็นใบหน้าของ น.ส.ดาวไสว นอกจากนี้ ยังพบบัตรเครดิตและวีซ่า ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของปลอมอีก 14 ใบ สมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 14 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง และตั๋วจำนำโทรศัพท์อีกนับสิบใบ จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.นางเลิ้ง
จากการสอบสวน น.ส.ดาวไสว ให้การว่า ปัจจุบันตนเป็นพนักงานอิสระรับจ้างอู่รถวิ่งเรื่องเคลมค่าสินไหมกับบริษัทประกันทุกแห่ง ส่วนบัตรประชาชนและใบอนุญาตขับขี่ ปลอมที่ตำรวจยึดได้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นชื่อของลูกค้า ซึ่งตนปลอมไว้สำหรับไปเปิดบัญชีตามธนาคารต่างๆ ก่อนตั้งเรื่องเบิกเงินค่าซ่อมรถกับบริษัทประกันภัย ให้โอนเงินเข้ามา
น.ส.ดาวไสว ให้การต่อว่า ที่ตนต้องทำแบบนี้เพราะอยากได้เงินไวๆ กรณีที่ลูกค้านำรถไปซ่อมที่อู่จนเสร็จรับรถกลับไปแล้ว แต่ทางอู่ยังไม่ได้รับเงินค่าซ่อม จึงต้องใช้วิธีทางลัดด้วยการเอาสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาใบขับขี่ของลูกค้า ไปเข้าเครื่องสแกนก่อนใช้โปรแกรมสวมรูปตนเข้าไปสวมรอยตกแต่งแล้วพรินต์ออกมาใช้งาน
“เมื่อนำบัตรปลอมต่างๆ ไปเปิดบัญชีธนาคารได้แล้ว ก็จะตั้งเรื่องเบิกเงินค่าซ่อมกับทางบริษัทประกันภัย หากทางอู่รับเงินเป็นที่เรียบร้อยก็จะได้รับเงินค่าจ้างเปิดบัญชี จำนวน 500 บาท บวกกับค่าทำบัตรเอทีเอ็มอีกใบละ 300 บาท ส่วนบัตรเครดิต บัตรวีซ่า และตั๋วจำนำโทรศัพท์ นั้นเป็นของตัวเองทั้งหมดไม่ได้ปลอมแปลงขึ้นมาแต่อย่างใด” น.ส.ดาวไสว กล่าว
ด้าน น.ส.หัสกาญจน์ ไตรสนธิ อายุ 44 ปี หัวหน้าฝ่ายการเงิน ธนาคารกรุงเทพ สาขาผ่านฟ้า กล่าวว่า ตอนแรก น.ส.ดาวไสว ได้เข้ามาขอเปิดบัญชีกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ โดยใช้เอกสารเป็นบัตรประชาชนของ นางจินตนา วรวงศ์ประเสริฐ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 285/322 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม.เมื่อพนักงานรับเรื่อง สังเกตหน้าตาของ น.ส.ดาวไสว กับ พ.ศ.เกิดในบัตรแล้วเกิดความสงสัยว่า เหตุใดหน้าจึงอ่อนกว่าวัย จึงลองเช็กข้อมูลทะเบียนราษฎร ปรากฏว่า ใบหน้าเจ้าของบัตร วันออกบัตร วันหมดอายุ และเลขใต้บัตรประชาชนนั้นไม่ตรงกัน จึงได้แจ้งให้ รปภ.ล็อกตัวไว้ก่อนแจ้งตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดี
ต่อมา นางจินตนา วรวงศ์ประเสริฐ อายุ 48 ปี ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการขายต่างประเทศสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ ซึ่งเป็นเจ้าของบัตรตัวจริง ได้เดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ตนเคยขับรถยนต์ส่วนตัวไปเที่ยวที่ จ.นครราชสีมา แล้วเกิดอุบัติเหตุไปชนกับก้อนหินโดยไม่มีคู่กรณี เมื่อเดินทางกลับมาถึง กทม.ก็ต้องไปทำงานต่างประเทศต่อ เลยไหว้วานให้เพื่อนสนิท ติดต่ออู่ซ่อมรถให้ เนื่องจากรถตนทำประกันชั้น 1 เอาไว้ โดยตนได้ถ่ายสำเนาบัตรประชาชน สำเนาใบขับขี่ และเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดไว้ให้เพื่อนดำเนินการ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่อู่ มารับรถที่บ้านไปซ่อมนานประมาณ 1 อาทิตย์
“พอช่างซ่อมเสร็จ คนของอู่ก็ขับรถมาส่งคืนให้ที่บ้านพักตามปกติ พอดิฉันเดินทางกลับมาจากต่างประเทศก็ไม่รู้เลย ว่า มีใครเอาเอกสารของดิฉันไปทำอะไรบ้าง จนกระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่แบงก์ติดต่อมาว่า มีคนเอาบัตรประชาชนปลอมชื่อฉันมาใช้เปิดบัญชี เลยรีบเดินทางมาโรงพักทันที ซึ่งดิฉันตนเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้ไม่น่าจะกล้าเสี่ยงปลอมบัตรประชาชนและใบอนุญาตขับขี่ของลูกค้า เพื่อต้องการแค่รับเงินโอนจากบริษัทประกันเท่านั้นแน่นอน เพราะฟังดูแล้วไม่สมเหตุสมผลได้เงินไม่คุ้มเสีย เลยอยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างกว่านี้ด้วย” นางจินตนา กล่าว
ขณะที่ พ.ต.ท.อนุรักษ์ ประดับมุข รอง ผกก.ปป.สน.นางเลิ้ง เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ น.ส.ดาวไสว มากนัก เพราะคาดว่าน่าจะมีผู้ต้องหาที่ทำกันเป็นขบวนการอยู่เบื้องหลังอีกหลายคน จึงได้ควบคุมตัว น.ส.ดาวไสว ไปตรวจค้นที่บ้านพัก ก่อนนำกลับมาสอบเค้นเพื่อหาความจริง แล้วดำเนินการส่งตัวให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (23 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น.ร.ต.ต.เด่น บุญอยู่ หัวหน้าสายตรวจ สน.นางเลิ้ง ได้รับแจ้งจาก รปภ.ธนาคารกรุงเทพ สาขาผ่านฟ้า ว่า สามารถควบคุมตัวหญิงสาวใช้บัตรประชาชนปลอมเข้ามาทำธุรกรรมกับทางธนาคารไว้ได้ จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ
เมื่อเดินทางไปถึง รปภ.ของธนาคารดังกล่าวกำลังควบคุมตัว น.ส.ดาวไสว หรือ “แหม่ม” เทียนแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 608/48 ซอยเพชรเกษม 63 แขวงและเขตบางแค จึงทำการตรวจค้นในกระเป๋าสะพายก็พบบัตรประชาชนปลอม จำนวน 15 ใบ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ปลอม จำนวน 18 ใบ โดยบัตรส่วนใหญ่ใช้ชื่อบุคคลอื่น แต่สวมรูปภาพเป็นใบหน้าของ น.ส.ดาวไสว นอกจากนี้ ยังพบบัตรเครดิตและวีซ่า ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของปลอมอีก 14 ใบ สมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 14 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง และตั๋วจำนำโทรศัพท์อีกนับสิบใบ จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.นางเลิ้ง
จากการสอบสวน น.ส.ดาวไสว ให้การว่า ปัจจุบันตนเป็นพนักงานอิสระรับจ้างอู่รถวิ่งเรื่องเคลมค่าสินไหมกับบริษัทประกันทุกแห่ง ส่วนบัตรประชาชนและใบอนุญาตขับขี่ ปลอมที่ตำรวจยึดได้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นชื่อของลูกค้า ซึ่งตนปลอมไว้สำหรับไปเปิดบัญชีตามธนาคารต่างๆ ก่อนตั้งเรื่องเบิกเงินค่าซ่อมรถกับบริษัทประกันภัย ให้โอนเงินเข้ามา
น.ส.ดาวไสว ให้การต่อว่า ที่ตนต้องทำแบบนี้เพราะอยากได้เงินไวๆ กรณีที่ลูกค้านำรถไปซ่อมที่อู่จนเสร็จรับรถกลับไปแล้ว แต่ทางอู่ยังไม่ได้รับเงินค่าซ่อม จึงต้องใช้วิธีทางลัดด้วยการเอาสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาใบขับขี่ของลูกค้า ไปเข้าเครื่องสแกนก่อนใช้โปรแกรมสวมรูปตนเข้าไปสวมรอยตกแต่งแล้วพรินต์ออกมาใช้งาน
“เมื่อนำบัตรปลอมต่างๆ ไปเปิดบัญชีธนาคารได้แล้ว ก็จะตั้งเรื่องเบิกเงินค่าซ่อมกับทางบริษัทประกันภัย หากทางอู่รับเงินเป็นที่เรียบร้อยก็จะได้รับเงินค่าจ้างเปิดบัญชี จำนวน 500 บาท บวกกับค่าทำบัตรเอทีเอ็มอีกใบละ 300 บาท ส่วนบัตรเครดิต บัตรวีซ่า และตั๋วจำนำโทรศัพท์ นั้นเป็นของตัวเองทั้งหมดไม่ได้ปลอมแปลงขึ้นมาแต่อย่างใด” น.ส.ดาวไสว กล่าว
ด้าน น.ส.หัสกาญจน์ ไตรสนธิ อายุ 44 ปี หัวหน้าฝ่ายการเงิน ธนาคารกรุงเทพ สาขาผ่านฟ้า กล่าวว่า ตอนแรก น.ส.ดาวไสว ได้เข้ามาขอเปิดบัญชีกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ โดยใช้เอกสารเป็นบัตรประชาชนของ นางจินตนา วรวงศ์ประเสริฐ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 285/322 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม.เมื่อพนักงานรับเรื่อง สังเกตหน้าตาของ น.ส.ดาวไสว กับ พ.ศ.เกิดในบัตรแล้วเกิดความสงสัยว่า เหตุใดหน้าจึงอ่อนกว่าวัย จึงลองเช็กข้อมูลทะเบียนราษฎร ปรากฏว่า ใบหน้าเจ้าของบัตร วันออกบัตร วันหมดอายุ และเลขใต้บัตรประชาชนนั้นไม่ตรงกัน จึงได้แจ้งให้ รปภ.ล็อกตัวไว้ก่อนแจ้งตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดี
ต่อมา นางจินตนา วรวงศ์ประเสริฐ อายุ 48 ปี ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการขายต่างประเทศสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ ซึ่งเป็นเจ้าของบัตรตัวจริง ได้เดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ตนเคยขับรถยนต์ส่วนตัวไปเที่ยวที่ จ.นครราชสีมา แล้วเกิดอุบัติเหตุไปชนกับก้อนหินโดยไม่มีคู่กรณี เมื่อเดินทางกลับมาถึง กทม.ก็ต้องไปทำงานต่างประเทศต่อ เลยไหว้วานให้เพื่อนสนิท ติดต่ออู่ซ่อมรถให้ เนื่องจากรถตนทำประกันชั้น 1 เอาไว้ โดยตนได้ถ่ายสำเนาบัตรประชาชน สำเนาใบขับขี่ และเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดไว้ให้เพื่อนดำเนินการ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่อู่ มารับรถที่บ้านไปซ่อมนานประมาณ 1 อาทิตย์
“พอช่างซ่อมเสร็จ คนของอู่ก็ขับรถมาส่งคืนให้ที่บ้านพักตามปกติ พอดิฉันเดินทางกลับมาจากต่างประเทศก็ไม่รู้เลย ว่า มีใครเอาเอกสารของดิฉันไปทำอะไรบ้าง จนกระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่แบงก์ติดต่อมาว่า มีคนเอาบัตรประชาชนปลอมชื่อฉันมาใช้เปิดบัญชี เลยรีบเดินทางมาโรงพักทันที ซึ่งดิฉันตนเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้ไม่น่าจะกล้าเสี่ยงปลอมบัตรประชาชนและใบอนุญาตขับขี่ของลูกค้า เพื่อต้องการแค่รับเงินโอนจากบริษัทประกันเท่านั้นแน่นอน เพราะฟังดูแล้วไม่สมเหตุสมผลได้เงินไม่คุ้มเสีย เลยอยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างกว่านี้ด้วย” นางจินตนา กล่าว
ขณะที่ พ.ต.ท.อนุรักษ์ ประดับมุข รอง ผกก.ปป.สน.นางเลิ้ง เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ น.ส.ดาวไสว มากนัก เพราะคาดว่าน่าจะมีผู้ต้องหาที่ทำกันเป็นขบวนการอยู่เบื้องหลังอีกหลายคน จึงได้ควบคุมตัว น.ส.ดาวไสว ไปตรวจค้นที่บ้านพัก ก่อนนำกลับมาสอบเค้นเพื่อหาความจริง แล้วดำเนินการส่งตัวให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป