ผบ.ตร.ยอมรับการข่าวภาคใต้มีช่องโหว่ให้คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ สั่งพิจารณาปรับปรุง พร้อมระบุกลุ่มโรฮิงยามีความเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธและการก่อเหตุในพื้นที่น้อยมาก
วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จับกุม นายมะฮัมหมัด อาลี ฮุสเซ็น ซึ่งเป็นนายหน้าค้าอาวุธสงคราม โดยพบเอกสารโยงใยอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ว่า เท่าที่ลงไปดูงานด้านการข่าวในพื้นที่ก็ยังพบว่ามีช่องโหว่ให้คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ จึงต้องมีการพิจารณาปรับปรุงด้านการข่าว เน้นการข่าว เพราะที่ผ่านมาเน้นการปฏิบัติงานในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ดีเอสไอจับตากลุ่มโรฮิงยาว่ามีความเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธและการก่อเหตุ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า โรฮิงยาเกี่ยวข้องน้อยมากจากรายงานทางการข่าว ต้องหาพยานหลักฐานมายืนยันเพราะสำคัญที่สุด
ส่วนข้อสันนิษฐานที่ว่าสถานการณ์ไฟใต้ที่ดูจะมีความรุนแรงและความถี่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีกลุ่มเจไอเข้ามาร่วมด้วยนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เท่าที่ลงไปดูเป็นเรื่องภายในของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นประเด็นการขัดแย้งในพื้นที่ อาจเป็นเรื่องของผู้ก่อความไม่สงบอยากยกระดับสู่สากล และอีกปัญหาคือยาเสพติดที่สำคัญ ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาตร์ผลการตรวจออกมาอาจเกี่ยวโยงกันตรงนี้ต้องติดตาม
เมื่อซักว่าหากเป็นเช่นที่กล่าว แสดงว่ายาเสพติดอาจมีขบวนการขนย้าย หรือใช้ยาเสพติด พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เหตุทางที่เกิดอาจเกี่ยวกับยาเสพติด เรามองได้ว่าเมื่อเกิดเหตุวุ่นวายการดำเนินการเรื่องยาเสพติดจะสะดวกสบายมากขึ้น ประเด็นนี้เราไม่ทิ้ง