ที่ประชุม กคพ.รับคดีบุกรุกที่ดินราชพัสดุ อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี กว่า 6,000 ไร่ คดีปลอมแปลงหนังสือเดินทาง และคดีก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นคดีพิเศษ ส่วนการเลี่ยงภาษี ของซานติก้าผับไม่จำเป็น เพราะเข้าข่ายอำนาจสอบสวนของดีเอสไออยู่แล้ว
วันนี้ (3 เม.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ แทน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมมีมติรับโอนคดีบุกรุกพื้นที่ราชพัสดุ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เนื้อที่กว่า 6,000 ไร่ เป็นคดีพิเศษ หลังจากนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอไปสืบสวนเชิงลึก เนื่องจากทหารไม่มีอำนาจจับกุมตามกฎหมาย ส่วนคดีปลอมแปลงหนังสือเดินทาง ซึ่งผู้ต้องสงสัยเป็นเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ โดยในคดีดังกล่าว ได้รับเรื่องร้องเรียนจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในประเทศแถบยุโรป ซึ่งได้แจ้งเบาะแสมายังดีเอสไอว่า ประเทศไทยถูกใช้เป็นแหล่งปลอมแปลงหนังสือเดินทางให้กับกลุ่มก่อการร้ายต่างประเทศ จากการสอบสวนเบื้องต้น พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยเป็นชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องรับโอนเป็นคดีพิเศษ เพื่อตัดวงจรก่อการร้ายข้ามชาติ ที่เข้ามาสวมหนังสือเดินทางในไทย และคดีก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ เช่น เหตุระเบิดโรงแรม ซีเอส จ.ปัตตานี ที่ประชุมก็รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากการสืบสวนเชิงลึกพบข้อมูลโยงใยถึงกลุ่มก่อการร้าย ส่วนการหลบเลี่ยงภาษี กรณีซานติก้าผับ นั้น ไม่จำเป็นต้องขอมติจากบอร์ด กคพ.เพื่อรับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจสอบสวนของดีเอสไอ จึงสามารถสอบสวนดำเนินคดีได้ทันที
รายงานข่าวเปิดเผยว่า การประชุมบอร์ดคดีพิเศษครั้งนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายพีระพันธุ์ เป็นประธานการประชุมแทน โดยอ้างว่าติดภารกิจต้องเดินทางไปรับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งกลับจากประเทศอังกฤษ ทำให้ที่ประชุมรับโอนคดีบุกรุกที่ดินราชพัสดุ เนื้อที่กว่า 6,000 ไร่ ราคาประเมิน 3,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นพื้นที่ความมั่นคงที่อยู่ติดกับชายแดนไทย-พม่า โดยทหารส่งผู้แทนมาเข้าให้ข้อมูล เนื่องจากการประชุมครั้งที่ผ่านมาบอร์ดมีมติไม่รับเป็นคดีพิเศษ จนในที่สุดบอร์ดคดีพิเศษมีมติรับโอนคดีมาอยู่ในอำนาจสอบสวนของดีเอสไอ
