xs
xsm
sm
md
lg

มีดปักอก “ทอมบอย” ดับปริศนา! ฆ่าตัวเอง-ฆาตกรรม?

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ทอมบอยถูกมีดปอกผลไม้ปักกลางอก 1 แผล ดับปริศนา ทั้งพ่อและแฟนไม่เชื่อจะเป็นการฆ่าตัวตาย ด้วยไม่มีเหตุที่จะทำให้เครียดหรือปัญหาใดๆ ขณะที่ตำรวจมั่นใจในทฤษฎีน่าจะเป็นการฆ่าตัวตายมากกว่า แต่ต้องรอสอบพยานต่างๆ อย่างรอบคอบอีกครั้ง

วันนี้ (11 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสิรินธร แจ้ง พ.ต.ท.สมไช อนิวัตกูลชัย พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.อุดมสุข ว่ามีหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล จากการตรวจสอบทราบผู้ตายชื่อ น.ส.สุปราณี คชเผือก อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 38 แยก 1 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. สภาพศพถูกแทงด้วยอาวุธมีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 1 คืบ เข้าที่หน้าอกจำนวน 1 แผล

ต่อมา พ.ต.ท.สมไช เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุที่บ้านเลขที่ 6 ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 38 แยก 1 ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ของผู้ตาย โดยบริเวณชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ภายในบ้านบริเวณม้านั่งหินอ่อนพบกองเลือด และมีดปอกผลไม้ 1 เล่มยาวประมาณ 1 คืบเปื้อนเลือดตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นายสมบัติ คชเผือก อายุ 58 ปี บิดาของผู้ตายให้การว่า ผู้ตายมีลักษณะเป็นทอมบอย ทำงานที่บริษัท อีเอ็มซี จำกัด(มหาชน) เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างประเภทคอนโดมิเนียม มีตำแหน่งเป็นพนักงานสโตร์ โดยผู้ตายพักอยู่บ้านหลังดังกล่าวกับแฟนสาวชื่อ น.ส.ระเบียบ กุลธนรัตน์ อายุ 40 ปี ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกัน

“ลูกผมคบหากับ น.ส.ระเบียบมาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว ไม่ค่อยได้มีปัญหาอะไร แต่มีช่วงหนึ่งลูกผมไปมีแฟนใหม่ ทราบชื่อนางแอร์ หรือนางประภาศรี (ไม่ทราบนามสกุล) ได้คบหากันอยู่พักหนึ่ง แต่ต่อมาลูกผมก็หวนกลับมาอยู่กับ น.ส.ระเบียบอีกครั้ง เท่าที่ผมรู้เมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา นางแอร์ได้ขอให้ลูกผมช่วยรับผิดชอบค่าเช่าบ้านเป็นเงิน 6,000 กว่าบาท ซึ่งทั้งลูกผมและน.ส.ระเบียบ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร” นายสมบัติกล่าว

นายสมบัติกล่าวอีกว่า สำหรับนางแอร์ มักจะไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านตัวเองและบ้านของลูกสาวตน สำหรับการเสียชีวิตครั้งนี้ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าจากการสอบสวนเป็นการฆ่าตัวตายเอง

“ผมไม่เชื่อว่าเขาจะฆ่าตัวตายเอง เพราะลูกสาวไม่ได้แสดงท่าทีว่ามีความเครียด หรือมีการทะเลาะเบาะแว้งกับใครแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน เท่าที่ผมไปดูศพลูกสาวพบว่าบริเวณใบหน้า ลำคอ ริมฝีปาก มีร่องรอยการถูกทำร้าย แผลแตก ฟกช้ำ” นายสมบัติกล่าว

ด้าน น.ส.ระเบียบ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุทำงานอยู่กับผู้ตายที่บริษัท เดิมจะต้องเลิกงานในเวลา 20.00 น.ของวันที่ 10 มิ.ย. แต่ได้ชวนกันทำโอทีจนถึงรุ่งเช้าก่อนเกิดเหตุ เท่าที่อยู่ด้วยกันไม่ได้สังเกตว่าผู้ตายมีอารมณ์เครียดแต่อย่างใด ขณะที่ทำงานด้วยตอนประมาณ 04.00 น. ผู้ตายได้บอกว่าจะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะตอนเช้าต้องไปคุมสโตร์ปูน ก่อนที่จะหายเงียบไป ต่อมาตนก็ได้รับโทรศัพท์ว่าผู้ตายถูกแทงเสียชีวิตแล้ว

“ตอนแรกแทบไม่อยากจะเชื่อ แต่เมื่อเดินทางไปโรงพยาบาล เห็นศพก็ถึงกับเข่าอ่อน ไม่เชื่อว่าจะจากไปเร็วขนาดนี้ ฉันรักผู้ตายมาก เพราะว่าผู้ตายเป็นคนดี ขยันทำมาหากิน เลี้ยงครอบครัว ห่วงพ่อของตัวเอง ไม่เชื่อว่าผู้ตายจะฆ่าตัวตายเอง น่าจะถูกทำร้ายมากกว่า” น.ส.ระเบียบกล่าว

น.ส.ระเบียบกล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับชาวบ้านใกล้เคียงบ้านเกิดเหตุบอกว่า ก่อนเกิดเหตุแฟนใหม่ของผู้ตายพร้อมเพื่อนชายและหญิงได้มาหาที่บ้าน และยังเห็นว่าเพื่อนผู้ชายของแฟนใหม่ผู้ตายได้เกิดทะเลาะชกต่อยกับผู้ตายตอนเช้ามืดก่อนที่จะเสียชีวิต จากนั้นก็ยังมีคนเห็นว่าผู้ตายถูกแทงบาดเจ็บโดยนางแอร์พร้อมพวกได้ช่วยกันพยุงผู้ตายส่งโรงพยาบาล

ด้าน พ.ต.ท.สมไช กล่าวว่า จากการสอบพยานหลายปาก ทั้งแฟนผู้ตายทั้งสองคนมีแนวทางเชื่อว่าผู้ตายน่าจะฆ่าตัวตายเอง จากการสอบถามนางแอที่อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่า ช่วงเช้ามืดตอนที่ทำธุระอยู่ในห้องน้ำ ได้ยินเสียงดังที่ประตูภายในบ้านจึงได้เปิดประตูออกมาดู เห็นผู้ตายล้มฟุบอยู่บริเวณหน้าหินอ่อนภายในบ้านจึงได้ช่วยพยุงขึ้นรถ พบเลือดไหลออกบริเวณหน้าอกและมีดหล่นอยู่ใกล้กัน จึงได้เรียกเพื่อน 2 คนพากันนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนบาดแผลที่ริมฝีปากเกิดจากชกต่อยกันก่อนหน้านี้ซึ่งปรับความเข้าใจกันแล้ว

พ.ต.ท.สมไช กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องสอบพยานทุกปากให้แน่ชัดเสียก่อนว่าเกิดจากอะไร รวมถึงการเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุของกองพิสูจน์หลักฐาน เท่าที่สอบปากคำนางแอที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่าผู้ตายเป็นฝ่ายง้อขอคืนดี ตามหลักการและเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่แล้วฝ่ายที่ตามไปง้อน่าจะเป็นคนฆ่าคนที่ถูกง้อมากกว่า แต่ในกรณีนี้ผู้ตายเป็นฝ่ายไปง้อนางแอร์ถ้าเกิดไม่พอใจเกิดความแค้น น่าจะเป็นคนลงมือฆ่านางแอร์มากกว่า ขณะเดียวกัน ถ้าเกิดว่าฝ่ายนางแอกับพวกลงมือทำร้ายร่างกายผู้ตายจริง ก็น่าจะหลบหนีไปตั้งตัว แต่ทางกลับกัน นางแอร์กับพวกช่วยกันนำร่างผู้ตายรีบไปส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ไม่ได้หลบหนีไปไหน จึงมีมูลเหตุเชื่อว่าน่าจะฆ่าตัวตายเอง อย่างไรก็ตามยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การอย่างหนึ่งอย่างใด ต้องรอหลักฐานที่แน่ชัด
กำลังโหลดความคิดเห็น