จำคุก 27 ปี 6 เดือน ปรับ 1 ล้าน 3 แสน 5 หมื่นบาท “จ.ส.ต.” อดีตตำรวจ สน.พญาไท ทั้งเสพทั้งขายยาอี-ยาไอซ์ แฟนสาวโดน 8 ปี 3 เดือน ปรับ 7 แสนบาท
วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อย.1568/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด เป็นโจทก์ฟ้อง จ.ส.ต.ครรชิต ใจสมุทร อายุ 36 ปี อดีต ผบ.หมู่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.พญาไท และน.ส.อารียา หรือไอซ์ พรหมไชยานนท์ อายุ 35 ปี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้ประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย, ร่วมกันเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นข้าราชการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 และริบของกลาง
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.51 จำเลยที่ 1 เป็นข้าราชการตำรวจ สน.พญาไท เคยช่วยราชการปราบปรามยาเสพติดของกองบัญชาการตำรวจนครบาล 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 แฟนสาว กระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน เมื่อจำเลยทั้งสองได้เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยมีเมทแอมเฟตามีน ยาไอซ์ชนิดเกล็ดใส จำนวน 3 ซอง น้ำหนักสุทธิ 1.680 กรัม และมียาอีจำนวน 25 เม็ด น้ำหนัก 6.810 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน ล่อซื้อยาไอซ์ จำนวน 4 กรัม จากจำเลยที่ 2 ในราคา 15,000 บาท จับกุมได้ที่ ลานจอดรถอาคารวัฒนาแมนชั่น ซอยรัชดาภิเษก 17 ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. ก่อนขยายผลเข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 922 ของอาคารดังกล่าว พบจำเลยที่ 1 ภายในห้อง พบยาอีในกระเป๋าของจำเลยที่ 1 จำนวน 25 เม็ด พร้อมของกลางปืนพกออโตแมติก (CZ) ขนาด .25 และเครื่องกระสุนปืน 7 นัด ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนไว้ในครอบครอง และเครื่องชั่งยาเสพติด 1 เครื่อง
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีเจ้าพนักงานที่ทำหน้าที่จับกุมเบิกความเป็นลำดับขั้นตอนถึงการจับกุม ที่จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธนั้นไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ได้ ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้อง ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องได้รับโทษเป็น 3 เท่าต่อความผิดนั้น
พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานเสพยาเพสติดให้โทษประเภทที่ 1 ลงโทษจำคุก 6 เดือน ฐานมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ลงโทษจำคุก 24 ปี ปรับ 1,350,000 บาท ฐานมีปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนไว้ในครอบครอง จำคุก 2 ปี ฐานพกพาปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 27 ปี 6 เดือน ปรับ 1,350,000 บาท
ส่วนจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ลงโทษจำคุก 6 เดือน ฐานมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ลงโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 4 แสนบาท ฐานพยายามจำหน่ายยาเสพติดจำคุก 5 ปี ปรับ 4 แสนบาท จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในความผิดฐานเสพยาเสพติด ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 เดือน การนำสืบของจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานมีเสพติดในครอบครองเพื่อจำหน่ายมีประโยชน์อยู่บ้าง เห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสี่ จำคุก 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท รวมลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 8 ปี 3 เดือน ปรับ 7 แสนบาท
วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อย.1568/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด เป็นโจทก์ฟ้อง จ.ส.ต.ครรชิต ใจสมุทร อายุ 36 ปี อดีต ผบ.หมู่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.พญาไท และน.ส.อารียา หรือไอซ์ พรหมไชยานนท์ อายุ 35 ปี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้ประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย, ร่วมกันเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นข้าราชการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 และริบของกลาง
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.51 จำเลยที่ 1 เป็นข้าราชการตำรวจ สน.พญาไท เคยช่วยราชการปราบปรามยาเสพติดของกองบัญชาการตำรวจนครบาล 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 แฟนสาว กระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน เมื่อจำเลยทั้งสองได้เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยมีเมทแอมเฟตามีน ยาไอซ์ชนิดเกล็ดใส จำนวน 3 ซอง น้ำหนักสุทธิ 1.680 กรัม และมียาอีจำนวน 25 เม็ด น้ำหนัก 6.810 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน ล่อซื้อยาไอซ์ จำนวน 4 กรัม จากจำเลยที่ 2 ในราคา 15,000 บาท จับกุมได้ที่ ลานจอดรถอาคารวัฒนาแมนชั่น ซอยรัชดาภิเษก 17 ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. ก่อนขยายผลเข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 922 ของอาคารดังกล่าว พบจำเลยที่ 1 ภายในห้อง พบยาอีในกระเป๋าของจำเลยที่ 1 จำนวน 25 เม็ด พร้อมของกลางปืนพกออโตแมติก (CZ) ขนาด .25 และเครื่องกระสุนปืน 7 นัด ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนไว้ในครอบครอง และเครื่องชั่งยาเสพติด 1 เครื่อง
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีเจ้าพนักงานที่ทำหน้าที่จับกุมเบิกความเป็นลำดับขั้นตอนถึงการจับกุม ที่จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธนั้นไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ได้ ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้อง ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องได้รับโทษเป็น 3 เท่าต่อความผิดนั้น
พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานเสพยาเพสติดให้โทษประเภทที่ 1 ลงโทษจำคุก 6 เดือน ฐานมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ลงโทษจำคุก 24 ปี ปรับ 1,350,000 บาท ฐานมีปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนไว้ในครอบครอง จำคุก 2 ปี ฐานพกพาปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 27 ปี 6 เดือน ปรับ 1,350,000 บาท
ส่วนจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ลงโทษจำคุก 6 เดือน ฐานมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ลงโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 4 แสนบาท ฐานพยายามจำหน่ายยาเสพติดจำคุก 5 ปี ปรับ 4 แสนบาท จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในความผิดฐานเสพยาเสพติด ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 เดือน การนำสืบของจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานมีเสพติดในครอบครองเพื่อจำหน่ายมีประโยชน์อยู่บ้าง เห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสี่ จำคุก 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท รวมลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 8 ปี 3 เดือน ปรับ 7 แสนบาท