สืบพยานปากสุดท้าย คดี “วิคเตอร์ บูท” อดีตเคจีบี ค้าอาวุธสงครามระดับโลก โดยศาลไต่สวน อธิบดีสนธิสัญญาฯ กระทรวงต่างประเทศ เรื่องอนุสัญญาภาคีผู้ร้ายข้ามแดนสหรัฐฯ ก่อนนัดฟังคำพิพากษาส่งตัวหรือไม่ 11 ส.ค.นี้
วันนี้ (19 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลสืบพยานนัดสุดท้ายคดีหมายเลขดำที่ อผ.3/2551 ที่อัยการฝ่ายต่างประเทศ เป็นโจทก์ ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2551 ขอส่งตัว นายวิคเตอร์ อนาโตลเจวิช บูท (Viktor Bout) หรือบอริส (Boris) หรือ วิคเตอร์ บัท (Viktor But หรือ Viktor Budd) หรือ วิคเตอร์ บูลาคิน (Viktor Bulakin) หรือวาดิม มาโควิช อมินอฟ (Vadim Markovich Aminov) สัญชาติรัสเซีย อดีตเคจีบี ผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามระดับโลก เป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ข้อหาร่วมสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าผู้อื่นเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา, ร่วมสมรู้ร่วมคิดในการจัดหาและใช้อาวุธสงครามต่อต้านอากาศยาน และร่วมสมรู้ร่วมคิดในการสนับสนุนอย่างมีสาระสำคัญให้กับองค์การก่อการร้ายต่างประเทศ ซึ่งละเมิดกฎหมายสหรัฐอเมริกา และเป็นความผิดที่มีโทษเทียบตามกฎหมายไทย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1-3 โดยกำหนดโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปี และคดียังไม่ขาดอายุความตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งไม่ใช่ความผิดทางการเมือง หรือเป็นความผิดทางทหารโดยเฉพาะ ตามบทบัญญัติ พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 และสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา
โดยวันนี้ ศาลได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 เรียกพยานมาสอบถามเพิ่มเติม โดยเรียก นายวีรชัย พลาศรัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ มาสอบถามเกี่ยวกับ การรับคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนและภาระผูกพันการปฏิบัติตามอนุสัญญาภาคีต่างประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในการสืบพยานวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ศาลได้เรียก นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ มาเป็นพยานเพื่อสอบถามเกี่ยวกับข้อกฎหมายอนุสัญญาภาคีต่างประเทศ มาสอบถามเพิ่มเติมไปแล้ว
ภายหลังศาล ซักถามประเด็นจาก นายวีรชัย เสร็จสิ้นแล้วนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 11 ส.ค.นี้ เวลา 13.30 น.โดยให้คู่ความยื่นคำแถลงปิดคดีส่งต่อศาลภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ นายวิคเตอร์ บูท ผู้ต้องหา ให้การสู้คดียืนยันว่า ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย แต่พยานเป็นนักธุรกิจ ซึ่งเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2551 หลังจากทราบว่ารัฐบาลไทยสนใจจะซื้อเรือดำน้ำรัสเซีย จึงหาช่องทางเพื่อเป็นตัวแทนขายเรือดำน้ำกับรัฐบาลไทย ซึ่งข้อกล่าวหาที่ประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้ต้องหาเข้าไปประเทศโคลัมเบีย เพื่อพบกับตัวแทนกลุ่ม FARC ขบวนการติดอาวุธ เพื่อเจรจาให้การสนับสนุนเรื่องอาวุธ นั้นไม่เป็นความจริงและไม่เคยมีการเจรจาอะไรใดๆ ทั้งสิ้น เพราะผู้ต้องหาไม่เคยเดินทางไปประเทศโคลอมเบีย รวมทั้งสหรัฐฯ ด้วย
อย่างไรก็ดี หากศาลมีคำพิพากษาว่า จะส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท กลับไปยังประเทศสหรัฐฯ ตามคำร้องขอหรือไม่แล้ว หากคู่ความไม่เห็นด้วย ก็สามารถใช้สิทธิ์ตามกฎหมายยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ซึ่งหากศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาออกมาอย่างใดแล้วให้ถือว่าเป็นที่สุดโดยให้รัฐบาลไทยพิจารณาส่งผู้ต้องหานั้นไปยังประเทศผู้ร้องขอภายใน 90 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง ทั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติ พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนฯ มาตรา 21-22
