xs
xsm
sm
md
lg

“ไอ้ตู่” ขนแดงเถื่อน! จัดฉากมอบตัวช่วงสมัยประชุมสภา - สามหาวด่าสื่อออกข่าวโง่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แดงเถื่อนโผล่ให้กำลังใจ
“ตุ๊ดตู่” โผล่มอบตัวรับทราบ 3 ข้อหา ตร.ปล่อยตัวไม่ต้องประกัน เหตุอยู่สมัยประชุมสภา เจ้าตัวยังปากดีไม่เคยใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. ด่าสื่อออกข่าวโง่ คุยใช้สิทธิพลเมืองไทยจะเดินหน้าต่อสู้ในทุกขั้นตอนเพื่อพิสูจน์ความจริง ด้าน “อำนวย” ระบุ เหลือ “แม้ว-เพ็ญ” ยังไม่มอบตัว ออกตัว ทำคดีเสื้อแดงเร็ว เพราะถูกจำกัดเวลาในการฝากขัง

วันนี้ (18 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนว่า นายจตุพรจะเดินทางมามอบตัว ส่วนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อหาและปล่อยตัวไป และจะมีการนัดหมายอีกครั้งเมื่อหมดสมัยประชุมสภา คาดว่าจะเป็นวันที่ 25 พ.ค. เพราะพนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปสำนวนให้เรียบร้อย แต่อย่าไปตีเป็นประเด็นว่าทำสำนวนเสื้อแดง เร็วกว่าเสื้อเหลือง เพราะกลุ่มคนเสื้อแดง ฝากขังอยู่ในอำนาจศาลและขออำนาจศาลฝากขังได้เพียง 48 วัน 4 ผลัด ขณะนี้ฝากขังไปแล้ว 3 ผลัด เพราะฉะนั้น พนักงานสอบสวนต้องเร่งสรุปสำนวนให้ทันสั่งฟ้องใน 48 วัน เช่น นายวีระ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อย่าคิดว่าพนักงานสอบสวนทำเร็วฟ้องเร็ว แต่เพราะถูกกำหนดด้วยระยะเวลาในการฝากขัง

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาที่เหลือได้มีการเข้ามอบตัวเกือบหมดแล้ว จะเหลือเพียง พ.ต.ท.ทักษิณ ชิณวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายจักรภพ เพ็ญแข เท่านั้น และยังไม่มีการติดต่อขอมอบตัวแต่อย่างใด

พล.ต.ต.อำนวย ยังกล่าวถึงกรณีที่แกนนำ นปช.พูดบนเวทีว่าจะมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่วโทษ ดำเนินคดีต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในข้อหาฉกรรจ์ว่าสั่งฆ่าประชาชน ตนขอฝากไว้เลยว่าในการที่จะกล่าวโทษใครต้องมีมูล ฝนตกยังต้องตั้งเค้า ในการที่จะกล่าวหาใครนั้นต้องมีหลักฐานพอสมควรในการที่จะกล่าวหาว่าเขาทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ไม่ใช่ว่ามากล่าวหาให้เสียหาย มากล่าวหาให้เสียชื่อแล้วกลับไป อันนี้ตนไม่ได้ว่านายจตุพร แต่เป็นการพูดตามหลักการ คนที่มีวุฒิภาวะ ต้องตระหนักให้มากด้วย

“ผมขอถามว่า จะกล่าวหาเนี่ย จะกล่าวหาในฐานะอะไร คือจะกล่าวหานายกฯ ในการส่วนตัวว่านายกฯ สั่งฆ่าคน หรือว่ากล่าวหานายกฯ โดยตำแหน่งนายกฯ สั่งฆ่าประชาชน ถ้ากล่าวหาในตำแหน่งนายกฯ ก็จะเป็นความผิดมาตรา 157 รวมอยู่ด้วย ต้องดำเนินการส่ง ป.ป.ช.ชี้มูล แต่หากแจ้งว่านายกฯสั่งฆ่าคน นายกฯ ไปเกลียดใครตรงไหน ต้องตอบคำถามให้ได้ด้วยว่านายอภิสิทธิ์มีเหตุโกรธเคืองกับใครตรงไหน นายสุเทพมีเหตุโกรธเคืองกับใครตรงไหนถึงได้ไปสั่งฆ่า ต้องตอบคำถามผมให้ได้ ซึ่งการกล่าวหาคนถือเป็นประเด็นใหญ่ ต้องมีหลักฐานพอสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 114 ไม่ใช่มากล่าวหาลอยๆ เพื่อทำให้เสียชื่อแล้วก็กลับไป ก่อนกล่าวหาก็จะคุยกันก่อนว่ามีหลักฐานอะไรบ้าง” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ บช.น.มีหนังสือให้แกนนำบางคนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า เนื่องจากกรณีที่คดีอยู่ระหว่างการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว แกนนำบางคนขึ้นเวทีซึ่งผิดเล็กน้อย แต่จะนัดมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 19 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

ผู้สื่อ่าวถามอีกว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรีอยู่หรือไม่อยู่ในรถนั้นจะมีผลต่อคดีหรือไม่ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า จะขอถามกลับว่า ถึงนายกฯ จะไม่อยู่ในรถ คุณมีสิทธิ์จะไปทุบรถเข้าหรือไม่ ขอยกตัวอย่าง หากจะฆ่าคนสักคนแล้วยิงเข้าไปใส่รถคันนั้น แต่บังเอิญคนคนนั้นไม่อยู่ในรถ นั่นก็ถือเป็นความผิด เพราะพยายามฆ่า แต่คนนั้นก็ไม่ตายก็เข้าข่ายพยายามฆ่า รถคันนั้นก็มีคนขับ เข้าไปฆ่านายกฯ ไม่ได้ แต่คนขับก็อยู่ เท่ากับพยายามฆ่า เพราะเล็งเห็นผล เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องมาถกเถียงกันเลย เพราะถ้านายกฯ ไม่อยู่ คุณจะไปทุบรถเขาได้หรือ อยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่ใช่ความชอบธรรมที่จะไปทุบทำลายรถเท่านั้นเอง ไม่ทราบจะเถียงกันทำไม

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวอีกว่า กรณีการบุกกระทรวงมหาดไทยนั้น คาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม ส่วนตั้งแต่วันที่ 15-17 พ.ค. ที่ผ่านมาที่มีการขึ้นเวทีปราศรัยและชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ขณะนี้ได้สั่งการให้พื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด ถอดเทปที่บันทึกไว้ โดยเฉพาะบุคคลหรือแกนนำที่มีการปล่อยตัวชั่วคราวโดยมีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ ห้ามออกนอกประเทศ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองยุยงหรือปลุกระดม และห้ามยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินการทางคดีของพนักงานสอบสวนนั้นจะถูกตรวจสอบโดยละเอียด หากเข้าข่ายก็จะเสนอศาลเพื่อพิจารณา หากศาลพิจาราณาว่าเป็นจริงก็จะถอนประกันและควบคุมตัวเข้าเรือนจำต่อไป

ขณะเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เพื่อเข้ามอบตัวตามหมายจับ 3 ข้อหามีความผิดตามมาตรา 215 ระบุว่าผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดคนใดมีอาวุธผู้ที่กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ม.116 ในข้อหากระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินและความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

นายจตุพรกล่าวก่อนที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า เอกสิทธิ์เป็นเรื่องของผู้ดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือว่าศาลถ้าประสงค์จะดำเนินคดีกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในระหว่างสมัยประชุมจะต้องทำเรื่องถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานสภาจะต้องบรรจุวาระเข้าที่ประชุม และเป็นมติที่ประชุมเพราะฉะนั้นคนถูกดำเนินคดีนั้น ไม่มีสิทธิ์จะไปร้องขออะไร ตนจึงอยู่เฉยๆ

นายจตุพรกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ใช้เอกสิทธิ์บรรจุวาระ เพราะดูแล้วไม่มีทางที่วาระจะถึง เพราะความจริงแล้วนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายอลงกรณ์ พลบุตร และอีกหลายคนของพรรคประชาธิปัตย์เอง มาตรานี้ก็คุ้มครองโดยอัตโนมัติ ผู้ดำเนินคดียื่นไปประธานสภาก็ไม่ยอมบรรจุวาระเพียงแค่ฟังคำตัดสินของศาลในวันที่ 27 เม.ย.คดีของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ฟ้องแค่ศาลนัดให้ไปฟังคำตัดสินถ้าไม่นำเรื่องขออนุมัติในที่ประชุมก็ไม่สามารถตัดสินได้นี้เป็นรัฐธรรมนูญมาตรา 131

“เพราะฉะนั้นถามว่าคนถูกดำเนินคดีจะทำอย่างไรก็อยู่เฉยๆ ที่ผ่านมาไม่เคยใช้เอกสิทธิ์ เพียงแต่ว่าคนออกข่าวแสดงความโง่ออกมาเท่านั้นเอง” นายจตุพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าตำรวจจะไม่รับมอบตัวเพียงแต่แจ้งข้อหาแล้วปล่อยตัวไปเพราะยังมีเอกสิทธิ์คุ้มครองจะดำเนินการต่ออย่างไร นายจตุพรกล่าวว่า เนื่องจากในวันที่ 18 พ.ค.มีความประสงค์จะมอบตัวแต่มีประชุมสภา หากไม่รับมอบตัวก็สุดแท้แต่ถ้าจะเล่นเกมส์ก็เชิญ ประเด็นต่อไปที่น่าคิดก็คือเรื่องคดีจะออกเพิ่มเติมภายหลัง ณ วันนี้ต้องพูดตามความจริงว่าคดีของพันธมิตรฯ ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ กับสนามบินดอนเมืองก็โกหกแหกตาคนทั้งประเทศอยู่แล้วว่าจะมีการสั่งฟ้องตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมาปรากฏว่าดึงเรื่องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กว่าจะออกหมายจับได้สอบพยาน 200 ปาก แต่คนเสื้อแดงไม่ต้องสอบพยานสักปาก เพราะฉะนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร อยากจะทำอะไรก็เชิญ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะแจ้งความจับนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ หรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า ในกระบวนการพื้นฐานมีการแจ้งความดำเนินคดีกันไปกันมาเป็นเรื่องปกติ ก็ยังยืนยันว่าจะแจ้งความจับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ข้อสั่งฆ่าประชาชน กรณีที่พัทยาก็แจ้งความลักษณะนี้เหมือนกันทั้งหมด ต้องการให้เกิดความเท่าเทียมกัน ตนไม่ไหวหวั่นอะไร การต่อสู้ก็ยังเดินหน้าต่อไป สู้ตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน อัยการ และศาลหมายความว่าทุกขั้นตอนจะสู้กันหมดเพราะว่ามีหลายกรณีต้องพิสูจน์ รวมทั้งเรื่องที่นายกฯ ไม่ได้อยู่ในรถที่กระทรวงมหาดไทย ตนก็รู้อยู่แล้วหากพูดไม่จริงก็ต้องถูกดำเนินคดีหมิ่นประมาท จึงต้องตรวจสอบทุกขั้นตอนโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีเปลี่ยนรถ

“สาบานสาปแช่งกันตรงไหนก็ได้ กว่าคดีจะเริ่มขึ้นหรือพิสูจน์ภาพชัดๆ ทั้งหมดได้สอบถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์รวมทั้งข้อพิรุธการเปิดประตูรถ ยื่นของใส่ ถ้านายกรัฐมนตรีอยู่จริง ชุด รปภ.จะต้องถูกปลดหมด ใช้เวลาสลับรถ 1 นาที แหกตาคนทั้งประเทศ แต่นี่ไม่มีอะไร คนคุ้มกันรถก็รู้ว่าเป็นรถเปล่า มีเพียงแค่ รปภ. และรถกันกระสุน ทุบอย่างไรก็ไม่แปลก” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพรกล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับทราบข้อกล่าวหา มีการปล่อยตัวโดยไม่ต้องประกันตัว เพราะยังอยู่ในสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และนัดหมายการให้ปากคำเป็นเอกสารเพิ่มเติมในวันที่ 25 พ.ค. ขั้นตอนวันนี้มีเพียงเท่านี้ และจะต่อสู้คดีในทุกขั้นตอน เพื่อให้คดีในชั้นนี้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมจริงๆ เท่านั้นเองและจะใช้สิทธิพลเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา เหมือนกับคนไทยคนหนึ่ง และในเดือน มิ.ย. จะมีการนัดหมายเพื่อปรับทุกข์ โดยจะตั้งเวทีฝั่งวัดพระแก้ว เพื่อปรับทุกข์สถานการณ์บ้านเมืองอีกครั้ง คาดว่าจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาร่วมกันจนเต็มความจุท้องสนามหลวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายจตุพรเข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบวน มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คน เดินทางมาให้กำลังใจที่ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง และยังมีรถขยายเสียงโจมตีการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง กระทั่งนายจตุพรให้ปากคำพนักงวานสอบสวนเรียบร้อย และมาขึ้นเวทีปราศรัยและนัดแนะการนัดชุมนุมกันอีกครั้งก่อนที่จะสลายตัวกลับไป

หลวงพี่ก็มาด้วย






นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. เพื่อเข้ามอบตัวตามหมายจับ 3 ข้อหา
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย สีหน้ายิ้มแย้มหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา
กำลังโหลดความคิดเห็น