จับเพิ่มอีก 2 ร่วมขบวนการโหดฆ่ายกครัวเสี่ยเจ้าของเฟอร์นิเจอร์ 5 ศพ ให้การซัด “จ่าแดง” ผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนหน้านี้หลอกใช้จ้าง 1 แสน ไปอุ้มคน แฉนาทีปลิดชีพสุดโหด สารภาพไม่ได้ลงมือฆ่า รับเครียดนอนไม่หลับวิญญาณลูกผู้ตายคอยหลอกหลอน ตร.เชื่อคดีนี้เป็นการฆ่าล้างหนี้เพราะกลุ่มคนร้ายต้องการโฉนดที่ดิน เร่งสอบขยายผลหาผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุฆ่ายกครัว 5 ศพ คือ นายธนายศ ปทุมวาสนา อายุ 52 ปี เจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์และนักธุรกิจจัดสรรที่ดิน นางกนกกาญจน์ โพธิ์ทอง อายุ 48 ปี ภรรยานายธนายศ น.ส.ศศิมา ปทุมวาสนา หรือเกรท อายุ 17 ปี นายธนวัฒน์ ปทุมวาสนา หรือกอล์ฟ อายุ 15 ปี บุตรของนายธนายศ และนางสำรอง บัวแก้ว อายุ 47 ปี แม่บ้าน เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 5388 ซอยโพธิ์แก้ว 3 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ โดยตำรวจเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ได้มีการจับกุมนายวันชัย อ้นปันส์ หรือจ่าแดง และนายปริทรรศ นุ่มน้อย หรือกี หรือยี สองผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ เบื้องต้นนายปริทรรศให้การรับสารภาพว่าเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ ซึ่งทางชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ เนื่องจากคำให้การของนายปริทรรศนั้นขัดแย้งกับพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุหลายประเด็น โดยเชื่อว่าเป็นการจัดฉากเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นการสังหาร และคนร้ายก็น่าจะมีมากกว่า 2 คน
ความคืบหน้าคดีดังกล่าว วันนี้ (29 เม.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 17.30 น. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.ช่วยราชการ บก.ป.พ.ต.ท.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผกก. กก1 ป.พ.ต.ต.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน พ.ต.ต.อดิเรก จินตรานันนท์ สว.กก.1 และพ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายธรายุทธ หรือเจี๊ยบ แสนสุข อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/15 หมู่ 5 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. และนายอำนาจ หรือโอ๋ ภราดรพิทักษ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 3 ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1165 และ1166/2552 ลงวันที่ 29 เม.ย. 2552 ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธปืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยจับกุมนายธรายุทธได้ที่ภายในซอยเอกชัย 36 ส่วน นายอำนาจถูกอายัดตัวมาจากเรือนจำคลองเปรม เนื่องจากถูกจับกุมในคดีเสพยาเสพติดและอยู่ระหว่างเข้ารับการบำบัด
พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า สอบสวนนายธรายุทธให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ว่าคดีนี้มีนายปริทรรศที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเพราะบ้านอยู่ใกล้กันมาชักชวนให้ไปช่วยจับคน มีค่าจ้าง 1 แสนบาท จึงไปชวนนายอำนาจที่เคยขับรถจักรยานยนต์รับจ้างด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดได้เคยเข้าไปงัดบ้านหลังนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งจากการสอบสวนทราบด้วยว่าผู้ร่วมก่อเหตุก็ยังมีชายคนหนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะอยู่เบื้องหลัง เป็นผู้ขับรถเบนซ์ไม่ทราบสีและทะเบียนมารับไป แต่ทำงานไม่สำเร็จจึงกลับออกมาพร้อมกัน ทำให้น่าเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายกำลังต้องการหาอะไรบางอย่างจากผู้ตาย
พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวต่อว่า นายธรายุทธให้การว่า ตอนแรกนายปริทรรศบอกว่าจะให้ไปช่วยจับคนและเอาเพียงทรัพย์สินอย่างเดียวเท่านั้น ไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ ขณะเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งสองมีหน้าที่เพียงแค่ควบคุมตัวกลุ่มผู้ตายเท่านั้น จากคำให้การของผู้ต้องหาทำให้เชื่อว่าคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมอำพราง กลุ่มคนร้ายต้องการหาโฉนดที่ดินของผู้ตาย ซึ่งคาดว่าจะเป็นการฆ่าล้างหนี้ ซึ่งจะได้ทำการขยายผลว่ามีใครอยู่เบื้องหลังต่อไป
ด้าน นายธรายุทธ ผู้ต้องหาให้การว่า วันเกิดเหตุเมื่อพวกตนมาถึงบ้านของผู้เสียชีวิตแล้ว นายวันชัยได้ส่งตน นายปริทรรศ และนายอำนาจลงที่หลังบ้าน หลังจากนั้นนายปริทรรศเป็นคนปีน เข้าทางหลังบ้าน เมื่อเข้าไปแล้วก็สวมถุงมือ หมวกไหมพรม ก่อนเข้าไปที่ห้องของคนใช้ บังคับให้เข้าไปที่ห้องน้ำ และเชื่อว่านายปริทรรศน่าจะลงมือฆ่าสาวใช้รายนี้ ก่อนออกมานั่งรอเจ้าของบ้านอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อนายธนายศกับนางกนกกาญจน์ ภรรยา และลูกทั้งสองคนกลับเข้ามา พวกตนทั้งหมดก็ช่วยกันจับตัว ล็อกกุญแจมือเอาไว้แล้วนำมานั่งรอที่กลางบ้าน เสร็จแล้วนายปริทรรศนำตัวนายธนายศไปสอบเพื่อเค้นความลับอะไรบางอย่าง ก่อนจะได้ยินสียงปืนดังขึ้น 2 นัด เมื่อนายกีกลับออกมาก็รู้ว่าถูกนายธนายศใช้ของปาใส่ถูกจมูกจนแตกมีเลือดไหล ส่วนายธนายศไม่ทราบว่าไปไหน
นายธีรยุทธให้การต่อว่า หลังจากนั้นนายกีได้โทรศัพท์บอกให้นายวันชัยเข้ามาในบ้าน จากนั้นก็พานางกนกกาญจน์ไปหาตู้เซฟในบ้าน ได้ยินเสียงมีการทำร้ายร่างกายกันด้วย เมื่อพานางกนกกาญจน์หายไปแล้ว ทั้งนายวันชัย และปริทรรศ ได้กลับมาบอกกับตนว่าให้ฆ่าเด็กที่เหลือทุกคน พวกตนก็ได้พยายามห้ามแต่ไม่สำเร็จ ขณะนั้นนายอำนาจได้เข้าไปดื่มน้ำในห้องครัวเห็นศพนายธนายศถูกยิงเสียชีวิตแล้วจึงกลับมาเล่าให้ฟัง ทำให้ตนและนายอำนาจรู้สึกกลัวจึงได้ขอออกไปรอนอกบ้าน หลังเกิดเหตุแล้วได้ขับรถตู้ของผู้เสียชีวิตไปจอดทิ้งที่ย่านมหาชัย ส่วนนายวันชัยเป็นผู้นำคอมพิวเตอร์และซีพียูของผู้เสียชีวิตและมีผู้มารับตัวไป ส่วนคดีนี้จะมีใครเป็นผู้บงการนั้นพวกตนไม่ทราบ เพราะก็มาทราบเรื่องภายหลังเหมือนกันว่าจะเป็นการฆ่ายกครัวแบบนี้ โดยหลังเกิดเหตุนายกีได้บอกว่าให้พวกตนนำเสื้อผ้าไปเผาทำลาย หลังจากทราบข่าวว่ามีการจับกุมก็รู้แน่ว่าอย่างไรก็ถึงตัวแน่ จึงไม่คิดหลบหนีไปไหน ก่อนจะโดนจับกุมดังกล่าว
ส่วนนายอำนาจกล่าวว่า ตอนแรกนายธรายุทธมาชวนบอกว่าจ่าแดงจ้างคนละ 1 แสนบาทให้ไปอุ้มคน จึงตอบตกลง เมื่อไปถึงบ้านผู้ตายตนได้รับมอบหมายให้ควบคุมตัวเด็กทั้งสอง ขณะนั้นได้ยินจ่าแดงคุยโทรศัพท์เรื่องหาโฉนดที่ดิน โดยจ่าแดงและนายกีได้ลงมือรื้อค้นบ้านและหาอะไรบางอย่าง ระหว่างนั้น นายธนวัฒน์ ลูกชายนายธนายศบอกว่าหิวน้ำ ตนจึงเข้าไปในครัวเพื่อหยิบน้ำมาให้แต่ไปเห็นศพนายธนายศถูกยิงเสียชีวิต จึงถามจ่าแดงว่าทำอะไรกัน ตนไม่เอาแล้ว จากนั้นนำนม 2 กล่องไปให้บุตรของนายธนายศ แต่ไม่กล้าบอกว่าพ่อเขาถูกฆ่าตายแล้ว ซึ่งตนได้สัญญากับบุตรของนายธนายศว่าจะไม่ทำร้าย ต่อมาจ่าแดงบอกให้ตนกับนายธีรยุทธไปรอที่รถ จากนั้นมาทราบอีกทีว่าทั้งหมดถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว
“จ่าแดงให้เงินผมแค่ 3,200 บาท ทั้งๆ ที่ตกลงว่าจะให้ 1 แสน หลังเกิดเหตุผมเครียดมาก นอนไม่หลับเพราะลูกๆ ของนายธนายศมาหลอกหลอนจนหวาดผวา อยากขออโหสิกรรมต่อผู้ตายทั้งหมด เพราะผมไม่ได้ลงมือฆ่า ที่ตกเป็นผู้ต้องหาเพราะถูกจ่าแดงหลอกใช้” นายอำนาจ กล่าว
ภายหลังการสอบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนของ สน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีต่อไป
หลักฐานชัดรอยเท้าแท็กซี่ฆ่ายกครัว 5 ศพ - เมียร้องผัวถูก ตร.ซ้อม
คุม 2 แท็กซี่ฆ่ายกครัว 5 ศพฝากขัง-ร้องสื่อถูกซ้อมรับสารภาพ!
รวบ 2 แท็กซี่ฆาตกรใจโหดฆ่ายกครัว 5 ศพ
ตร.ตั้ง 5 ปมสังหาร แบ่งงานสางคดีฆ่ายกครัว 5 ศพ
สุดโหด !!! ฆ่ายกครัว 5 ศพ เจ้าของโรงงานเฟอนิเจอร์ขึ้นอืดคาบ้าน
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุฆ่ายกครัว 5 ศพ คือ นายธนายศ ปทุมวาสนา อายุ 52 ปี เจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์และนักธุรกิจจัดสรรที่ดิน นางกนกกาญจน์ โพธิ์ทอง อายุ 48 ปี ภรรยานายธนายศ น.ส.ศศิมา ปทุมวาสนา หรือเกรท อายุ 17 ปี นายธนวัฒน์ ปทุมวาสนา หรือกอล์ฟ อายุ 15 ปี บุตรของนายธนายศ และนางสำรอง บัวแก้ว อายุ 47 ปี แม่บ้าน เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 5388 ซอยโพธิ์แก้ว 3 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ โดยตำรวจเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ได้มีการจับกุมนายวันชัย อ้นปันส์ หรือจ่าแดง และนายปริทรรศ นุ่มน้อย หรือกี หรือยี สองผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ เบื้องต้นนายปริทรรศให้การรับสารภาพว่าเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ ซึ่งทางชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ เนื่องจากคำให้การของนายปริทรรศนั้นขัดแย้งกับพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุหลายประเด็น โดยเชื่อว่าเป็นการจัดฉากเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นการสังหาร และคนร้ายก็น่าจะมีมากกว่า 2 คน
ความคืบหน้าคดีดังกล่าว วันนี้ (29 เม.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 17.30 น. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.ช่วยราชการ บก.ป.พ.ต.ท.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผกก. กก1 ป.พ.ต.ต.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน พ.ต.ต.อดิเรก จินตรานันนท์ สว.กก.1 และพ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายธรายุทธ หรือเจี๊ยบ แสนสุข อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/15 หมู่ 5 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. และนายอำนาจ หรือโอ๋ ภราดรพิทักษ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 3 ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1165 และ1166/2552 ลงวันที่ 29 เม.ย. 2552 ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธปืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยจับกุมนายธรายุทธได้ที่ภายในซอยเอกชัย 36 ส่วน นายอำนาจถูกอายัดตัวมาจากเรือนจำคลองเปรม เนื่องจากถูกจับกุมในคดีเสพยาเสพติดและอยู่ระหว่างเข้ารับการบำบัด
พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า สอบสวนนายธรายุทธให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ว่าคดีนี้มีนายปริทรรศที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเพราะบ้านอยู่ใกล้กันมาชักชวนให้ไปช่วยจับคน มีค่าจ้าง 1 แสนบาท จึงไปชวนนายอำนาจที่เคยขับรถจักรยานยนต์รับจ้างด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดได้เคยเข้าไปงัดบ้านหลังนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งจากการสอบสวนทราบด้วยว่าผู้ร่วมก่อเหตุก็ยังมีชายคนหนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะอยู่เบื้องหลัง เป็นผู้ขับรถเบนซ์ไม่ทราบสีและทะเบียนมารับไป แต่ทำงานไม่สำเร็จจึงกลับออกมาพร้อมกัน ทำให้น่าเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายกำลังต้องการหาอะไรบางอย่างจากผู้ตาย
พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวต่อว่า นายธรายุทธให้การว่า ตอนแรกนายปริทรรศบอกว่าจะให้ไปช่วยจับคนและเอาเพียงทรัพย์สินอย่างเดียวเท่านั้น ไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ ขณะเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งสองมีหน้าที่เพียงแค่ควบคุมตัวกลุ่มผู้ตายเท่านั้น จากคำให้การของผู้ต้องหาทำให้เชื่อว่าคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมอำพราง กลุ่มคนร้ายต้องการหาโฉนดที่ดินของผู้ตาย ซึ่งคาดว่าจะเป็นการฆ่าล้างหนี้ ซึ่งจะได้ทำการขยายผลว่ามีใครอยู่เบื้องหลังต่อไป
ด้าน นายธรายุทธ ผู้ต้องหาให้การว่า วันเกิดเหตุเมื่อพวกตนมาถึงบ้านของผู้เสียชีวิตแล้ว นายวันชัยได้ส่งตน นายปริทรรศ และนายอำนาจลงที่หลังบ้าน หลังจากนั้นนายปริทรรศเป็นคนปีน เข้าทางหลังบ้าน เมื่อเข้าไปแล้วก็สวมถุงมือ หมวกไหมพรม ก่อนเข้าไปที่ห้องของคนใช้ บังคับให้เข้าไปที่ห้องน้ำ และเชื่อว่านายปริทรรศน่าจะลงมือฆ่าสาวใช้รายนี้ ก่อนออกมานั่งรอเจ้าของบ้านอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อนายธนายศกับนางกนกกาญจน์ ภรรยา และลูกทั้งสองคนกลับเข้ามา พวกตนทั้งหมดก็ช่วยกันจับตัว ล็อกกุญแจมือเอาไว้แล้วนำมานั่งรอที่กลางบ้าน เสร็จแล้วนายปริทรรศนำตัวนายธนายศไปสอบเพื่อเค้นความลับอะไรบางอย่าง ก่อนจะได้ยินสียงปืนดังขึ้น 2 นัด เมื่อนายกีกลับออกมาก็รู้ว่าถูกนายธนายศใช้ของปาใส่ถูกจมูกจนแตกมีเลือดไหล ส่วนายธนายศไม่ทราบว่าไปไหน
นายธีรยุทธให้การต่อว่า หลังจากนั้นนายกีได้โทรศัพท์บอกให้นายวันชัยเข้ามาในบ้าน จากนั้นก็พานางกนกกาญจน์ไปหาตู้เซฟในบ้าน ได้ยินเสียงมีการทำร้ายร่างกายกันด้วย เมื่อพานางกนกกาญจน์หายไปแล้ว ทั้งนายวันชัย และปริทรรศ ได้กลับมาบอกกับตนว่าให้ฆ่าเด็กที่เหลือทุกคน พวกตนก็ได้พยายามห้ามแต่ไม่สำเร็จ ขณะนั้นนายอำนาจได้เข้าไปดื่มน้ำในห้องครัวเห็นศพนายธนายศถูกยิงเสียชีวิตแล้วจึงกลับมาเล่าให้ฟัง ทำให้ตนและนายอำนาจรู้สึกกลัวจึงได้ขอออกไปรอนอกบ้าน หลังเกิดเหตุแล้วได้ขับรถตู้ของผู้เสียชีวิตไปจอดทิ้งที่ย่านมหาชัย ส่วนนายวันชัยเป็นผู้นำคอมพิวเตอร์และซีพียูของผู้เสียชีวิตและมีผู้มารับตัวไป ส่วนคดีนี้จะมีใครเป็นผู้บงการนั้นพวกตนไม่ทราบ เพราะก็มาทราบเรื่องภายหลังเหมือนกันว่าจะเป็นการฆ่ายกครัวแบบนี้ โดยหลังเกิดเหตุนายกีได้บอกว่าให้พวกตนนำเสื้อผ้าไปเผาทำลาย หลังจากทราบข่าวว่ามีการจับกุมก็รู้แน่ว่าอย่างไรก็ถึงตัวแน่ จึงไม่คิดหลบหนีไปไหน ก่อนจะโดนจับกุมดังกล่าว
ส่วนนายอำนาจกล่าวว่า ตอนแรกนายธรายุทธมาชวนบอกว่าจ่าแดงจ้างคนละ 1 แสนบาทให้ไปอุ้มคน จึงตอบตกลง เมื่อไปถึงบ้านผู้ตายตนได้รับมอบหมายให้ควบคุมตัวเด็กทั้งสอง ขณะนั้นได้ยินจ่าแดงคุยโทรศัพท์เรื่องหาโฉนดที่ดิน โดยจ่าแดงและนายกีได้ลงมือรื้อค้นบ้านและหาอะไรบางอย่าง ระหว่างนั้น นายธนวัฒน์ ลูกชายนายธนายศบอกว่าหิวน้ำ ตนจึงเข้าไปในครัวเพื่อหยิบน้ำมาให้แต่ไปเห็นศพนายธนายศถูกยิงเสียชีวิต จึงถามจ่าแดงว่าทำอะไรกัน ตนไม่เอาแล้ว จากนั้นนำนม 2 กล่องไปให้บุตรของนายธนายศ แต่ไม่กล้าบอกว่าพ่อเขาถูกฆ่าตายแล้ว ซึ่งตนได้สัญญากับบุตรของนายธนายศว่าจะไม่ทำร้าย ต่อมาจ่าแดงบอกให้ตนกับนายธีรยุทธไปรอที่รถ จากนั้นมาทราบอีกทีว่าทั้งหมดถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว
“จ่าแดงให้เงินผมแค่ 3,200 บาท ทั้งๆ ที่ตกลงว่าจะให้ 1 แสน หลังเกิดเหตุผมเครียดมาก นอนไม่หลับเพราะลูกๆ ของนายธนายศมาหลอกหลอนจนหวาดผวา อยากขออโหสิกรรมต่อผู้ตายทั้งหมด เพราะผมไม่ได้ลงมือฆ่า ที่ตกเป็นผู้ต้องหาเพราะถูกจ่าแดงหลอกใช้” นายอำนาจ กล่าว
ภายหลังการสอบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนของ สน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีต่อไป
หลักฐานชัดรอยเท้าแท็กซี่ฆ่ายกครัว 5 ศพ - เมียร้องผัวถูก ตร.ซ้อม
คุม 2 แท็กซี่ฆ่ายกครัว 5 ศพฝากขัง-ร้องสื่อถูกซ้อมรับสารภาพ!
รวบ 2 แท็กซี่ฆาตกรใจโหดฆ่ายกครัว 5 ศพ
ตร.ตั้ง 5 ปมสังหาร แบ่งงานสางคดีฆ่ายกครัว 5 ศพ
สุดโหด !!! ฆ่ายกครัว 5 ศพ เจ้าของโรงงานเฟอนิเจอร์ขึ้นอืดคาบ้าน
