ผบช.น.เจรจาเสื้อแดงเปิดถนนแยกสุทธิสารไม่สำเร็จ ไร้เงาแกนนำประสานผู้ชุมนุม เหิมปิดถ.วิภาวดีขาเข้าเพิ่ม ถ่อยทำร้ายชายกลางคนเร่งเครื่องใส่ทนไม่ไหวทำรถติด ตำรวจทำได้เพียงย้ำไม่ให้รุนแรง ส่วนวัตถุต้องสงสัยหน้าโรงแรมสวัสดี พบเป็นเพียงถังใส่ผงถ่าน คาดมือดีสร้างสถานการณ์
วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. บริเวณแยกสุทธิสารวินิจฉัย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี รองผบช.น. พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.ตปพ.พล.ต.ต.วีระพัฒน์ ตันศรีสกุล ผบก.จร.และ พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนวัฒน์ ผกก.สน.สุทธิสาร เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์กลุ่มผุ้ชุมนุมบริเวณสี่แยกสุทธิสารวินิจฉัย ถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้า
โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ เรียกตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมมาพุดคุยเพื่อให้เปิดเส้นทางจราจรเนื่องจากมีผู้พักอาศัยอยู่ถนนมิตรไมตรี ได้รับความเดือนร้อน แต่การเจราจาไม่เป็นผล ทาง พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ จึงเข้าเจรจาแทนโดยให้เหตุผลว่าขอให้กลุ่มผุ้ชุมนุมเปิดเส้นทาง 1 ช่องทางเพื่อให้ผู้พักอาศัยบริเวรดังกล่าวได้ใช้เส้นทางผ่านเข้าไป ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเห็นด้วยและบางส่วนไม่เห็นด้วย ทาง พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ จึงสั่งให้ตำรวจจราจรถอยรถยกที่ปิดเส้นทางอยู่ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยราว 10 คน เข้าไปนอนตรงบริเวณล้อรถยกหลังขวาและหน้ารถ เพื่อกีดขวางไม่เห็นตำรวจเคลื่อนรถออกเพื่อใช้ในการเปิดเส้นทาง
ต่อมาบรรยากาศเริ่มตรึงเครียด พล.ต.ท.วรพงษ์ จึงเข้าเจราจากับกลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้งเพื่อขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดเส้นทาง โดยแสดงความผิดชอบ หากมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาทำร้าย และจะจัดกำลังตำรวจรักษาความปลอดแทนกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณแยกสุทธิสารวินิจฉัย และตรวจรถยนต์ที่ผ่านเข้า-ออก เพื่อความปลอดภัย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่สนใจ พร้อมตะโกนโห่ไล่พร้อมยกตีนตบใส่ ทาง พล.ต.ท.วรพงษ์ จึงเข้าไปหารือกับเจ้าหน้าที่ในศูนย์ควบคุมการจราจรวิภาวดีรังสิต
ต่อมาเวลา 12.00 น.มีชายวัยกลางคนขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ตต-5714 กทม.มาจากถนนวิภาวดี ฝั่งขาเข้า เลี้ยวขวาลอดใต้สะพานข้ามแยกสุทธิสาร พร้อมกับเร่งเครื่องทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจโห่ไล่และเป็นจังหวะที่จราจรติดขัด กลุ่มผู้ชุมนุมจึงวิ่งเข้าไปเปิดประตูรถขว้างปาสิ่งของใส่คนขับและกลุ่มผุ้ชุมนุมอีกบางส่วนได้ใช้สิ่งของขว้างปาใส่ตัวรถทำให้ได้รับความเสียหายและกลุ่มผู้ชุมนุมยังวิ่งไล่เข้าไปทำร้าย ทำให้ผู้ขับขี่ต้องขับรถย้อนศรหนีเข้าไปทางถนนวิภาวดี (ขาออก) ซึ่งขณะนั้น พ.ต.อ.ขจรเกียรติ ศริพันธุ์ ผกก.2 ศูนย์ควบคุมจราจรทางด่วน เห็นเหตุการณ์สั่งให้ตำรวจจราจรกว่า 10 นาย ที่ยืนอยู่บริเวณจุดดังกล่าวเข้าห้ามปรา ทาง พล.ต.ท.วรพงษ์ เห็นเหตุการณ์จึงออกมาดูพร้อมสั่งให้เพิ่มกำลังตำรวจ
พล.ต.ท.วรพงษ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตำรวจไม่มีกฎหมายที่จะดำเนินคดีกับกลุ่มผุ้ชุมนุม เพราะตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรง แต่จะใช้วิธีเจรจาต่อรอง จากการข่าว 70 % ว่าจะมีการวินาศภัยโดยจะใช้วิธีไฟเผาและระเบิด แต่ขอปกปิดเป้าหมายพื้นที่ ซึ่งตนได้ประสานขอกำลังจากทหาร เทศกิจ มาร่วมการปฎิบัติในครั้งนี้ ทั้งนี้หากศาลอนุมัติหมายจับแกนนำเสื้อแดงนั้น ทางตำรวจก็พร้อมปฎิบัติตามแต่การปฎิบัติก็จะไม่ให้การสูญเสีย
ต่อมาเวลา 13.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมที่ตั้งกลุ่มอยู่สุทธิสารวินิจฉัยประมาณ 1,000 คนได้กรูวิ่งเข้ามาปิดหัวถนนสุทธิสารวินิจฉัย ทำให้ผู้สัญจรไปมาต้องงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้นำรถยนต์กระบะ และรถแท็กซี่ทางปิดทางแยกถนนสุทธิสารวินิจฉัย ทั้งสองฝั่งและถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาเข้า ทำให้การจราจรบนถนนวิภาวดีใช้ได้เพียงผู้ที่ใช้สะพานข้ามแยกสุทธิสาร
สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดถนนสุขุมวิท บริเวณปากซอยสุขุมวิท 71 ทั้งขาเข้า-ออก พ.ต.ต.อนันต์ กมลรัตน์ สว.จร. สน.คลองตัน กล่าวว่ากลุ่มผุ้ชุมนุมมีอยู่ประมาณ 150 คน ซึ่งสภาพปัญหาการจราจรนั้นไม่มีปัญหาเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวันทำให้ผู้ใช้รถสัญจรผ่านไป-มา มีจำนวนน้อย จึงไม่เกิดปัญหา
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ปประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และ พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษไชยชาญ ผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม แถลงผลการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย เป็นถังพลาสติกสีขาว บรรจุเศษโลหะคล้ายดินระเบิด ซึ่งผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม ตรวจพบวัตถุดังกล่าวบริเวณโรงแรมสวัสดี ถ.รามบุตรี ใกล้ สน.ชนะสงคราม ภายหลังเรียกหน่วยเก็บกู้ระเบิด หรือ อีโอดี มาตรวจสอบแล้วพบว่า ภายในถังพลาสติกสีขาวดังกล่าว เป็นเพียงผงถ่าน กาว และกระบอกบรรจุพู่กัน เท่านั้น ไม่ใช่วัตถุในการประกอบดินระเบิดแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม เร่งตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ ว่ามีบุคคลใดนำมาวางไว้ ซึ่งคาดว่าเป็นการสร้างความปั่นป่วนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า