ตำรวจสอบสวนกลางจับแก๊งไต้หวันออกอาละวาดตั้งแต่ต้น มี.ค. ตระเวนกดบัตรเอทีเอ็มตามตู้แต่ละแบงก์ในพื้นที่ กทม. เฉพาะไทยพาณิชย์เสียหาย 3 ล้าน ผู้ต้องหารับว่าได้รับจ้างจากนายทุนชาวไต้หวันให้นำบัตรเอทีเอ็มมากดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในประเทศไทย โดยมี จนท.ธนาคารจากจีนโทรศัพท์มาแจ้งนายทุนชาวไต้หวัน เพื่อแจ้งให้ไปกดเงินตามตู้ธนาคารต่างๆ เมื่อได้เงินสดจะมีคนมารับไปอีกต่อหนึ่ง
วันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วยนายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายบริหารการป้องกันทุจริต ธนาคารไทยพาณิชย์ พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว(ผบก.ทท.) พ.ต.อ.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผบก.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทองผกก.1 บก.ทท. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายเฉิน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี สัญชาติไต้หวัน นายเหยา เชงตุง อายุ 41 ปี สัญชาติไต้หวัน นายเชนอายุ 15 ปี สัญชาติไต้หวัน พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 39,000 บาท บัตรเอทีเอ็มจำนวน 176 ใบ กระเป๋าหนังสาย 1 ใบ และมือถือยี่ห้อโนเกีย 3 เครื่อง
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากศูนย์สืบสวนปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและอาชญากรรมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ บก.ทท. ซึ่งเป็นชุดจับกุมได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามการทุจริตบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ว่ามีคนร้ายชาวต่างชาตินำบัตรเอทีเอ็มมาตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มธนาคารต่างๆในเขตพื้นที่กทม. ย่านตะวันนา ทาวน์อินทาวน์และซอยรัชดาภิเษก 18 ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม สร้างความเสียหายไปแล้วหลายล้านบาท จึงได้จัดชุดเฝ้าระวังตามตู้เอทีเอ็มบริเวณดังกล่าว
พล.ต.ท.ไถง กล่าวต่อไปว่า กระทั่งเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (28 มี.ค.) ได้พบนายเฉิน มากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ ข้างร้านเฟรชมาร์ท สาขาโกลเด้นโดม ซอยรัชดาภิเษก 18 ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตามภาพวงจรปิดที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น นายเฉิน โดยจากการตรวจสอบในกระเป๋าสะพายหนังสีดำ พบบัตรเอทีเอ็มจำนวน 76ใบ พร้อมเงินสด 39,000 บาท
จากการสอบสวนนายเฉินรับสารภาพว่าได้ร่วมกับเพื่อนร่วมแก๊งชาวไต้หวันอีก 2 คน ซึ่งพักอยู่ที่ห้องเลขที่ 706 ตึก 13 เหรียญ ซ.รัชดาภิเษก 18 แขวงและเขตห้วยขวาง ตระเวนนำบัตรเอทีเอ็มดังกล่าวไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงพานายเฉินไปที่ห้องดังกล่าว พบนายเหยาและนายเชนภายในห้อง ตรวจค้นพบบัตรเอทีเอ็มอีก 100ใบ เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางที่พบมาตรวจสอบ ต่อมามีเจ้าหน้าที่ธนาคารยูเนี่ยนเปย์ ได้มาตรวจสอบบัตรเอทีเอ็มดังกล่าวพบว่าเป็นบัตรเอทีเอ็มของธนาคารจริง โดยสามารถกดเงินในตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยได้ สำหรับความเสียหายเฉพาะธนาคารไทยพาณิชย์เสียหายไปแล้วกว่า 3 ล้านบาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างจากนายทุนชาวไต้หวันให้นำบัตรเอทีเอ็มดังกล่าวซึ่งเป็นบัตรเอทีเอ็มของจริง มากดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในประเทศไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารจากประเทศจีนโทรศัพท์มาแจ้งรหัสบัตรกับนายทุนชาวไต้หวัน เพื่อแจ้งรหัสให้พวกตนนำบัตรไปตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มธนาคารต่างๆ โดยแต่ละวันเมื่อได้เงินสดจะมีคนมารับไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นหรือประชาชน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน บก.ปศท.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป