คนร้ายควงปืนปลอมจี้แบงก์กรุงเทพ ประกาศก้องก่อนลงมือ “หยุด นี่คือการปล้น!” แล้วกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปกวาดเงินในลิ้นชักได้ 3.4 แสนบาท ใส่กระเป๋าสะพายเรียบร้อย ทว่าไปไม่รอดถูก รปภ.ธนาคารยิงไม่ยั้ง 5 นัดซ้อน คมกระสุนเจาะเข้าหน้าท้องคนร้ายแค่ 1 นัด แต่ก็เพียงพอที่จะหยุดการก่อเหตุของคนร้ายไว้ได้ ขณะที่ตำรวจเดินทางมาถึงตอนจบพอดี และสามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้ ค้นในตัวพบนามบัตรระบุผู้บริหารศูนย์ไทยประกันชีวิต
วันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ทวีระศักดิ์ ติระพัฒน์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ธนาคาร แต่ถูกเจ้าหน้าที่ รปภ.ของธนาคารยิงได้รับบาดเจ็บ และถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ เหตุเกิดที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนนาคนิวาส เลขที่ 18/123 ปากซอยนาคนิวาส 12 ถนนนาคนิวาส แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.มัณฑาร อภัยวงศ์ พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี พ.ต.อ.สมชาติ มาสำราญ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.บุญเพ็ญ มั่งคั่ง ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
ภายในธนาคารที่เกิดเหตุบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ ตำรวจพบเพียงกองเลือด หมวกกันน็อกสีดำ 1 ใบ อาวุธปืนปลอม 1 กระบอก กระเป๋าหนังสะพายสีน้ำตาล 1 ใบ โดยภายในมีเงินสด 340,000 บาท และรอยกระสุนที่เคาน์เตอร์ 2 รู ขณะเดียวกัน คนร้ายซึ่งได้รับบาดเจ็บทราบว่าถูกตำรวจสายตรวจ สน.โชคชัย ควบคุมตัวส่งไปรักษาบาดแผลยังโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล โชคชัย 4 พร้อมทั้งอายัดตัวไว้ดำเนินคดี และต่อมาคนร้ายถูกส่งตัวต่อไปผ่าตัดที่ รพ.ตำรวจ ทราบต่อมาชื่อ นายภัทร ไชยสัตย์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180/457 หมู่ 9 แขวงดอกไม้ แขตประเวศ กทม. ถูกยิงเข้าที่ท้อง 1 นัด โดยเมื่อตำรวจตรวจค้นในตัวคนร้ายพบนามบัตรระบุชื่อ นายภัทร ไชยสัตย์ ผู้บริหารศูนย์สาขาอโศก บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด และพนักงานแอมเวย์
ตำรวจสอบสวนนายกานต์ คงคาศรี อายุ 32 ปี รปภ.ของธนาคร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีพนักงานทำงานประจำเคาน์เตอร์รวม 3 คน โดยมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการอยู่ประมาณ 6-7 คน ขณะนั้นเองคนร้ายสวมหมวกกันน็อกสีดำ สวมแจ็กเกตสีดำทับเสื้อลายสกอตสีน้ำเงิน สวมกางเกงยีนส์ ขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดบนทางเท้าหน้าทางเข้าธนาคาร จากนั้นได้เดินตรงเข้ามาในธนาคาร พร้อมทั้งชักอาวุธปืนออกมาส่ายกราดไปทั่วบริเวณ และประกาศเสียงดังก้องว่า “หยุด นี่คือการปล้น ขอให้ทุกคนอยู่เฉยๆ” จากนั้นคนร้ายกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปกวาดเงินในลิ้นชัก ขณะที่พนักงานธนาคารประจำเคาน์เตอร์ทั้ง 3 คนพากันวิ่งไปหลบอีกทาง
“เมื่อผมเห็นเหตุการณ์ ผมจึงชักอาวุธปืนออกมา พร้อมตะโกนบอกให้ลูกค้าในธนาคารหมอบลง จากนั้นลั่นไกสาดกระสุนตรงเข้าใส่คนร้ายรวม 5 นัด โดยกระสุนเจาะเข้าบริเวณท้องคนร้าย 1 นัด จนได้รับบาดเจ็บ และเมื่อเห็นคนร้ายบาดเจ็บแล้ว ผมจึงบอกให้คนร้ายปีนข้ามเคาท์เตอร์ออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาถึงที่เกิดเหตุพอดี ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวและนำคนร้ายส่งโรงพยาบาล” นายกานต์ให้การกับตำรวจ
ต่อมาตำรวจนำของกลางทั้งหมดมาแถลงข่าว โดย พ.ต.อ.มัณฑารกล่าวว่า คนร้ายได้เข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่ พร้อมกับกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปกวาดเงินใส่กระเป๋าสะพายจำนวน 340,000 บาท และถูก รปภ.ยิงได้รับบาดเจ็บที่ท้อง 1 นัด เป็นจังหวะเดียวกับที่ตำรวจสายตรวจไปถึงที่เกิดเหตุพอดี จึงเข้าควบคุมตัวคนร้าย และรีบนำส่งโรงพยาบาล
พ.ต.อ.มัณฑารกล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธและยานพาหนะต่อนายภัทรไว้ก่อน ซึ่งจากนี้ไปจะนำรถจักรยานยนต์ของคนร้ายไปตรวจสอบ พร้อมทั้งประวัติคนร้ายว่าเคยก่อคดีอะไรมาหรือไม่ ส่วนนายกานต์ รปภ.ที่ใช้อาวุธปืนยิงคนร้ายจนบาดเจ็บนั้น ถือว่าเป็นการป้องกันภัยอันสมควรแก่เหตุ
“ในเขตพื้นที่ของ บก.น.4 ทางตำรวจมีสายตรวจเดินเท้าตามธนาคารและร้านทอง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีรถสายตรวจที่ออกตรวจตามธนาคาร และร้านทองต่างๆ ในเวลา 1 ชั่วโมงต่อ 1 ครั้ง ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตำรวจสายตรวจของเราไปถึงที่เกิดเหตุทันที เนื่องจากกำลังออกตรวจพื้นที่ธนาคารใกล้เคียงอยู่ ก่อนที่จะจับกุมคนร้ายไว้ได้ในที่สุด” พ.ต.อ.มัณฑารกล่าว
วันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ทวีระศักดิ์ ติระพัฒน์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ธนาคาร แต่ถูกเจ้าหน้าที่ รปภ.ของธนาคารยิงได้รับบาดเจ็บ และถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ เหตุเกิดที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนนาคนิวาส เลขที่ 18/123 ปากซอยนาคนิวาส 12 ถนนนาคนิวาส แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.มัณฑาร อภัยวงศ์ พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี พ.ต.อ.สมชาติ มาสำราญ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.บุญเพ็ญ มั่งคั่ง ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
ภายในธนาคารที่เกิดเหตุบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ ตำรวจพบเพียงกองเลือด หมวกกันน็อกสีดำ 1 ใบ อาวุธปืนปลอม 1 กระบอก กระเป๋าหนังสะพายสีน้ำตาล 1 ใบ โดยภายในมีเงินสด 340,000 บาท และรอยกระสุนที่เคาน์เตอร์ 2 รู ขณะเดียวกัน คนร้ายซึ่งได้รับบาดเจ็บทราบว่าถูกตำรวจสายตรวจ สน.โชคชัย ควบคุมตัวส่งไปรักษาบาดแผลยังโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล โชคชัย 4 พร้อมทั้งอายัดตัวไว้ดำเนินคดี และต่อมาคนร้ายถูกส่งตัวต่อไปผ่าตัดที่ รพ.ตำรวจ ทราบต่อมาชื่อ นายภัทร ไชยสัตย์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180/457 หมู่ 9 แขวงดอกไม้ แขตประเวศ กทม. ถูกยิงเข้าที่ท้อง 1 นัด โดยเมื่อตำรวจตรวจค้นในตัวคนร้ายพบนามบัตรระบุชื่อ นายภัทร ไชยสัตย์ ผู้บริหารศูนย์สาขาอโศก บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด และพนักงานแอมเวย์
ตำรวจสอบสวนนายกานต์ คงคาศรี อายุ 32 ปี รปภ.ของธนาคร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีพนักงานทำงานประจำเคาน์เตอร์รวม 3 คน โดยมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการอยู่ประมาณ 6-7 คน ขณะนั้นเองคนร้ายสวมหมวกกันน็อกสีดำ สวมแจ็กเกตสีดำทับเสื้อลายสกอตสีน้ำเงิน สวมกางเกงยีนส์ ขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดบนทางเท้าหน้าทางเข้าธนาคาร จากนั้นได้เดินตรงเข้ามาในธนาคาร พร้อมทั้งชักอาวุธปืนออกมาส่ายกราดไปทั่วบริเวณ และประกาศเสียงดังก้องว่า “หยุด นี่คือการปล้น ขอให้ทุกคนอยู่เฉยๆ” จากนั้นคนร้ายกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปกวาดเงินในลิ้นชัก ขณะที่พนักงานธนาคารประจำเคาน์เตอร์ทั้ง 3 คนพากันวิ่งไปหลบอีกทาง
“เมื่อผมเห็นเหตุการณ์ ผมจึงชักอาวุธปืนออกมา พร้อมตะโกนบอกให้ลูกค้าในธนาคารหมอบลง จากนั้นลั่นไกสาดกระสุนตรงเข้าใส่คนร้ายรวม 5 นัด โดยกระสุนเจาะเข้าบริเวณท้องคนร้าย 1 นัด จนได้รับบาดเจ็บ และเมื่อเห็นคนร้ายบาดเจ็บแล้ว ผมจึงบอกให้คนร้ายปีนข้ามเคาท์เตอร์ออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาถึงที่เกิดเหตุพอดี ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวและนำคนร้ายส่งโรงพยาบาล” นายกานต์ให้การกับตำรวจ
ต่อมาตำรวจนำของกลางทั้งหมดมาแถลงข่าว โดย พ.ต.อ.มัณฑารกล่าวว่า คนร้ายได้เข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่ พร้อมกับกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปกวาดเงินใส่กระเป๋าสะพายจำนวน 340,000 บาท และถูก รปภ.ยิงได้รับบาดเจ็บที่ท้อง 1 นัด เป็นจังหวะเดียวกับที่ตำรวจสายตรวจไปถึงที่เกิดเหตุพอดี จึงเข้าควบคุมตัวคนร้าย และรีบนำส่งโรงพยาบาล
พ.ต.อ.มัณฑารกล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธและยานพาหนะต่อนายภัทรไว้ก่อน ซึ่งจากนี้ไปจะนำรถจักรยานยนต์ของคนร้ายไปตรวจสอบ พร้อมทั้งประวัติคนร้ายว่าเคยก่อคดีอะไรมาหรือไม่ ส่วนนายกานต์ รปภ.ที่ใช้อาวุธปืนยิงคนร้ายจนบาดเจ็บนั้น ถือว่าเป็นการป้องกันภัยอันสมควรแก่เหตุ
“ในเขตพื้นที่ของ บก.น.4 ทางตำรวจมีสายตรวจเดินเท้าตามธนาคารและร้านทอง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีรถสายตรวจที่ออกตรวจตามธนาคาร และร้านทองต่างๆ ในเวลา 1 ชั่วโมงต่อ 1 ครั้ง ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตำรวจสายตรวจของเราไปถึงที่เกิดเหตุทันที เนื่องจากกำลังออกตรวจพื้นที่ธนาคารใกล้เคียงอยู่ ก่อนที่จะจับกุมคนร้ายไว้ได้ในที่สุด” พ.ต.อ.มัณฑารกล่าว