ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติรวมตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตจับแก๊งชาวโรมาเนีย-ตุรกี ปลอมบัตรเอทีเอ็มออกตระเวนกดเงินในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายคิดเป็นเงินไทยกว่า 100 ล้านบาท พบยังมีข้อมูลบัตรที่ไม่ใช้อีกกว่า 5 พันราย ได้ผู้ต้องหา 4 คนพร้อมอุปกรณ์ปลอมบัตร เครื่องถ่ายโอนข้อมูล คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 200 กว่าใบ
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่กองกำกับการ 5 กองบังคับการ ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อม พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับการกองกำกับการตำรวจท่องเที่ยว และ นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายป้องกันการทุจริตบัตรเครดิต ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งคนร้ายข้ามชาติชาวโรมาเนีย 4 คน
ประกอบด้วย 1.MR.ENE BOGBAN CONSTANITN อายุ 23 ปี 2.MR.VIL.VOL CONSTANITN อายุ 36 ปี 3.MR.GOVKLLA FLORIN EUGEN อายุ 33 ปี 4.MRS.GAVRILA ALEXANRA อายุ 36 ปี
พร้อมของกลาง 1.บัตรอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 211 ใบ 2.อุปกรณ์ถ่ายโอนข้อมูล 2 เครื่อง 3.คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง และอื่นๆ อีกหลายรายการ พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มีเครื่องมือหริอวัตถุสำหรับปลอมแปลงข้อมูลในการปลอมแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม
พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า สำหรับการจับกุมแก๊งคนร้ายข้ามชาติในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามอาชญากรข้ามชาติได้จับกุมผู้ต้องหาแก๊งคนร้ายชาวโรมาเนียจำนวน 2 คน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่โจรกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็มจากประเทศแถบยุโรป นำมาทำบัตรอิเล็กทรนิกส์ปลอมและนำมากด้งินที่ตู้เอทีเอ็มในประเทศไทย และจากการจับกุมดังกล่าว ทำให้เกิดการประสานงานระหว่างตำรวจประเทศอังกฤษ ธนาคารไทยพาณิชย์ และตำรวจไทย
หลังจากนั้น ได้มีการประสานจากตำรวจอังกฤษ ว่า มีแก๊งคนร้ายข้ามชาติโจรกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็มของประชาชนชาวอังกฤษและยุโรปมาทำบัตรเอทีเอ็มปลอม แล้วนำมากดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในหลายจังหวัดในประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯ หัวหิน และภูเก็ต สร้างความเสียหายเป็นเงินไทยมากกว่า 100 ล้านบาท
หลังจากได้รับแจ้ง ธนาคารได้ทำการตรวจสอบข้อมูลการใช้บัตรจนพบว่ามีการมาใช้บัตรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จึงได้มอบหมายตำรวจสอบสวนกลางและเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวกอง 5 (ภาคใต้) อออกทำการสืบสวนจนทราบว่าแก๊งคนร้ายข้ามชาติชาวโรมาเนียดังกล่าว ได้เข้าพักที่โรงแรมดังกล่าว จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม ขณะคนร้ายกำลังเก็บของเพื่อเดินทางออกจากพื้นที่หลังตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ภูเก็ต
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าได้นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมกดเงินสดตามตู้เอทีเอ็มธนาคารต่างๆ จริง จึงทำการจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุข ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ปัญจุบันนี้มีชาวยุโรปเข้ามาก่อคดีข้ามชาติจำนวนมาก และมีเทคนิคแปลกๆ ในการกระทำความผิด ซึ่งก่อนที่จะมีการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 รายนี้ เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาชาวโรมาเนียมาแล้ว2 รายที่กรุงเทพฯ โดยเป็นการทำความผิดในลักษณะเดียวกัน และได้ทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 4 คนที่ภูเก็ต แต่เป็นคนละแก๊งกัน
พฤติกรรมผู้ต้องหาทั้ง 2 แก๊ง พบว่า กลุ่มคนร้ายทำการโจรกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็มมาจากประเทศอังกฤษ และประเทศลัตเวีย โดยวิธีนำอุปกรณ์บันทึกข้อมูลจากแถบแม่เหล็กไปติดตั้งตามตู้เอทีเอ็มในประเทศดังกล่าว จากนั้นรวมรวบข้อมูลนำเดินทางมาประเทศไทย และทำการบันทึกข้อมูลลงในบัตรอิเล็กทรนิกส์ซึ่งเตรียมไว้และนำไปกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็ม และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีข้อมูลบัตรเอทีเอ็มที่ยังไม่ได้ใช้อีกกว่า 5,000 ราย
