ตำรวจท่องเที่ยวจับแก๊งขโมยข้อมูลการเงินอดีตสามีชาวอังกฤษ

ตำรวจท่องเที่ยวจับแก๊งขโมยข้อมูลทางการเงินนักท่องเที่ยวอังกฤษอดีตสามี โอนเงินเข้าบัญชีอื่น ผู้ต้องหารับสารภาพอาศัยความใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ธนาคารไม่ต้องใช้เอกสารรับรอง

วันนี้ (14 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท.และพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปศท. ร่วมแถลงข่าวจับกุม น.ส.สุพิชญฎา หาญรบ อายุ 25 ปี นายธนยุทธ สมัตชัย อายุ 25 ปี นักศึกษาปริญญาโท สถาบันการศึกษามีชื่อแห่งหนึ่งย่านอโศก และน.ส.พรทิพย์ รูปชัยภูมิ อายุ 21 ปี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 ชุด และของกลางอื่นๆ รวม 10 รายการ

พล.ต.ต.อดิศร์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและอาชญากรรมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ บก.ปศท.รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)ว่า มีคนร้ายขโมยข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษของธนาคาร มาสมัครการทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบ E-BANKING ของธนาคารแล้วโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลที่สามที่รับจ้างเปิดบัญชีไว้จำนวนเงินประมาณ 1,720,000 บาท แล้วนำบัตร ATM ของบัญชีที่สามารถกดเงินออกไปใช้ตามสถานที่ต่าง ๆ

ต่อมาทางธนาคารประสานกับ บก.ทท.และบก.ปศท.ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.พรทิพย์ เป็นผู้นำข้อมูลไปให้ น.ส.สุพิชญฎา และเป็นผู้สมัครการทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตของธนาคาร โดยนายธนยุทธเป็นผู้นำบัตร ATM ไปกดเงิน ส่วน น.ส.กรรณิกา กุสิมา เป็นผู้เปิดบัญชีรับโอนเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเมืองสุรินทร์

จากนั้นเจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.สุพิชญฎา และนายธนยุทธ ได้ห้องพักเลขที่ 37/3 อาคารเซ็นจูรี่ปาร์ค คอนโดมิเนียม ตึก s ซ.วิภาวดี 22 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร จากนั้นนำตัวทั้งสองสอบสวนขยายผลจับกุม น.ส.พรทิพย์ ได้ที่กมลภัทรเรสซิเดนท์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ แจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปศท.ดำเนินคดี จากการสอบสวน น.ส.พรทิพย์ให้การับสารภาพว่า เอาข้อมูลผู้เสียหายซึ่งเป็นแฟนเก่ามาให้น.ส.สุพิชญฎาเพื่อไปสมัครทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตโดยรู้จักกับเพื่อนที่ทำงานในธนาคาร

พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้คุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้ บก.ปศท.ดำเนินคดี และจะติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมาย การกระทำผิดลักษณะนี้กลุ่มคนร้ายได้นำวิธีการทางเทคโนโลยีรูปแบบใหม่จากการที่ลูกค้าใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตสร้างความเสียหายนับล้านจึงอยากประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมรูปลักษณะนี้อีก

จากการสอบสวน น.ส.พรทิพย์ ให้การรับสารภาพว่า ตนแอบนำข้อมูลส่วนตัวในบัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิต ของนักท่องเที่ยวอังกฤษรายหนึ่งซึ่งเป็นอดีตสามีของตน แล้วส่งไปให้ น.ส.สุพิชญฎา นำไปเปลี่ยนรหัส และสมัครทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบอีแบงก์กิ้งธนาคารแห่งหนึ่งเพื่อโอนเงินออกจากบัญชีนักท่องเที่ยวเข้าบัญชี น.ส.กรรณิการ์ กุสิมา นอกจากนี้ยังให้นายธนยุทธ และคนอื่นนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินออกจากบัญชีธนาคาร

ด้าน น.ส.สุพิชญฎา ให้การว่า อาศัยความสนิทสนมส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ธนาคารจึงได้รับความสะดวกในการเปลี่ยนฐานข้อมูลและรหัสในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยไม่ต้องใช้เอกสารรับรอง ส่วนแบ่งของ น.ส.พรทิพย์ อ้างนำไปไถ่ถอนที่ดินที่จำนองไว้กับธนาคาร ซึ่งทางตำรวจะประสานทางธนาคารให้ตรวจสอบเพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตนและร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน