นายกรัฐมนตรี ระบุผลสำเร็จในการเดินเยือนอังกฤษ ชี้ผู้นำเมืองผู้ดีมั่นใจสถานการณ์การเมืองไทย พร้อมจับมืออาเซียนฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจ เผยนักท่องเที่ยวอังกฤษทะลักเข้าเมืองไทยทั้งปี เกือบ 1 ล้านคน เชื่อธุรกิจการท่องเที่ยวไม่ซบเซาทิ้งท้าย ก่อนกลับมาเยือนอังกฤษอีกครั้งในการประชุมจี 20 ต้นเดือนเมษายนนี้
วันนี้ ( 8มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวบันทึกเทปผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีแห่งประเทศไทย ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศอังกฤษ ตามคำเชิญของนายกอร์ดอนบราวน์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษในระหว่างวันที่ 13-15 มี.ค.นี้ว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมากระผมพร้อมด้วยรัฐมนตรีต่างกระจายกันลงพื้นที่เพื่อติดตามผลงานและแจกแจงนโยบายให้กับประชาชนถึงพื้นที่ โดยขณะนี้มีความวิตกถึงปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะตามมา จึงได้มอบหมายให้พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจติดตามแก้ไขปัญหาต่อไป
นายอภิสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึงความจำเป็นที่รัฐบาลจำเป็นที่จะกู้เงินลงทุนจากต่างประเทศจำนวน 7 หมื่นล้านบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะที่สอง ซึ่งตามกฏหมายรธน.ได้กำหนดให้ต้องขอความเห็นชอบสภาผู้แทนราษฏร นอกจากนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ร่วมประชุมกอ.รมน.เพื่อหารือปัญหาความั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหายาสเพติดและปัญหาสังคมอื่น ๆ ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ชายแดนใต้ 1 ที่ผ่านมาสถานการณ์รุนแรงน่าเป็นห่วงซึ่งเป็นผลพวงจากการเข้มงวดในการกวาดล้างแต่ที่น่ากังวลคือการใช้ทรัพยากรและงบประมาณที่มากเกินไป ซึ่งตรงนี้จะต้องมีปรับลด และในอีก 1 เดือนข้างหน้าจะมีการทบทวนการบังคับใช้กฏหมาย ทั้งกฏอัยการศึกและพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะได้เริ่มกระจายงบชุมนุมเศรษฐกิจพอเพียงประมาณ 8 พันหมู่บ้านขณะที่การปฏิรูปการเมือง หลังจากที่สถาบันพระปกเกล้าได้ตอบรับการเป็นเจ้าภาพในสัปดาห์หน้าจะได้นัดฝ่ายค้านหารือว่าจะให้การปฏิรูปการเมืองเดินหน้าต่อไปอย่างไรก็ตามยืนยันว่ารัฐบาลเป็นประชาธิปไตยและพร้อมเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนตรวจสอบได้อย่างเต็มที่
ในช่วงที่สองทางรายการได้เชิญเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอนนายกิตติ วะสีนนท์ เข้ามาพูดคุยโดยยืนยันว่าอังกฤษและไทยมีความสัมพันธภาพที่ดีต่อกันตั้งแต่ระดับราชวงศ์จนถึงระดับประชากรทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ปัญหาการเมืองทำให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย การที่นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียนในครั้งนี้ ได้พบพบปะกอร์ดอนบราวน์และได้พูดคุยด้านเศรษฐกิจ ถือเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจสำหรับประชาชนคนไทย และยังได้แสดงความเป็นห่วงที่กลุ่มคนเสื้อแดง จะออกมาคัดค้านนายกรัฐมนตรี แม้ว่าการแสดงคิดเห็นจะถือเป็นเสรีภาพ แต่ต้องคำนึงถึงหน้าตาของรัฐบาลทั้งสองประเทศ จึงไม่สมควรที่คนไทยจะออกมาแสดงความเห็นคัดค้าน การแสดงปาฐกถาที่ออกซฟอร์ด ตามที่มีกระแสข่าว
นอกจากนี้ในช่วงท้ายรายการนายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวว่าในการเยือนครั้งนี้ได้มีโอกาสหารือกับผู้บริหารเทสโก้ โดยเขายินดีจะช่วยเหลือเกษตรกรไทยโดยใช้ไทยเป็นตลาดส่งออก ผ่านเทสโก้สาขาต่างๆซึ่งมีอยู่ทั่วโลกเปิดตลาดผลไม้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้มากกว่าเดิมถึง 10 เท่า และจากการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำให้ทราบถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยว เข้าไปเที่ยวเมืองไทยถึง 9 แสนคนถือว่าเยอะมาก และหลังจากปัญหาการเมืองทุเลาลงเชื่อว่าธุรกิจการท่องเที่ยวคงจะดีตามมาในอนาคตและในต้นเดือนเมษายนตนจะกลับมาเยือนอังกฤษอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมประชุม จี 20