เปิดใจ ผอ.ททท.ลอนดอน ต่อแผนเรียกคืนวิกฤตศรัทธาการท่องเที่ยวไทย ชี้ประเด็นหลักอยู่ที่สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกทรุด ฉุดเงินในกระเป๋าลดฮวบ ย้ำชัดประเทศไทยยังอยู่ในใจนักท่องเที่ยว “ถูก-บริการดี” เดินหน้าจับมือพันธมิตรออกสินค้าราคาประหยัด พร้อมขยายฐานนักท่องเที่ยวอังกฤษผ่านบัตร Amazing Thailand Card เผยตัวเลข ม.ค-ก.ค.ปีที่ผ่านมา ชาวอังกฤษเยือนไทยเกือบ 5 แสนคน ยอมรับ 4 เดือนหลังยอดลดลง 70%
ไม่ง่ายนักสำหรับการเรียกคืนความเชื่อมั่นเรื่องการท่องเที่ยวไทยให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ภายหลังการเกิดวิกฤตทางการเงินครั้งใหญ่ที่ลุกลามกระทบต่อเศรษฐกิจทุกประเทศในโลก ในขณะที่ประเทศไทยปัญหาทางการเมืองที่ยังคงเหมือนไฟที่ยังไม่มอดดับอย่างสนิท ซึ่งอาจจะปะทุขึ้นมาอีกครั้งในวันใดวันหนึ่ง รวมถึงเหตุการณ์เศร้าสลดของคนไทยและชาวต่างประเทศกรณีเพลิงไหม้สถาบันชื่อดังในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปัจจัยต่างๆ นั้นถือได้ว่าส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ
“ASTVผู้จัดการ” ได้สัมภาษณ์พิเศษเปิดใจ นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานลอนดอน หน่วยงานหลักที่ต้องเร่งเรียกความเชื่อมั่น รวมถึงการสร้างภาพลักษณที่ดี ที่ถูกต้องของประเทศไทยในขณะนี้ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อฟื้นวิกฤตศรัทธาความเชื่อมั่นในครั้งนี้
นายธเนศวร์ กล่าวยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ถือว่าส่งผลกระทบในวงกว้างกับภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่มีความมั่นใจต่อการเข้ามาพักผ่อนในประเทศไทยอย่างเต็มที่ แต่หากจะมองในภาพรวมแล้วเรื่องดังกล่าวไม่ได้ถือว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางไปเที่ยวในประเทศไทยลดลง
ทั้งนี้ เหตุผลหลักที่สำคัญที่ส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยว คือ สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่ตกอยู่ในภาวะตกต่ำที่สุดอีกครั้งในประวัติศาสตร์ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราหลายประเทศที่อ่อนค่าลง ซึ่งส่งผลต่อการจ้างงาน ค่าครองชีพ ฯลฯ
“ค่าเงินปอนด์ที่ปรับตัวอ่อนค่าลงจากที่เคยแตะระดับ 70 กว่าบาท เมื่อเทียบกับ 1 ปอนด์ขณะที่ในปัจจุบันปรับลดลงอยู่ในระดับ 50 บาทต้นๆ ต่อ 1 ปอนด์ ซึ่งหมายความว่า เงินในกระเป๋าของนักท่องเที่ยวในเวลานี้ลดลงอย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษหรือชาวยุโรปก็ตามยังสนใจที่จะไปพักผ่อน เนื่องจากค่าครองชีพที่ต่ำ รวมถึงการบริการด้านต่างๆที่เป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยว”
อย่างไรก็ตาม แผนการกระตุ้นและเรียกความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวกับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยหลังจากก่อนหน้านี้ ททท.ลอนดอนได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อหวังสร้างความเข้าใจ และเป็นการยอมรับผิดต่อเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าในท้ายที่สุดนักท่องเที่ยวจะเข้าใจและหันมาให้ความสนใจที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น
นายธเนศวร์ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินการต่อจากนี้ ในส่วนของ ททท.ลอนดอน จะเริ่มเน้นในเรื่องการจับมือกับพันธมิตร กลุ่มบริษัทนำเที่ยวเพื่อให้ออกสินค้า แพกเกจท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ เพื่อเรียกความสนใจให้กับคืนมา รวมถึงการเร่งขยายฐานผู้ใช้บริการบัตร Amazing Thailand Card ซึ่งเป็นบัตรที่ให้สิทธิประโยชน์กับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่สนใจที่จะไปเที่ยวในประเทศไทย ทั้งในเรื่องส่วนลดต่างๆไม่ว่าจะเป็นค่าเครื่องบิน โรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯ รวมถึงร้านอาหารไทยอีกหลายแห่งในอังกฤษ
ทั้งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้งานบัตรดังกล่าวแล้วประมาณ 5,000-7,000 ราย โดยในช่วงเดือนก.พ.ปีนี้ จะมีงานส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ททท.ลอนดอน คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวลงทะเบียนใช้บัตรดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก 10,000 ราย ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวหลังจากนี้ ททท.จะมีการดำเนินการส่งข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเมืองไทยให้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากถือว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สนใจจะเดินทางไปพักผ่อนในประเทศไทยอย่างมาก
นอกจากนี้ ในอนาคต ททท.ลอนดอน มีแผนที่จะขยายสิทธิประโยชน์การใช้บัตรดังกล่าวไปยังประเทศต่างๆ โดยในช่วงแรกอาจจะมีการติดต่อไปยังร้านค้า หรือผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศเพื่อขอความร่วมมือในการให้ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษบางอย่าง ซึ่งจะช่วยสร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น
สำหรับแผนงานในอนาคตกิจการต่างๆ ของ ททท.ลอนดอน ในปีนี้ จะเน้นไปที่การให้บริการท่องเที่ยวโดยตรงโดยจะลดการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบการโฆษณาแต่จะเน้นการเข้าไปร่วมออกสินค้าและบริการใหม่กับบริษัทนำเที่ยว รวมถึงการนำกิจกรรมที่เคยได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ คือ การร่วมแข่งขันถ่ายภาพโดยในครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนรูปแบบไปเพื่อสร้างความน่าสนใจ เช่น การจัดทำพาสปอร์ตภาพถ่ายโดยอาจจะกำหนดสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางไปถ่ายภาพมา เพื่อลงพาสปอร์ตดังกล่าว ซึ่งหากนักท่องเที่ยวรายใดสามารถถ่ายภาพได้ครบตามที่กำหนดอาจจะมีการให้รางวัลขนาดใหญ่ เพื่อสร้างแรงจูงใจ เป็นต้น
นายธเนศวร์ กล่าวสรุปถึงภาพรวมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เดินทางเข้าไปพักผ่อนในประเทศไทย ว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวถือได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีการพักยาวนานที่สุดกลุ่มหนึ่งโดยเฉลี่ยต่อคนจะใช้เวลาอยู่ในประเทศไทยต่อทริปถึง 16.70 วันและมีการใช้จ่ายต่อวันสูงถึง 3,800 บาท โดยข้อมูล ณ ปี 2551 จาก ม.ค.-ก.ค.มีนักท่องเที่ยวจากอังกฤษเดินทางไปประเทศไทยเกือบ 5 แสนคนแต่ช่วงท้ายปีซึ่งเกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้นในประเทศทำให้ตัวเลขการเดินทางลดลงประมาณ 70% จากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวในปี 2552 อาจจะปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปีจำนวนนักท่องเที่ยวจากอังกฤษที่เดินทางไปยังประเทศไทยจะเข้าสู่สภาวะปกติ และในปี 2553 ยอดนักท่องเที่ยวทั้งปีน่าจะกลับเข้ามาตามเป้าหมายที่คาดการณ์ได้หากไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นมากระทบเพิ่มเติม
ไม่ง่ายนักสำหรับการเรียกคืนความเชื่อมั่นเรื่องการท่องเที่ยวไทยให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ภายหลังการเกิดวิกฤตทางการเงินครั้งใหญ่ที่ลุกลามกระทบต่อเศรษฐกิจทุกประเทศในโลก ในขณะที่ประเทศไทยปัญหาทางการเมืองที่ยังคงเหมือนไฟที่ยังไม่มอดดับอย่างสนิท ซึ่งอาจจะปะทุขึ้นมาอีกครั้งในวันใดวันหนึ่ง รวมถึงเหตุการณ์เศร้าสลดของคนไทยและชาวต่างประเทศกรณีเพลิงไหม้สถาบันชื่อดังในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปัจจัยต่างๆ นั้นถือได้ว่าส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ
“ASTVผู้จัดการ” ได้สัมภาษณ์พิเศษเปิดใจ นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานลอนดอน หน่วยงานหลักที่ต้องเร่งเรียกความเชื่อมั่น รวมถึงการสร้างภาพลักษณที่ดี ที่ถูกต้องของประเทศไทยในขณะนี้ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อฟื้นวิกฤตศรัทธาความเชื่อมั่นในครั้งนี้
นายธเนศวร์ กล่าวยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ถือว่าส่งผลกระทบในวงกว้างกับภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่มีความมั่นใจต่อการเข้ามาพักผ่อนในประเทศไทยอย่างเต็มที่ แต่หากจะมองในภาพรวมแล้วเรื่องดังกล่าวไม่ได้ถือว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางไปเที่ยวในประเทศไทยลดลง
ทั้งนี้ เหตุผลหลักที่สำคัญที่ส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยว คือ สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่ตกอยู่ในภาวะตกต่ำที่สุดอีกครั้งในประวัติศาสตร์ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราหลายประเทศที่อ่อนค่าลง ซึ่งส่งผลต่อการจ้างงาน ค่าครองชีพ ฯลฯ
“ค่าเงินปอนด์ที่ปรับตัวอ่อนค่าลงจากที่เคยแตะระดับ 70 กว่าบาท เมื่อเทียบกับ 1 ปอนด์ขณะที่ในปัจจุบันปรับลดลงอยู่ในระดับ 50 บาทต้นๆ ต่อ 1 ปอนด์ ซึ่งหมายความว่า เงินในกระเป๋าของนักท่องเที่ยวในเวลานี้ลดลงอย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษหรือชาวยุโรปก็ตามยังสนใจที่จะไปพักผ่อน เนื่องจากค่าครองชีพที่ต่ำ รวมถึงการบริการด้านต่างๆที่เป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยว”
อย่างไรก็ตาม แผนการกระตุ้นและเรียกความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวกับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยหลังจากก่อนหน้านี้ ททท.ลอนดอนได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อหวังสร้างความเข้าใจ และเป็นการยอมรับผิดต่อเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าในท้ายที่สุดนักท่องเที่ยวจะเข้าใจและหันมาให้ความสนใจที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น
นายธเนศวร์ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินการต่อจากนี้ ในส่วนของ ททท.ลอนดอน จะเริ่มเน้นในเรื่องการจับมือกับพันธมิตร กลุ่มบริษัทนำเที่ยวเพื่อให้ออกสินค้า แพกเกจท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ เพื่อเรียกความสนใจให้กับคืนมา รวมถึงการเร่งขยายฐานผู้ใช้บริการบัตร Amazing Thailand Card ซึ่งเป็นบัตรที่ให้สิทธิประโยชน์กับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่สนใจที่จะไปเที่ยวในประเทศไทย ทั้งในเรื่องส่วนลดต่างๆไม่ว่าจะเป็นค่าเครื่องบิน โรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯ รวมถึงร้านอาหารไทยอีกหลายแห่งในอังกฤษ
ทั้งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้งานบัตรดังกล่าวแล้วประมาณ 5,000-7,000 ราย โดยในช่วงเดือนก.พ.ปีนี้ จะมีงานส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ททท.ลอนดอน คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวลงทะเบียนใช้บัตรดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก 10,000 ราย ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวหลังจากนี้ ททท.จะมีการดำเนินการส่งข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเมืองไทยให้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากถือว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สนใจจะเดินทางไปพักผ่อนในประเทศไทยอย่างมาก
นอกจากนี้ ในอนาคต ททท.ลอนดอน มีแผนที่จะขยายสิทธิประโยชน์การใช้บัตรดังกล่าวไปยังประเทศต่างๆ โดยในช่วงแรกอาจจะมีการติดต่อไปยังร้านค้า หรือผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศเพื่อขอความร่วมมือในการให้ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษบางอย่าง ซึ่งจะช่วยสร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น
สำหรับแผนงานในอนาคตกิจการต่างๆ ของ ททท.ลอนดอน ในปีนี้ จะเน้นไปที่การให้บริการท่องเที่ยวโดยตรงโดยจะลดการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบการโฆษณาแต่จะเน้นการเข้าไปร่วมออกสินค้าและบริการใหม่กับบริษัทนำเที่ยว รวมถึงการนำกิจกรรมที่เคยได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ คือ การร่วมแข่งขันถ่ายภาพโดยในครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนรูปแบบไปเพื่อสร้างความน่าสนใจ เช่น การจัดทำพาสปอร์ตภาพถ่ายโดยอาจจะกำหนดสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางไปถ่ายภาพมา เพื่อลงพาสปอร์ตดังกล่าว ซึ่งหากนักท่องเที่ยวรายใดสามารถถ่ายภาพได้ครบตามที่กำหนดอาจจะมีการให้รางวัลขนาดใหญ่ เพื่อสร้างแรงจูงใจ เป็นต้น
นายธเนศวร์ กล่าวสรุปถึงภาพรวมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เดินทางเข้าไปพักผ่อนในประเทศไทย ว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวถือได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีการพักยาวนานที่สุดกลุ่มหนึ่งโดยเฉลี่ยต่อคนจะใช้เวลาอยู่ในประเทศไทยต่อทริปถึง 16.70 วันและมีการใช้จ่ายต่อวันสูงถึง 3,800 บาท โดยข้อมูล ณ ปี 2551 จาก ม.ค.-ก.ค.มีนักท่องเที่ยวจากอังกฤษเดินทางไปประเทศไทยเกือบ 5 แสนคนแต่ช่วงท้ายปีซึ่งเกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้นในประเทศทำให้ตัวเลขการเดินทางลดลงประมาณ 70% จากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวในปี 2552 อาจจะปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปีจำนวนนักท่องเที่ยวจากอังกฤษที่เดินทางไปยังประเทศไทยจะเข้าสู่สภาวะปกติ และในปี 2553 ยอดนักท่องเที่ยวทั้งปีน่าจะกลับเข้ามาตามเป้าหมายที่คาดการณ์ได้หากไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นมากระทบเพิ่มเติม
