ASTVผู้จัดการออนไลน์ – สื่ออังกฤษ “ซันเดย์ มิร์เรอร์” เผยแพร่ผลวิจัยพบ ประเทศไทยยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับชาวอังกฤษ ดีกว่า แอฟริกาใต้ มาเลเซีย เคนยา และประเทศอื่นๆ ในยุโรป ชี้ค่าครองชีพถูกกว่าไปเที่ยวอิตาลีเกือบครึ่ง
ช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Sunday Mirror และสำนักข่าว Post Office travel services ได้นำเสนอข่าวระบุถึงผลการสำรวจและการวิจัยที่บ่งชี้ว่า ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดของนักท่องเที่ยวจากเมืองผู้ดี โดยข่าวดังกล่าวระบุว่า แม้วิกฤตเศรษฐกิจโลกจะกระทบสหราชอาณาจักรอย่างหนัก แต่หากชาวอังกฤษต้องการจะเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนให้คุ้มค่าก็ควรลองที่จะเดินทางไกลไปยังจุดหมายอย่างเช่น ประเทศไทย มาเลเซีย แอฟริกาใต้ หรือ เคนยา ดู
ในช่วงที่ผ่านมาเงินปอนด์อังกฤษนั้นอ่อนค่าลงอย่างมาก แต่แม้ว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาเงินปอนด์จะด้อยค่าลงถึงร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับค่าเงินบาท แต่ประเทศไทยก็ยังคงถือเป็นจุดหมายท่องเที่ยวต่างแดนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอยู่ โดยค่าใช้จ่ายในการมาเที่ยวเมืองไทยนั้นคิดเป็นแค่ครึ่งเดียวของการเดินทางไปเที่ยวยังอิตาลี ประเทศที่แพงที่สุดในหมู่ประเทศยูโรโซน และ ถูกกว่าการไปเที่ยวสเปนถึงร้อยละ 43 เลยทีเดียว รายงานชิ้นดังกล่าวระบุ
ผู้ทำวิจัยดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การจัดอันดับนั้นมาจากการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายจาก ราคาอาหารเย็นครบสูตร (3 คอร์ส) ไวน์หนึ่งขวด ครีมกันแดด น้ำแร่ บุหรี่ กาแฟ และ โค้กกระป๋อง ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วพบว่า ในอิตาลีต้องใช้เงินมากถึง 84.58 ปอนด์เพื่อซื้อสินค้าเหล่านี้ ขณะที่ในเมืองไทยใช้เงินเพียง 39.02 ปอนด์ก็ซื้อสินค้าทั้งหมดนี้ได้แล้ว
นายแอนดริว สไปซ์ หนึ่งในคณะผู้ทำวิจัยกล่าวว่า “เมื่อเทียบกับปอนด์อังกฤษแล้ว แม้ว่าค่าเงินบาทไทย ค่าเงินปอนด์อียิปต์ ค่าเงินริงกิตมาเลเซีย จะแข็งขึ้นอีก แต่ค่าครองชีพในประเทศเหล่านี้ก็ยังถือว่าถูกมากอยู่ ดังนั้น เมื่อเทียบกับการไปตามรีสอร์ตยอดยิยมต่างๆ ในยุโรป นักท่องเที่ยวอังกฤษจะพบว่าเงินของเขาคุ้มค่ามากในประเทศเหล่านี้”
ทั้งนี้ จุดหมายท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุด 10 อันดับสำหรับคนอังกฤษจากรายงานดังกล่าวประกอบไปด้วย ไทย (39.02 ปอนด์) แอฟริกาใต้ (45.50 ปอนด์) มาเลเซีย (46.26 ปอนด์) เคนยา (53.06 ปอนด์) สเปน (69.13 ปอนด์) สหรัฐอเมริกา (73.92 ปอนด์) กรีซ (74.63 ปอนด์) ฝรั่งเศส (79.08 ปอนด์) โปรตุเกส (80.97 ปอนด์) อิตาลี (84.58 ปอนด์) เม็กซิโก (102.16 ปอนด์) และ บาร์เบโดส (151.61 ปอนด์)
ช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Sunday Mirror และสำนักข่าว Post Office travel services ได้นำเสนอข่าวระบุถึงผลการสำรวจและการวิจัยที่บ่งชี้ว่า ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดของนักท่องเที่ยวจากเมืองผู้ดี โดยข่าวดังกล่าวระบุว่า แม้วิกฤตเศรษฐกิจโลกจะกระทบสหราชอาณาจักรอย่างหนัก แต่หากชาวอังกฤษต้องการจะเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนให้คุ้มค่าก็ควรลองที่จะเดินทางไกลไปยังจุดหมายอย่างเช่น ประเทศไทย มาเลเซีย แอฟริกาใต้ หรือ เคนยา ดู
ในช่วงที่ผ่านมาเงินปอนด์อังกฤษนั้นอ่อนค่าลงอย่างมาก แต่แม้ว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาเงินปอนด์จะด้อยค่าลงถึงร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับค่าเงินบาท แต่ประเทศไทยก็ยังคงถือเป็นจุดหมายท่องเที่ยวต่างแดนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอยู่ โดยค่าใช้จ่ายในการมาเที่ยวเมืองไทยนั้นคิดเป็นแค่ครึ่งเดียวของการเดินทางไปเที่ยวยังอิตาลี ประเทศที่แพงที่สุดในหมู่ประเทศยูโรโซน และ ถูกกว่าการไปเที่ยวสเปนถึงร้อยละ 43 เลยทีเดียว รายงานชิ้นดังกล่าวระบุ
ผู้ทำวิจัยดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การจัดอันดับนั้นมาจากการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายจาก ราคาอาหารเย็นครบสูตร (3 คอร์ส) ไวน์หนึ่งขวด ครีมกันแดด น้ำแร่ บุหรี่ กาแฟ และ โค้กกระป๋อง ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วพบว่า ในอิตาลีต้องใช้เงินมากถึง 84.58 ปอนด์เพื่อซื้อสินค้าเหล่านี้ ขณะที่ในเมืองไทยใช้เงินเพียง 39.02 ปอนด์ก็ซื้อสินค้าทั้งหมดนี้ได้แล้ว
นายแอนดริว สไปซ์ หนึ่งในคณะผู้ทำวิจัยกล่าวว่า “เมื่อเทียบกับปอนด์อังกฤษแล้ว แม้ว่าค่าเงินบาทไทย ค่าเงินปอนด์อียิปต์ ค่าเงินริงกิตมาเลเซีย จะแข็งขึ้นอีก แต่ค่าครองชีพในประเทศเหล่านี้ก็ยังถือว่าถูกมากอยู่ ดังนั้น เมื่อเทียบกับการไปตามรีสอร์ตยอดยิยมต่างๆ ในยุโรป นักท่องเที่ยวอังกฤษจะพบว่าเงินของเขาคุ้มค่ามากในประเทศเหล่านี้”
ทั้งนี้ จุดหมายท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุด 10 อันดับสำหรับคนอังกฤษจากรายงานดังกล่าวประกอบไปด้วย ไทย (39.02 ปอนด์) แอฟริกาใต้ (45.50 ปอนด์) มาเลเซีย (46.26 ปอนด์) เคนยา (53.06 ปอนด์) สเปน (69.13 ปอนด์) สหรัฐอเมริกา (73.92 ปอนด์) กรีซ (74.63 ปอนด์) ฝรั่งเศส (79.08 ปอนด์) โปรตุเกส (80.97 ปอนด์) อิตาลี (84.58 ปอนด์) เม็กซิโก (102.16 ปอนด์) และ บาร์เบโดส (151.61 ปอนด์)