รมว.ยุติธรรม ชี้ช่องให้ข้าราชการที่ได้รับผลกระทบจาก กบข. ขาดทุดควรไปแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อเข้าสู่ระบบการสอบสวน พร้อมกันนี้ ได้เชิญชวนประชาชนใช้บริการปรึกษาด้านกฎหมายผ่านคลินิกยุติธรรม 78 แห่งทั่วประเทศ ให้มากขึ้น หลังพบ 5 ปีผ่านมามีประชาชนใช้บริการกว่าแสนราย สั่งกรมคุ้มครองสิทธิฯ ทำงานเชิงรุกเน้นจัดคลินิกยุติธรรมเคลื่อนที่ไปทุกชุมชนให้ทั่วถึง
วันนี้ (14 มี.ค.)นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เป็นประธานเปิดงานการจัดกิจกรรม 5 ปี คลินิกยุติธรรมเพื่อประชาชน “ตีกลองร้องทุกข์ ที่คลินิกยุติธรรม” ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจัดขึ้น ณ บริเวณลานวิกตอรีพอยท์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีกิจกรรมการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย รับเรื่องราวร้องทุกข์ การจัดนิทรรศการบทบาทภารกิจของกรมคุ้มครองสิทธิฯ และการแสดงละครเหตุการณ์จำลองส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพ
นายพีระพันธุ์กล่าวภายหลังว่า จากการเปิดให้บริการผ่านคลินิกยุติธรรม 78 แห่งทั่วประเทศ ตลอด 5 ปี มีประชาชนเข้ารับบริการปรึกษาทางกฎหมายและแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์กว่า 130,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูง แต่เชื่อว่ายังมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอีกมาก ยังไม่เข้าถึงบริการ ดังนั้น ได้สั่งการให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ ทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยจะมีการจัดคลินิกยุติธรรมเคลื่อนที่สัญจรไปทุกชุมชนทุกหมู่บ้านให้ประชาชนรับทราบถึงสิทธิของตนเอง
นายพีระพันธุ์ได้กล่าวถึงกรณีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) บริหารกองทุนฯ ขาดทุน ว่า หากเห็นว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น ข้าราชการควรไปแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน
ทั้งนี้ ในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มีอำนาจสืบสวนสอบสวนการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ภาครัฐได้ทั้งระบบ แต่ถ้าเข้าสู่กระบวนการดำเนินการในอำนาจ ที่จะให้คณะกรรมการชี้ขาดว่ามีการทุจริตหรือไม่ ในส่วนของ ป.ป.ท. จะทำได้ไม่เกินข้าราชการระดับ 8 ซึ่งข้าราชการระดับสูงกว่านี้ จะต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งนี้หากพบว่ามีความผิดทางอาญาเกิดขึ้น ในส่วนของข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข.ทุกคนถือว่าเป็นผู้เสียหาย สามารถเข้าแจ้งความต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายได้
นายพีระพันธุ์กล่าวอีกว่า เบื้องต้นตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำทุจริตในภาครัฐแล้ว และได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกลับไป เนื่องจากมีข้อมูลมากกว่า เพื่อนำไปพิจารณาดำเนินการต่อไป